เรื่องสวยๆ งามๆ กับคุณผู้หญิงเป็นของคู่กัน แต่ตอนที่ตั้งครรภ์จะเสริมจะแต่งให้สวยได้อย่างที่เคยทำหรือเปล่า...ไม่มั่นใจ
เรื่องสวยๆ งามๆ กับคุณผู้หญิงเป็นของคู่กัน จากการที่เป็นสูติแพทย์มาเป็นเวลายาวนาน ต้องพบปะพูดคุยกับคุณผู้หญิงมากมายจนนับจำนวนไม่ไหว ผมพบความจริงแล้วว่าผู้หญิงเกือบจะร้อยทั้งร้อยต่างอยากสวยอยากงามกันนั้น แต่ตอนที่ตั้งครรภ์จะเสริมจะแต่งให้สวยได้อย่างที่เคยทำหรือเปล่า...ไม่มั่นใจความอยากสวยอยากงามที่ว่าก็ไม่ขึ้นกับอายุหรือวัยด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเด็กก็อยากสวยน่ารัก โตมาหน่อยอยากจะสวยดึงดูดใจเพศตรงข้าม แม้แต่แก่แล้วก็ยังอยากสวยสง่าน่านับถือ ผมยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ผมชมว่าสวยแล้วโกรธหรือไม่พอใจซักคน บางคนว่ากันตามจริงแล้วไม่รู้จะเรียกว่าสวยได้อย่างไร แต่ใครถ้าลองไปชมว่าสวยถึงจะรู้ว่าโกหกก็ยังชอบครับ
คนบางคนโชคดีพระเจ้าประทานพรมาให้เกิดมาหน้าตาสะสวย ไม่ต้องเสริมแต่งอะไรก็สวยแล้ว บางคนไม่ค่อยสวยแต่ถ้ารู้จักแต่งตัวหรือเสริมความงามก็ทำให้สวยได้ ในขณะที่บางคนแต่งอย่างไรก็ไม่สวย
การเสริมความงามเพื่อให้สวยให้งามเป็นเรื่องที่ผู้หญิงทุกชาติ ศาสนา ใส่ใจกันทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ว่าความสวยของคนแต่ละประเทศอาจจะดูไม่เหมือนกัน รวมถึงกาลเวลาหรือยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้การมองความสวยความงามเปลี่ยนไป ด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ผมมองเห็นอีกอย่างในปัจจุบันก็คือ ไม่ใช่แค่ความสวยความงามเท่านั้นหรอกครับที่คุณผู้หญิงนิยมจะเสริมแต่งกัน แต่ขณะนี้ยังนิยมที่จะเสริมแต่งร่างกายตัวเองเพื่อความแปลก ความเท่ ความเก๋ ความสะใจกันจำนวนไม่น้อย เช่น สมัยก่อนมีแค่ตุ้มหู แต่เดี๋ยวนี้มีสารพัดตุ้ม ทั้งตุ้มจมูก ตุ้มสะดือ หรือแม้กระทั้งตุ้มลิ้นก็มี บางคนก็ทำสีผมเสียจนมองไม่ออกว่าเป็นผมคนหรือขนสุนัขกันแน่ก็มี และยังมีอีกสารพัดวิธีที่จะกล่าวถึงต่อไป
อยากสวยแต่กังวล
ผมถูกถามจากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จำนวนไม่น้อยว่าขณะตั้งครรภ์จะเสริมความงาม ได้อย่างไรบ้าง ทำอย่างนี้ อย่างนั้นจะเป็นอันตรายไหม? ผมเลยจะชวนคุยเกี่ยวกับวิธีเสริมความงามขณะตั้งครรภ์ด้วยวิธีต่างๆ ว่าจะทำได้หรือไม่ มีอันตรายไหม
การเสริมความงามของคุณแม่ซึ่งอาจจะทำมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์หรือมาทำภายหลัง ตั้งครรภ์ไปแล้วมีมากมายหลายประเภท เท่าที่ผมเคยประสบพบเห็นก็มีมากมายหลายชนิด เช่น การทาหน้าตา ใส่น้ำหอม การทำสีผม สีเล็บ การวาดรูปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย การสักรูปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย การเจาะรูจมูก รูลิ้น รูสะดือ เพื่อใส่ตุ้มจมูก ตุ้มลิ้น ตุ้มสะดือ เป็นต้น ลองมาพิจารณาแต่ละวิธีดูนะครับ
แต่งหน้าและใส่น้ำหอม : คุณแม่บางคนพอตั้งครรภ์แล้วก็เลิกประทินโฉมเลยก็มี เพระกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก ในขณะที่บางคนแม้จะท้องกี่เดือนก็ตามก็ยังทาหน้าตาให้ดูสวยงามอยู่ตลอดเวลา บางคนใส่น้ำหอมกลิ่นฟุ้งจรุงใจ น่าชื่นชม น่าดม น่าอยู่ใกล้ก็มี ผมขอเรียนว่าขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถแต่งหน้า ใส่น้ำหอมได้ครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรอกครับ เพียงแต่อย่าพอกให้มากเกินไป จนมองหน้าตาแม่ไม่ออกว่าซีดเซียว หรือบวมหรือไม่
การทำสีผม : คุณแม่อยากจะทำสีผมเป็นสีอะไรก็เชิญตามสบายครับ จะโกนหัวครึ่งหนึ่งทำผมชี้เด่อีกครึ่งหนึ่งก็เชิญ ถ้าไม่แคร์ว่าคนอื่นจะหาว่าบ้าหรือเสียสติ สารเคมีที่ใช้ทำสีผมไม่ได้ซึมเข้าไปในร่างกายคุณจนไปทำอันตรายต่อลูกในครรภ์ หรอกครับ
การทาเล็บ : สมัยก่อนอาจจะมีแค่ทาสีเล็บ เดี๋ยวนี้มีการวาดเป็นรูปต่างๆ สารพัด ไม่ว่ารูปดอกไม้ รูปสัตว์ รูปคน หรือแม้กระทั่งรูปภูติผีปีศาจ ผมก็เคยเห็นครับ การทาสีหรือวาดรูปที่เล็บไม่มีอันตรายมากมาย เพียงแต่ผมไม่แนะนำให้วาดหรือทาเล็บตลอดเวลา เพราะจะทำให้เล็บถูกคลุมด้วยสีตลอดเวลาซึ่งจะทำให้เปราะได้ง่าย นอกจากนี้การทาสีเล็บยังทำให้คุณหมอประเมินว่าคุณแม่มีภาวะซีดหรือโลหิตจาง หรือไม่ได้ยากขึ้น เพราะเล็บเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่คุณหมอจะใช้ในการดูและประเมินว่าคุณแม่ซีด หรือไม่
บอดี้เพ้นต์ : ส่วนมากของสีที่ใช้วาดที่ส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นที่หน้า ที่อก ที่ท้อง หรืออีกหลายๆที่ ไม่เป็นอันตรายอะไรต่อลูกในครรภ์หรอกครับ ยิ่งถ้าเป็นสีที่ลบออกได้ภายหลังการวาดไม่นานก็ยิ่งไม่น่าจะมีผลอะไร ผมเคยเห็นคุณแม่ที่ฝากครรภ์กับผมหลายคนที่วาดรูปที่หน้าท้องเป็นรูปดอกไม้ อย่างสวยงาม จนรู้สึกเสียดายแทนถ้าจะลบทิ้ง
สัก : ส่วนมากแล้วไม่ค่อยมีคุณแม่คนไหนที่มาสักตอนท้องหรอกครับ เพราะกลัวจะเป็นอันตรายต่อลูก ส่วนมากจะสักกันมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ การสักจะต่างกับการวาดตรงที่การสักจะทำให้สีที่ใช้สักฝังเข้าไปในผิวหนังของ คุณแม่เลย และลบไม่ออก ส่วนมากคนที่สักรูปต่างๆมักจะเป็นวัยรุ่นเพราะคิดว่ามันโก้เก๋และสวยงามดี แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความคิดเปลี่ยนอาจดูไม่สวยก็ได้ ทีนี้ถ้าคิดจะลบออก ขอบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ
ผมเคยมีคุณแม่ที่เป็นวัยรุ่นแล้วสักรูปดอกกุหลาบที่หน้าท้อง เป็นดอกกุหลาบกำลังเริ่มบานสวยงาม พอตั้งครรภ์และท้องโตขึ้นเรื่อยๆ กุหลาบดอกนี้ก็เลยบานขยายใหญ่ตามขึ้นไปด้วย ถึงตอนนี้ก็ยังพอรับได้ แต่ลองนึกถึงตอนหลังคลอดดูซิครับว่าถ้าหน้าท้องทีเคยยืดขยายกับเหี่ยวลง กุหลาบก็จะเหี่ยวลงมาด้วย เช่นกัน และไอ้ที่จะอยู่กับคุณแม่ไปตลอดก็คือกุหลาบเหี่ยวๆ นี่แหละครับ เปิดดูพุงทีไรก็เศร้าใจทุกครั้งไป มีคุณแม่บางคนสักรูปมังกรที่หน้าท้อง หลังคลอดหน้าท้องหย่อน ทำให้มังกรคอห้อยกลายเป็นแย้ถูกย่างก็มีครับ ลองคิดอีกทีถ้าคิดจะสักร่างกายนะครับ
เจาะรู : ในอดีตมีแค่ใบหูเท่านั้นแหละครับที่คุณผู้หญิงนิยมเจาะกันเพื่อจะได้ใช้ใส ตุ้มหูเพื่อให้หน้าตาสวยงามขึ้น ปัจจุบันตำแหน่งที่เจาะไม่ได้มีแค่ใบหูเท่านั้น ยังมีการเจาะที่อื่นอีกไม่ว่าจะเป็นที่จมูก ที่ลิ้น ที่สะดือ หรือที่แผ่นหลัง ก็มี ไม่รู้ว่าต่อไปจะเจาะที่อื่นอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แค่คิดก็หวาดเสียวแล้วครับ
การเจาะรูที่อวัยวะต่างๆ เพื่อใส่เครื่องประดับ เป็นสิ่งที่ผมคัดค้านครับ เพราะถ้าเจาะโดยไม่ระมัดระวังและเกิดการติดเชื้อโรคขึ้นมา และถ้าเชื้อโรคกระจายเข้าไปในกระแสเลือดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะครับ บางคนจมูกบี้หลังเจาะจมูก หรือลิ้นมีรอยแผลน่าเกลียด เวลาแลบออกมาเหมือนลิ้นสัตว์เลื้อยคลานก็มี ส่วนคนที่เจาะบริเวณสะดือแล้วใส่ตุ้มสะดือไม่ยอมถอดออกก่อนท้อง เวลาท้องโตขึ้นเรื่อยๆ เลยแกะตุ้มสะดือออกยากเพราะเจ็บมากก็มี บางคนมีแผลจากการถูกตุ้มสะดือเกี่ยวก็มี เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะใส่สารพัดตุ้ม ลองคิดให้มากขึ้นอีกหน่อยนะครับ
ขอให้คุณแม่ทุกท่านสวยขณะตั้งครรภ์สมความตั้งใจกันถ้วนหน้านะครับ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1583&sub_id=41&ref_main_id=11
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1583&sub_id=41&ref_main_id=11