ขอให้มีสุขภาพดี เป็นคำอวยพรที่นิยมใช้กันมากขึ้น เพราะมีความหมายรวมถึงการมีสุขภาพกายและ สุขภาพจิตที่ดีพร้อมกันไป แนวทางปฏิบัติตัวให้บรรลุเป้าหมายของการมีสุขภาพดีนั้น มีหลายวิธี แต่ที่ ยอมรับ และสามารถปฏิบัติได้จริง สำหรับคนทั่วไป ที่ยังต้องสู้กับความผันแปร ของภาวะต่างๆในชีวิต ประจำวัน ก็คือ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะได้ผลโดยตรง คือมีสุขภาพทาง กายที่ดีแล้ว ยังมีผลทางอ้อม คือจะไปช่วยผ่อนคลายความเครียดและความวิตกกังวลในใจทำให้มีสุขภาพจิตดี จึงได้ผลดีครบทั้งทางกายและทางจิตใจ |
ข้อดีของการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ | |
1. หัวใจ ปอด หลอดเลือดและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น 2. กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูกและข้อแข็งแรง มีพลัง 3. ตับ ไต และระบบขับถ่ายดี ี4. เสริมภูมิต้านทานโรคบางอย่าง เช่น หวัด, ภูมิแพ้ 5. ป้องกันและลดความรุนแรงของโรคบางโรค เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันใน เลือดสูงและโรคอ้วน เป็นต้น 6. ชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ 7. ผ่อนคลายความเครียดและความวิตกกังวล ข้ออ้าง หรือ คำตอบที่ใช้กันอยู่เสมอ ในผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย คือ งานยุ่ง ไม่มีเวลา ซึ่งตาม ความเป็นจริงนั้น แทบทุกคนทราบดีว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่าง ยิ่ง วิธีแก้มี 3 ขั้นตอน คือ |
|
ขั้นตอนแรก | | |
ศึกษาและเรียนรู้ถึง คุณและโทษ ของการออกกำลังกายอย่างจริงจังเพื่อสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น และความตั้งใจแน่วแน่ว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ และจำเป็นสำหรับตัวเราเพื่อการมีสุขภาพดีไป จนถึงวัยสูงอายุและถึงแม้จะเป็นผู้สูงอายุแล้วก็ตามการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยให้เป็นผู้ สูงอายุที่มีคุณภาพ สามารถช่วยตัวเอง และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างดี ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานและ ผู้ใกล้ชิดมากเกินความจำเป็น | | | ขั้นต่อไป | | ต้องพยายามจัดเวลา ที่เหมาะสมให้กับตัวเอง เพื่อใช้ออกกำลังกาย ซึ่งอาจจะเป็นตอนเช้าอากาศ แจ่มใส ตอนเย็นหลังเลิกงานหรือตอนกลางคืนก็ได้เช่นกันช่วงละประมาณ 30 - 40 นาทีแต่ควรจะเป็น ช่วงเวลาเดียวกัน เช่น ถ้าจะเลือกตอนเช้าก็เช้าเหมือนกันหรือเลือกตอนเย็นก็เย็นเหมือนกัน เนื่องจาก ร่างกายจะได้ปรับตัวรับการออกกำลังกายของเราได้ดีกว่าในหลายระบบเช่นระบบเผาผลาญพลังงาน, ระบบฮอร์โมน และการทำงานของสมองเพื่อประสานกับระบบกล้ามเนื้อ เป็นต้น | | | ขั้นตอนสุดท้าย | | คือการเลือกชนิดของกีฬาที่ถูกกับอุปนิสัย และเหมาะสมกับตัวเราเองมากที่สุด ซึ่งได้ให้ข้อสังเกต สำหรับเรื่องข้อดีข้อเสียของกีฬาแบบแอโรบิคชนิดต่างๆ ไว้ตอนท้ายด้วย มีหลักการง่ายๆ คือ 1. ควรเป็นชนิดที่เรามีความชอบและถนัดอยู่บ้างแล้วเพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายจึงจะสามารถทำได้สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง 2. ควรเป็นชนิดที่เราสามารถปรับความหนักเบาของการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเอง 3. ควรเป็นชนิดที่สามารถเล่นได้แทบทุกสภาวะอากาศ เช่น ถึงแม้ฝนตกก็สามารถปรับให้ออกกำลัง ได้ไม่ต้องหยุดชะงักหรือต้องงดไปหลาย ๆ ครั้ง 4. ไม่ควรเป็นกีฬาชนิดที่มีการปะทะหรือทำให้บาดเจ็บง่ายเช่น บาสเก็ตบอล ฟุตบอล รักบี้ เป็นต้น 5. ใช้เวลาเตรียมตัวและค่าใช้จ่ายไม่มากนัก 6. ที่สำคัญที่สุดคือเป็นกีฬาชนิดที่จัดอยู่ในกลุ่มของ การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ( Aerobic Exercise) ในปัจจุบันวงการแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์การกีฬายอมรับว่าการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพ สำหรับทุกเพศวัย ควรจะเป็นกีฬาในกลุ่มของ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคโดยไม่เน้นเรื่องการแข่ง ขันเป็นสำคัญ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง Jogging (รวมทั้งวิ่งบนเครื่องลู่วิ่งกล) ถีบจักรยาน(รวมทั้งถีบจักรยานอยู่ กับที่) กรรเชียงบก เต้นแอโรบิค และเดินเร็ว เป็นต้นกีฬาประเภทที่นิยมเล่นกัน เช่น กอล์ฟ แบดมินตัน เทนนิส ฝึกกล้ามเนื้อโดยใช้น้ำหนักโบว์ลิ่งนั้น ไม่ถือเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคในระดับที่มาก เพียงพอ เพราะในระหว่างการเล่นจะมีการหยุดเป็นช่วงๆไม่ได้ทำต่อเนื่องตลอดเวลา จึงทำให้เกิดผลดี ต่อสุขภาพได้เพียงในระดับหนึ่งเท่านั้น
| | | |
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=898&sub_id=95&ref_main_id=2