happy family ความสุขแค่เอื้อม


1,256 ผู้ชม


ความสุขนั้นอยู่ใกล้ตัวเราอย่างคาดไม่ถึง นั่นก็คือ “ครอบครัว         ความสุขนั้นอยู่ใกล้ตัวเราอย่างคาดไม่ถึง นั่นก็คือ “ครอบครัว 

4 key words to a happy family
1. Love : เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว สร้างความสุขให้กับทุกคนในบ้านหลอมรวมทุกคนไว้ด้วยกัน
2. Faith : ความเชื่อถือ ความไว้วางใจ นำไปซึ่งความสุข
3. Self -discipline : การมีวินัยต่อตัวเอง และเคารพการตัดสินใจของผู้อื่น
4. Responsibility : เมื่อบ้านเต็มไปด้วยความรัก จะสร้างความมั่นใจและซื่อสัตย์ ผลลัพท์ตามธรรมชาติที่ตามมาคือความรับผิดชอบ
Tip to be Happy parent
65 % - พ่อแม่คือ "แม่แบบ" ของลูก เช่น เมื่อพ่อแม่ทำเรื่องผิดพลาดได้ต้องยอมรับในความผิดพลาดนั้น กล้ายอมรับและเรียนรู้ที่จะแก้ไข พร้อมรับฟังลูก พยายามเป็นเพื่อนกับลูก รับฟังและให้โอกาสลูกได้พูดได้แสดงออก พ่อแม่ควรสื่อภาษาเดียวกับลูก ใช้ภาษาที่ลูกเข้าใจได้ พูดซ้ำๆ บ่อยๆ แต่ไม่ได้เป็นการพร่ำบ่น ที่สำคัญคืควรมีเวลาให้ลูกเสมอ
20 % - ทุกคนในครอบครัวจะร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์วิกฤต จะอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะมีทั้งสุขหรือทุกข์เกิดขึ้นในครอบครัว
15 % - มีอารมณ์ขัน ทุกคนหัวเราะให้กันและกันได้ ให้อภัยในความผิดพลาดของแต่ละคนได้ เมื่อเกิดปัญหาควรทะเลาะแบบมีคุณภาพ ต้องหาทางแก้ไข และมีบทสรุปที่ทุกคนยอมรับได้
* ผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่องปัจจัยที่พ่อแม่เห็นว่าสำคัญที่สุดในการเป็น happy parent จากwww.raklukefamilygroup.com
Top 4 family problem
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พบว่าปริมาณครอบครัวที่ระบุว่าครอบครัวของตนเองกำลังมีปัญหาอยู่ในปัจจุบันมีถึงร้อยละ 79.8
ปัญหา4 อันดับแรกที่พบมากในครอบครัวได้แก่
1. ปัญหาการเงิน ร้อยละ 33
2. ปัญหาการไม่มีเวลาให้กัน ร้อยละ 17.5
3. ปัญหาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ร้อยละ 10
4. ปัญหาเรื่องความประพฤติของลูก ร้อยละ 8
4 ปัญหาหลักข้างต้นนั้นเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อครอบครัวมุ่งแต่แสวงหาเงินทอง ปัญหาที่ตามมาคือคนในครอบครัวขาดเวลาที่มีให้แก่กัน และส่งผลมาถึงปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ขาดการสื่อสารและมีกิจกรรมร่วมกัน พ่อแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูกจนเกิดปัญหาด้านความประพฤติลูกในที่สุด ดังนั้น เราควรหันมาย้อนคิดถึงต้นตอของปัญหาและแก้ให้ถูกจุดว่า "เงิน" สำคัญที่สุดจริงหรือ
5 วิธีกระชับความสัมพันธ์
ใครว่าการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภรรยา, พ่อ แม่ และลูกเป็นสิ่งไม่สำคัญ รู้หรือไม่ว่านี่เป็นพื้นฐานที่นำไปการสร้างสายใยรักในครอบครัวได้
ช่วยงานบ้าน : การได้คุณพ่อช่วยงานบ้านเป็นการสร้างความประทับใจให้กับคุณแม่ได้บ้าง ขอเพียงคุณพ่อไม่ต้องทำมาก แต่ทำอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอ เช่น ล้างงจานข้าว จัดสวน หรือนำผ้าเข้าเครื่องซักผ้าให้
เล่นกันเถอะ : หากิจกรรมสนุกๆ ทำกันทั้งครอบครัว เช่น วาดภาพ ระบายสี จูงมือกันไปเล่นกีฬา ร้องเพลงคาราโอเกะ(ฮิตสุด) รับรองไม่มีใครยอมเบื่อ
บอกรักเติมกำลังใจ : การบอกรักจะเบาๆ หรือดังๆ ก็ย่อมสร้างความชื่นอกชื่นใจแก่ผู้ได้รับเสมอ แต่ถ้าใครเขินอาย อาจเขียนการ์ดหวานๆ ให้กันก็ได้
สร้างบรรยากาศ : บรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมหวานๆ สร้างความรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ ลองเปิดเพลงเบาๆ หรี่ไฟลงเพื่อความโรแมนติกเมื่ออยู่ด้วยกันสองคน หรือจุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหย
ความรู้สึกจากใจ : นอกจากปัจจัยภายนอกที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ความรู้สึกที่มีอยู่ภายในจิตใจ เช่น ความรัก ความห่วงใจ ความซื่อสัตย์ ที่มีให้ต่อกันจะสะท้อนออกมาผ่านแววตาและการกระทำทุกอย่าง
สถานที่ให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาครอบครัว
- คลินิกครอบครัวสมานฉันท์ ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 30 แห่งของ กทม.
- มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว www.familynetwork.or.th
Happy Family Secret from funnyman family
โชเล่ย์ ดอกกระโดน
"หลังจากที่มีปัญหาลูกสาวหนีออกจากบ้านเพราะตนเองไม่มีเวลาให้ โชเล่ย์ก็ปรับปรุงตัวเองเสียใหญ่ จนเป็นคุณพ่อที่มีเวลาให้ลูกสาวทั้ง 3 ใบเถา และเข้าอกเข้าใจลูกวัยรุ่น เปิดโอกาสให้ลูกสาวคิดและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ โดยผู้เป็นพ่อขอดูแลอยู่ห่างๆ”
เท่ง เถิดเทิง
"ตั้งแต่ปั่นสามล้อถีบ เล่นลิเก จนถึงวันนี้ ภรรยาให้เงินใช้วันละ 100 บาท ค่าน้ำมัน 500 บาท ตอนนี้กำลังเลิกบุหรี่เพื่อลูก ผมโชคดีที่มีลูกเมีย ทำให้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้ เรางานเยอะ เงินเยอะจริง แต่เราต้องมองชีวิตลูก ทุกวันนี้ผมทำงานเก็บเงินไว้ให้ลูก 3 คน"
ตั๊ก - นุ้ย
"เราสองคนจะทุ่มเทให้ลูกมากที่สุด แต่ความที่มีงานยุ่งกันทั้งคู่ก็จะใช้วิธีแบ่งเวลาให้ลูก ผลัดกันเลี้ยง โดยพาเขาไปเที่ยวบ้าง หลักการดูแลครอบครัวของเราคือการเข้าใจกันมากๆ ให้อภัยกัน”
เด๋อ ดอกสะเดา -ปู กนกวรรณ
“ครอบครัวของเราจะมีความหมายมากกว่าพ่อแม่ลูก เพราะมีคนอื่นๆ เช่น สายันต์และชาวคณะตลกที่เราต้องดูแลเขา ซึ่งโชคดีที่คนเหล่านี้ก็หันกลับมาช่วยดูแลลูกของเราด้วย”
เราคือครอบครัว "เชิญยิ้ม"
การเป็นนักแสดงตลก อาชีพที่ทุกคนคิดว่ามีแต่ความสนุกสนาน ตลกขบขัน ทั้งในยามแสดงอยู่บนเวทีและอยู่ที่บ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วคงมีไม่กี่คนนักที่จะเคยเปิดประตูเข้าไปในบ้านสัมผัสตัวตนของนักแสดงตลกเหล่านี้อย่างจริงจัง ดวงใจพ่อแม่ modern mom จึงขอเคาะประตูบ้านเพื่อค้นหาความหมาย Happy family ที่แท้จริงของ คุณเฉลิม ปานเกิด หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ที่ให้การต้อนรับเราพร้อมภรรยา เบญจมาศ (แหม่ม) และลูกชายวัย 2 ปี ธนภัทร (น้องเหนือ) ในวันฝนพรำ ที่บ้านพักย่านรังสิต
Family means :
"ความหมายครอบครัวของผมคือ การนำหลายๆ ชีวิตมาอยู่รวมกัน มีใจเดียวกัน สมาชิกในครอบครัวของผมจะประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก และคนอื่นๆ เช่น เพื่อนตลกในคณะ หรือในวงการตลก ผมก็ถือว่าใช่หมด
“การจะสร้างครอบครัวให้อบอุ่น มีความสุข ผมต้องปรับตัวเริ่มตั้งแต่กับภรรยาก่อนเลย โดยเฉพาะเรื่องเวลา ตอนกลางวันถ่ายละคร ตอนกลางคืนต้องออกไปเล่นตลก ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ก็จะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากที่สุด ไม่ค่อยออกไปไหน เพราะผมจะแคร์คำว่าไม่ให้เวลากับครอบครัวมากที่สุด
Family relax :
"ผมคิดว่าครอบครัวเป็นที่ผ่อนคลายอย่างดี อย่างพ่อ (สีหนุ่ม) เสร็จจากงานเหนื่อยๆ ก็จะโทรมาคุยกับหลาน น้องเหนือก็ยังพูดไม่เก่งหรอก เรียกได้แค่ปู่ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปทำงานต่างจังหวัด น้องเหนืออยู่กับแหม่ม พ่อก็โทรมาหาผมแล้วบอกว่า "ขณะนี้ลูกของมึงอยู่ในมือของกูเรียบร้อยแล้ว กูได้ขโมยลูกของมึงไปแล้ว เป็นหน้าที่ของมึงที่จะมารับหรือไม่รับ อันนี้กูไม่เดือดร้อน" แล้วเราก็ได้ยินเสียงลูกร้อง "ป้อ ป้อ” (ฮา)”
“ผมอยากให้ครอบครัวผมเป็นครอบครัวอารมณ์ดี ตลกแบบนี้อยู่ตลอดเวลานะ แต่ในความจริงเป็นอย่างนั้นไม่ค่อยจะได้ เพราะจะมีความเครียดจากงาน ซึ่งเราจะพยายามจัดการก่อนเข้าบ้าน ตลกเป็นอาชีพที่ห้ามมีความเครียด จะทุกข์ โศกเศร้าแค่ไหน ต้องเก็บไว้ก่อนที่จะขึ้นเวทีให้หมด โทษนะครับขนาดพ่อตายญาติเสีย ถ้าจะขึ้นเวทีก็ต้องลืมตรงนั้นเลย ต้องเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสนุกสนาน พอเข้าบ้านแล้วเรามีที่ปรึกษาซึ่งก็คือภรรยาของเรานั่นแหละ ดีที่สุด”
ด้านคุณแหม่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เสริมว่า “ถ้าพี่เจี๊ยบเครียดปุ๊บก็จะโทรมาระบายให้ฟัง เช่น คิวงานถูกเลื่อนหรือเปลี่ยนตัวไปเลยก็มี เราก็ต้องปลอบใจว่า ถ้าเขาอยากได้จริงๆ ก็จะโทรกลับมาเอง วงการก็เป็นอย่างนี้แหละมีขึ้นมีลง ถ้างานเป็นของเราจริงก็มาเองล่ะ ก็จะให้กำลังใจกันไป
ในความจริงแล้วถ้าพี่เจี๊ยบเครียด เราเองจะเครียดยิ่งกว่า เพราะเป็นคนควบคุมค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด ค่านมลูก ค่าบ้าน ค่ารถ งานทุกงานที่เข้ามาได้เท่าไหร่ ใช้เท่าไหร่ ส่วนไหนจะเก็บให้ลูก เราต้องซื้อต้องใช้จ่ายอะไร ฟุ่มเฟือยตรงไหนได้บ้าง”
Family beloved :
“ลูกชายผมชื่อน้องเหนือครับ เพราะเขาไปเกิดที่ภาคเหนือ ผมเองไม่ชอบตั้งชื่อลูกแบบฝรั่ง เจฟฟรี่ แอนดี้อะไรแบบนี้ ตอนแรกจะตั้งว่าด่าง เขียว แดง แล้วแต่แหม่มไม่ยอม นั่นมันชื่อหมานะ
ผมเคยลำบากมาตั้งแต่เด็กจึงไม่อยากให้ลูกเป็นแบบเรา แต่อีกมุมหนึ่งก็อยากให้ลูกลำบากบ้าง ไม่อยากป้อนให้เขาทุกอย่าง ผมคิดว่าการลำบากก่อนสบายเป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง เรื่องเงินทองเราต้องเก็บให้เขาแน่นอน แต่จะพยายามเราเลี้ยงให้เขาแบบติดดิน วิ่งหน้าบ้าน เล่นดิน ทรายบ้าง
ครอบครัวเราหนักใจในพัฒนาการของลูกมาตลอด 2 ปี หมอบอกว่ากล้ามเนื้อมัดใหญ่ค่อนข้างพัฒนาช้ากว่าเด็กคนอื่น สาเหตุเกิดจากสมองของน้องเหนือค่อนข้างโตกว่าคนอื่น ไปเอ็กซเรย์มีน้ำอยู่นิดหน่อย แต่กล้ามเนื้อมัดเล็ก เรื่องการหยิบ จับ การพูดเขาก็จะเท่าเทียมกับเด็กวัยเดียวกัน เราก็หายห่วงไปได้มาก
แต่บางครั้งเรานอนดูลูกก็ร้องไห้ เพราะตาด้านซ้ายเขาจะเอียง ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ หมอบอกไม่ต้องเครียด รักษาได้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่เราจะรู้สึกว่าทำไมถึงทำเขาออกมาได้ไม่ดี ไม่เหมือนเด็กคนอื่น ก็พยายามคิดว่าเด็กคนอื่นที่แย่กว่าน้องเหนือก็มี” สำหรับคนที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลน้องเหนือก็คงไม่พ้นคุณแม่แหม่ม ซึ่งคุณแหม่มเล่าว่า “ขั้นตอนการรักษาคือให้ลูกปิดตาข้างที่ใช้ได้ดีทุกวัน เพื่อให้ข้างที่เอียงใช้งานได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เอียงลดลงจาก 37 องศา เหลือ 35 องศาแล้ว โชคดีที่ลูกเป็นเด็กที่ไม่ค่อยงอแง เด็กคนอื่นจะคอยแกะออก แต่น้องเหนือไม่เป็น เวลาเราแกะให้เขา ถ้าเขาเจ็บก็จะแค่หยีตา"
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2&sub_id=3&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด