ภูมิแพ้ในเด็ก รู้เท่าทันป้องกันได้


915 ผู้ชม


ขึ้นชื่อว่าความเจ็บป่วยไม่ว่าจะด้วยโรคใดแล้วย่อมไม่มีใครปรารถนาอยากให้ เกิดขึ้น การเตรียมความพร้อมมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสิ่งนี้ล้วนมีความหมาย ความสำคัญ เช่นเดียวกับ โรคภูมิแพ้ในเด็ก...           ขึ้นชื่อว่าความเจ็บป่วยไม่ว่าจะด้วยโรคใดแล้วย่อมไม่มีใครปรารถนาอยากให้ เกิดขึ้น การเตรียมความพร้อมมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสิ่งนี้ล้วนมีความหมาย ความสำคัญ เช่นเดียวกับ โรคภูมิแพ้ในเด็ก... 

 


ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์ของโรคมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยปัญหาดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ได้จัดเสวนาในหัวข้อ สืบให้รู้ดูให้แน่ โรคภูมิแพ้ป้องกันได้ โดยมี รศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้ความรู้

จากอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้ที่ศึกษาวิจัยพบว่ามีเพิ่มขึ้นในทุกโรคโดยเฉพาะ ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ แพ้อากาศหรือเป็นหวัดเรื้อรัง อีกทั้งพบการแพ้อาหาร รองลงมาจะเป็นหอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ส่วนในเรื่องของการแพ้นมวัวพบในเด็กขวบปีแรกโดยอายุเฉลี่ยที่วินิจฉัย 14.8 เดือนและที่อายุน้อยสุดประมาณ 7 วันโดยระยะของอาการมีได้นับแต่ 2 นาทีหลังจากการทานนมโดยใบหน้าบวม หายใจไม่ออกและอาจช็อกหมดสติได้

การได้รับโภชนาการที่เหมาะสมนับแต่เริ่มต้น สิ่งนี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ อีกทั้ง ประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวสิ่งนี้นั้นก็มีส่วนสำคัญซึ่งการค้นหาประวัติครอบ ครัวเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยป้องกันการเกิดภูมิแพ้ของทารกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และถูกต้องทันท่วงที

“ในครอบครัวหากพ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ 20-40 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้โอกาสที่ลูกจะเป็นภูมิแพ้ก็จะมีมากราว 50-80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ นอกจากปัจจัยจากพันธุกรรม ประวัติภูมิแพ้ของคนในครอบครัวแล้วยังมีปัจจัยจาก  สิ่งแวดล้อมด้วย”

สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ อาหาร นอกจากนี้อาจมาจากการที่เด็กกินนมแม่น้อยลง โดยเฉพาะในกลุ่มที่แม้ต้องทำงานนอกบ้านซึ่งการส่งเสริมให้ทารกได้รับนมแม่ อย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรกถือว่ามีส่วนช่วยป้องกันลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับ ลูกน้อยเพื่อหลีกไกลจากภูมิแพ้ เริ่มได้นับแต่การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีความเสี่ยงสูงต้องไม่มองข้ามละเลยควบคุมสิ่งแวดล้อม ภายในบ้าน เช่น ในเรื่องของไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ต้องหมั่นทำความสะอาดดูแล

ขณะเดียวกัน คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารที่มีความสมดุล การรับประทานนมก็มีความสำคัญหลีกเลี่ยงการดื่มนมวัวในปริมาณที่มากกว่าปกติ ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร อีกทั้งหลังคลอดควรให้ลูกได้ทานนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนซึ่งก็จะช่วยลดการสัมผัสกับโปรตีนแปลกปลอมช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกายลดการเกิดภูมิแพ้ในเด็กซึ่งถือว่าเป็นการป้องกัน แต่หากไม่สามารถให้นมแม่ได้เลือกให้นมสูตรเอชเอ (H.A.) ที่มีโปรตีนเวย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภูมิแพ้ได้.
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=901&sub_id=2&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด