คุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมไปคลอดแล้วหรือยัง ในวันที่คลอดคุณแม่อาจไม่มีเวลาเตรียมตัว งั้นเรามาเตรียมตัวก่อนไปคลอดลูกกันค่ะ
ชวนคุณแม่ใกล้คลอด ลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ ข้าวของที่ต้องเตรียม แล้วแพ็คกระเป๋ารอคลอดไว้แต่เนิ่นๆ ค่ะ เพราะหากจะมาเตรียมกันตอนใกล้คลอด ถึงเวลานั้นจริงๆ คุณอาจจะนึกไม่ออกว่า ของนั้นจำเป็นมาแค่ไหน ของไหนที่เอาของที่มีมาประยุกต์ใช้ได้ พอนึกไม่ทันก็กลายเป็นว่า จำเป็นต้องซื้อไปซะหมด กลายเป็นว่าสิ้นเปลืองกว่าการซื้อเตรียมไว้ซะอีก |
หากจะซื้อเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ลูก ไม่ต้องซื้อเก็บไว้เยอะนะคะ เพราะเด็กทารกนั้นโตเร็วมาก บางชุดใส่ได้ไม่กี่ครั้งก็คับแล้ว ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สบู่ แชมพู โลชั่น หากต้องการจะเตรียมไว้ก่อนก็ควรเลือก ซื้อในปริมาณน้อยๆ อย่างแชมพู โลชั่นเลือกซื้อชนิดที่ขวดเล็กๆ ดีกว่าค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพอใช้แล้วลูกจะแพ้หรือไม่ ถ้าใช้ไม่ได้ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องเสียดายภายหลังยังไงละคะ และที่ต้องสังเกตให้ดีก็คือ ‘วันหมดอายุ’ ค่ะ หากซื้อเก็บไว้โดยไม่ดูให้ดีว่าใกล้หมดอายุหรือยัง พอถึงเวลาจะใช้ขึ้นมาจะมาบ่นเสียดายว่าหมดอายุซะแล้ว ของอื่นๆ อย่างอ่างอาบน้ำของลูก ถ้าที่บ้านมีกาละมังพลาสติกใบโตๆ ที่ไม่มีเหลี่ยมมุมก็อาจไม่ต้องซื้อก็ได้ ที่นอนสำหรับเด็กก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมค่ะ การเลือกที่นอนสำหรับลูก ควรเลือกที่นอนแบบฟองน้ำที่ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป เพราะที่นอนที่นุ่มเกินไป เมื่อนอนแล้วที่นอนจะยุบลงมากจนอาจทำให้ลูกไม่สบายตัวหรือที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ที่นอนอาจยุบตัวจนปิดปากหรือจมูกของลูกขณะนอนคว่ำจนเค้าหายใจไม่ออกได้ แต่ก็ไม่ควรเลือกที่นอนที่แข็งจนเกินไปเพราะจะทำให้ลูกไม่สบายตัวได้เช่นกัน ส่วนของเล่นเสริมพัฒนาการต่างๆ นั้น อาจจะยังไม่จำเป็น แต่ถ้าเกิดพบถูกใจเข้า ก็แล้วแต่ความสะดวกของคุณแม่ค่ะว่าอยากซื้อเก็บไว้หรือเปล่า แต่อย่าช้อปเพลินซะจนลูกมีของเล่นเยอะเกินไปตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยนะคะ |
ก่อนที่คุณจะไปคลอดลูกคนใหม่นั้น ต้องใส่ใจความรู้สึกของเจ้าตัวเล็กที่กำลังได้รับตำแหน่ง ‘คุณพี่มือใหม่’ ด้วยนะคะ เพื่อที่ลูกจะได้มีเวลาปรับตัวให้เข้ากับสถานภาพใหม่ ควรเปิดให้โอกาสพี่ได้ใกล้ชิด กับน้องที่อยู่ในท้องคุณบ้าง ให้เค้าได้สัมผัส ลูบท้องคุณแม่ เล่นกับน้องที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง เพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์อันดี แต่ต้องระวังอย่าให้เค้าเล่นรุุนแรง จนเกิดกระแทกบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ได้ คุณควรจะอธิบายให้ลูกฟังบ่อยๆ ว่า เค้าเองก็เคยอยู่ในท้องเหมือนกับน้อง เคยเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังเดินไม่ได้และแม่ต้องดูแลใกล้ชิด หลังคลอดใหม่ๆ ไหนจะต้องดูแลตัวเอง ดูแลลูก คุณอาจต้องกังวลกับเรื่องงานบ้านอีก ถ้าไม่ฝึกคุณพ่อบ้านให้หัดทำงานบ้านไว้บ้างล่ะก็คงแย่ ดังนั้น ก่อนไปคลอดคุณพ่อมือใหม่ควรหัดทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองบ้าง อย่าง ซักผ้า ทำกับข้าว ป้อนข้าว หรือดูแลลูก เพื่อแบ่งเบาภาระของคุณแม่ไงคะ หรือถ้าเป็นไปได้ก็อาจหาคนมาช่วยทำงานบ้านซักระยะ แต่ถ้าต้องการคนทำงานบ้าน ที่สามารถช่วยเป็นพี่เลี้ยงดูแลลูกด้วย ก็ต้องพิจารณาคัดเลือกให้ดีว่าเคยมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กหรือไม่ รักความสะอาดหรือไม่ ฯลฯ โดยอาจเลือกจากคนที่รู้จักคุ้นเคยแนะนำมาก่อน ถ้าจะเลือกใช้บริการของศูนย์จัดหาพี่เลี้ยงเด็กก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีค่ะ |
อีกเรื่องที่คุณต้องเตรียมให้พร้อม คือการฝึกคุณพี่คนใหม่ให้สามารถนอนหลับบนที่นอนของตนเองได้ หลายครอบครัวที่ยังเคยชินกับการนอนรวมกันสามคน พ่อแม่ลูก และอยากแยกให้ลูกคนพี่ได้นอนในห้องของหรือเตียงเค้าเอง แต่ทำไม่สำเร็จซักที ควรถือโอกาส ที่ลูกกำลังภาคภูมิใจกับตำแหน่งใหม่นี้แยกที่นอนให้ลูกค่ะ แต่การที่จะแยกลูกเล็กๆ ที่เคยนอนด้วยกันมาแต่อ้อนแต่ออกให้ไปนอนคนเดียว ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แม้คุณจะจัดเตรียมที่นอนของเค้าไว้ในห้องเดียวกันก็ตาม ดังนั้น ก่อนเข้านอนคุณแม่ควรใช้เวลาอยู่กับลูกสักพัก เล่นกับเค้า เล่านิทานให้เขาฟัง นิทานที่เล่านั้นควรเป็นเรื่องที่จบลงด้วยความสุข อย่าเลือกเรื่องที่น่ากลัว หรือเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยตื่นเต้น ซึ่งอาจทำเด็กนอนไม่หลับ ฝันร้ายกลางดึกได้ ควรหาหมอนหรือตุ๊กตานุ่มๆ ให้ไว้เป็นเพื่อนลูก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเข้านอน และเป็นเครื่องสร้างความอบอุ่นใจให้ลูกได้รู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา และต้องไม่ลืมที่จะกล่าวชมเชยลูกในเช้าวันรุ่งขึ้น พร้อมชี้ให้เขาเห็นว่า เค้าเก่งมากและโตแล้ว เค้าจะไม่ใช่เด็กเล็กๆ เหมือนน้องวัยแรกคลอดอีกต่อไป |
เมื่อเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้ครบถ้วนแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณต้องจัดเตรียมสิ่งของต่างๆ ไว้ให้พร้อม โดยเตรียมของสำคัญๆ ไว้ในกระเป๋าใบเล็กๆ เผื่อเหตุการณ์ฉุกละหุก ที่ทำให้ต้องคลอดกะทันหันจะได้หยิบฉวยใช้ได้ทันที สิ่งของที่ควรเตรียมไว้ในกระเป๋า มีดังนี้ เอกสารสำคัญ
ของใช้สำหรับคุณแม่
ของใช้สำหรับลูก
|
เมื่อใกล้คลอด คุณแม่แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป บางคนเจ็บท้องมาก บางคนไม่เจ็บแต่มีน้ำเดิน มีเลือดออก แต่โดยมากแล้วจะมีสํญญาณเตือนว่าใกล้คลอดแล้ว ดังนี้
หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ |
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2285&sub_id=45&ref_main_id=11