สมบัติผู้ดี

         หมอนิต ไปรับลูกตอนเย็นทุกวัน ต้องเดินผ่านมหาวิทยาลัย เห็นนักศึกษาสาวๆ หน้าตาหมดจด สดใส ดูเพลินเจริญใจ วันหนึ่งมีโอกาสเดินเฉียดไปใกล้ๆ ได้ยินเขาคุยกัน ตกใจ... ภาษายุคพ่อขุนรามทั้งนั้นเลยค่ะ พูดกันหน้าตาเฉย ไม่มีท่าทีกระดากปาก กระดากใจ 
อย่าให้ใครเขาว่าได้ว่า “ลูกเราพ่อแม่ไม่สั่งสอน..” 
หลายวันก่อนไปเดินซื้อของ แวะเข้าห้องน้ำในศูนย์การค้า เจออีก พวกไม่มีมรรยาท แซงคิวเฉยเลย แต่งตัวดีๆ ใส่น้ำหอมกลิ่นฟุ้งตลบ แต่ขอโทษเถอะ ห้องน้ำที่เธอใช้เสร็จออกมา เลอะเทอะ(ไม่)น่าดู 
ขับรถก็เหมือนกัน อันนี้คงเจอกันทั่วถ้วนทุกคน ทุกวัน พวกลูกคุณช่างปาดไงคะ ปาดไป ปาดมา ไม่เห็นไปไหนได้ไกล ได้แค่ไปหยุดติดไฟแดงก่อนหน้าเราเท่านั้น แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุนี่สิคะมากมาย ทั้งต่อรถคันอื่น และต่อคนเดินถนน นี่ถ้าหมอนิตเป็นตำรวจจะเรียกมาจับ ปรับ เอาให้แพงจนเข็ดเชียว ไม่ปล่อยให้เพ่นพ่านอย่างนี้หรอก ขนาดไม่ได้เป็นตำรวจ ยังอยากจะเป็นอาสาสมัครไปช่วยจับเลยค่ะ 
สามเหตุการณ์ที่เล่ามา สรุปเป็นภาษาบริภาษได้ว่า "...ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน" 

และแล้ววันหนึ่ง นายหนุ่มที่ตอนนี้ 7 ขวบแล้ว ขอให้หมอนิตช่วยหิ้วกระเป๋านักเรียนให้ ซึ่งตามปกติเขาจะสะพายกระเป๋าเองทุกครั้ง ไม่ยอมให้ใครช่วยอีกต่างหาก “หมอนิต”เลยถามด้วยความแปลกใจว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่า "วันนี้เล่นบอลที่โรงเรียนแล้วหกล้ม เจ็บตูดครับ" 
ว้าย... มาได้ไงคำนี้ เราไม่เคยพูดเลยนี่นา ซักไซ้ไล่เรียงได้ความว่า เพื่อนๆที่โรงเรียนเขาพูดกัน 
'หมอนิต'เลยแอบตะแคงหูฟังเวลาเด็กผู้ชายเขาคุยกัน ใช่จริงๆ นี่ขนาดป.1นะ ถ้าเด็กโตขึ้นไปอีก ก็จะมีภาษายุคพ่อขุนรามแทรกเข้ามาด้วยเป็นระยะๆ 
คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจ โรงเรียนไหนๆก็คงเหมือนกัน ขนาดโรงเรียนที่นายหนุ่มเรียนอยู่นี่ เขาว่ากันว่าเข้ายากนักหนา ลูกเศรษฐีผู้มีอันจะกิน ผู้มีชื่อเสียงเข้ากันมากมาย ยังมีภาษาแบบนี้อยู่ได้ ที่อื่นก็คงไม่ต่างกัน 
ปัญหาคือเราก็สอนแล้วนี่นา เลี้ยงเองสอนเองอยู่ทุกวัน เหนื่อยเสียยิ่งกว่างานหมออีก เขาว่าสอนลูกอย่าสอนแต่ปาก ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็ทำแล้วไหงไม่จำ เพื่อนเขาพูดทีสองที ทำไมจำดีนัก น่าเจ็บใจ 
เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครมาว่า "...ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน" คงต้องเถียงกันหน่อยละว่า ลูกพ่อแม่สั่งสอนแล้วไม่จำต่างหาก 
แล้วเรื่องสอนไม่จำนี่ คาดว่าคงเป็นกันเยอะ ปีที่แล้วก็มีข่าวว่าในกลางที่ประชุมแห่งหนึ่ง มีนักการเมืองชายใช้คำไม่สุภาพว่านักการเมืองหญิง มีชื่อได้ลงหนังสือพิมพ์อยู่หลายวัน ส่งผลให้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาฯ ต้องแจกหนังสือสมบัติผู้ดีกันทั่วเมืองทีเดียว ตอนนั้น'หมอนิต'ยังเคยคิดอยากได้เหมือนกัน แต่คงไม่ได้ประพฤติตัวเข้าข่ายที่ควรได้ เลยไม่ได้รับกับเขา 
พอนายหนุ่มเริ่มมีคำพูดไม่สุภาพมาเข้าหู 'หมอนิต'จึงเริ่มมองหาหนังสือเล่มนี้อีก ไม่ได้หาพบง่ายๆนะคะ เข้าร้านหนังสือมีขายแต่การ์ตูนญี่ปุ่น นิตยสาร บันเทิง นิยาย จนปีใหม่ ได้ของขวัญจากคนไข้เป็นหนังสือมาเล่มหนึ่ง ถูกใจจริงๆ มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องรวมกัน 
หนึ่งในนั้นคือ สมบัติผู้ดี ฉบับของเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี ของแท้เลยค่ะ 
“หมอนิต”อ่านดู มันก็เหมือนที่พวกเราพ่อแม่พร่ำสอนลูกปากเปียกปากแฉะอยู่ทุกวันนี่แหละค่ะ แต่เขาเอามารวบรวมเป็นหมวดหมู่ อ่านง่าย ได้เนื้อหาครบถ้วน ช่วยให้เราสอนได้ครบ ไม่หลงลืม เพราะอย่างกรณี'หมอนิต'เอง แต่ก่อนก็สอนตามแต่จะนึกหัวข้อได้ หรือสอนตามเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องแค่นั้น ถ้าเราจะเปลี่ยนมาเป็นเปิดตำราสอนกันจริงๆน่าจะเข้าทีกว่า 
“หมอนิต”เลยตกลงกับหมอใหญ่ว่า ช่วงนิทานก่อนนอนที่ปัจจุบันนี้โตกันเป็นเด็กโข่งแล้วยังไม่ยอมให้เลิก ขนาดเขาผลัดกันอ่านเองก็ยังเอา “หมอนิต”ขอเสริมหน่อย ให้หนูหนึ่งผู้พี่อ่าน สมบัติผู้ดี วันละ 2 ข้อ ข้อละหนึ่งบรรทัดเท่านั้น แล้วให้นายหนุ่มผู้น้องตัวดี ช่วยแปลความหมายและยกตัวอย่างด้วย จะได้เข้าใจ แจ่มแจ้ง เผื่อจะได้ลืมยากหน่อย 
นึกว่าเด็กจะเบื่อ ว่าคุณแม่สอนอีกแล้ว ปรากฏว่าผิดคาดค่ะ กลายเป็นเรื่องสนุกสนานมาก เพราะนายหนุ่มเขาเป็นคนตลก ตัวอย่างที่เขายกมาประกอบแต่ละหัวข้อ เด็ดๆทั้งนั้น หัวร่อกันงอหายเกือบทุกคืนเลยค่ะ 
ส่วนผลด้านพฤติกรรมก็ได้ผลดีนะคะ กิริยามารยาทดีขึ้น...นี้ด...นึง ที่สำคัญคือเด็กได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าสังคมใดในโลก ย่อมต้องการ ผู้ดี 
ผู้ดีที่ว่าไม่ใช่ผู้ดีตีนแดง ไม่ได้เป็นได้ตามฐานะ ความรู้การศึกษา แต่มาจากความประพฤติกิริยามรรยาทต่างหาก และต้องฝึกหัดมาตั้งแต่เด็กด้วย โตแล้วหัดยากค่ะ 
ทีนี้ 'หมอนิต' ก็ไม่กลัวใครว่า ว่าเป็นพ่อเป็นแม่คนเสียเปล่า ไม่รู้จักสอนสมบัติผู้ดีให้ลูกแล้วล่ะค่ะ เพราะเราเล่นกางตำราสอนกันอยู่ทุกคืนเลยนี่คะ 
ส่วนถ้านายหนุ่มไม่เอาไปปฏิบัติ 'หมอนิต'คาดโทษไว้ว่า หากได้ยินพูดจาไม่ดีอีก จะไปสั่งพิมพ์เสื้อยืดที่มีข้อความว่า " กิริยา วาจา ไม่สุภาพ โปรดแจ้ง โทร........" เอามาให้ใส่ ส่วนเสื้อที่เหลือจะเอามาขายให้คุณพ่อคุณแม่บ้านอื่นบ้าง 
ถ้าใครไม่อยากซื้อเสื้อตัวนี้ ต้องรีบสอนสมบัติผู้ดีให้ลูกนะคะ 
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=664&sub_id=2&ref_main_id=2