BALANCE ความมั่นใจหลังคลอด


934 ผู้ชม


การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต ทั้งทางรูปร่าง ผิวพรรณ หรือแม้แต่การที่ฮอร์โมนปรับระดับก็มีส่วนกระทบกับอารมณ์คุณแม่ทั้งนั้น         การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต ทั้งทางรูปร่าง ผิวพรรณ หรือแม้แต่การที่ฮอร์โมนปรับระดับก็มีส่วนกระทบกับอารมณ์คุณแม่ทั้งนั้น 

หรือแม้แต่การที่ฮอร์โมนปรับระดับก็มีส่วนกระทบกับอารมณ์คุณแม่ทั้งนั้น แม้จะเป็นเวลา 9 เดือน แห่งการรอคอยของขวัญอันล้ำค่า แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังคลอดอาจจะนำมาซึ่งความไม่มั่นใจ ร่องรอยที่ปรากฏเห็นชัดเจนที่สุดคงจะเป็นรูปร่างและผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องรีบเรียกความมั่นใจกลับมา

 

ขาดความมั่นใจ ? ขาดสมดุล

สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณแม่ปั่นป่วนจนทำให้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตมาจากขาดการแผนในชีวิตค่ะ เริ่มตั้งแต่ไม่ได้วางแผนตั้งครรภ์ ยิ่งคุณแม่ปรับตัวช้าไม่ทันในวันที่ลูกคลอดก็จะยิ่งกระทบกับสมดุลในชีวิตให้ล้มตามเป็นโดมิโนที่ล้มครืนไม่เป็นท่า

จริงอยู่ค่ะว่าลูกของเราไม่ใช่ภาระ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเป็นWorking Mom ที่มีลูกอ่อนนั้นชีวิตไม่ได้ง่ายเลย ซึ่งความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นกับคุณแม่นั้น แบ่งเป็นความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้น 2ด้านด้วยกันคือ

 

ความไม่มั่นใจที่เกิดกับลูก

• กังวลว่าพี่เลี้ยงจะทำร้ายลูก ให้กินนมไม่ตรงตามเวลา พัฒนาการลูกจะช้า

• กลัวภัยที่จะเกิดกับลูก ถ้าปล่อยให้อยู่บ้านกับคนอื่นตามลำพัง

• อุบัติเหตุ สารพัดโรคภัยที่เรียงแถวเข้ามาในยุคปัจจุบัน กลัวลูกจะป่วยทุกย่างก้าว

• ให้ญาติผู้ใหญ่เลี้ยงดีก็จริง แต่กังวลกลัวลูกไม่รักแม่ แล้วติดนิสัยเอาแต่ใจ

• กังวลกับอนาคตของลูกทั้งเรื่องเรียน ชีวิต และอนาคต จึงหาข้อมูลจนกลายเป็นความเครียด

 

ความไม่มั่นใจที่เกิดกับงาน

• ไม่ได้โฟกัสเรื่องงานเต็มที่เพราะต้องแบ่งการคิดเรื่องนม วัคซีน ยา คุณหมอ

• รู้สึกตัวเองออกห่างจากบรรยากาศการทำงาน ห่างจากสังคมเพื่อน ไม่ได้อยู่แชร์บางแง่มุมกัน เพราะบ่อยครั้งต้องเข้างานสาย ลาบ่อย และกลับบ้านเร็ว

• งานไม่ต่อเนื่อง ติดตามงานได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง เพราะถูกคั่นด้วยการที่ลูกต้องเข้าโรงพยาบาล

• อดร่วมงานสัมมนาประเด็นดีๆ ทำให้รู้สึกว่าศักยภาพการทำงานของตัวเองลดลง เพราะไม่กล้าปล่อยให้อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง

• ไม่ได้รับการโปรโมท เพราะหัวหน้าชื่นชอบคนที่ทุ่มเทกับงานมากกว่า

• รูปร่างเปลี่ยนไป อวบขึ้น น้ำหนักลดลงยาก เสื้อผ้าที่เคยใส่แล้วมั่นใจไม่สามารถใส่ได้อีกต่อไป

• สมาธิสั้นลง ขี้หลงขี้ลืม เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ

ความกังวลใจเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจทำให้คุณแม่ขาดความมั่นใจลง ซึ่งมาจากวิธีคิดที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ

 

ที่มาความไม่มั่นใจคุณแม่

พบเจอประสบการณ์ไม่ดี ประสบการณ์ที่ไม่ดีจากเพื่อนร่วมงานหลังคลอด เช่น ถูกเพื่อนร่วมงานแซวถึงรูปร่างที่อ้วนขึ้น ริ้วรอยแตกลายไม่หาย หรือสิวตอนท้องก็ยังหลงเหลือรอย เคยเห็นเพื่อนโดนแซวตลอด ประสบการณ์หลังคลอดของตัวเองจึงดูย่ำแย่ลงไปอีก

ตั้งมาตรฐานไว้สูง การตั้งมาตรฐานที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงของการเป็นคุณแม่ลูกอ่อน ที่ต้องลาบ่อย กลับบ้านเร็ว แถมอ่อนเพลียง่ายกว่าเพื่อนเพราะต้องตื่นให้นมลูกกลางดึกทุกคืน ด้วยเงื่อนไขในชีวิตแบบนี้ ทำให้ศักยภาพการทำงานไม่เต็มที่เหมือนแต่ก่อน ก็กลับกลายเป็นการบั่นทอนความมั่นใจลงไปอีก

ไม่รู้จักตัวเอง ในที่นี้หมายถึงการไม่รู้จักสถานภาพของตัวเอง ทำให้ไม่จัดการภายใต้เงื่อนไขในชีวิตที่เป็นจริง ก็ส่งผลให้ใฝ่หาความต้องการที่เหมือนคนตลอดเวลา ซึ่งยิ่งอยากเหมือนคนอื่นเท่าไหร่โดยเฉพาะคนที่ไม่มีครอบครัว หรือเป็นสาวโสด ก็ยิ่งลดความเป็นตัวของตัวเองลง แล้วเมื่อไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองก็จะมีความมั่นใจเหลืออยู่ได้อย่างไร

สภาพแวดล้อมไม่ชวนให้มั่นใจ ก็ถ้าเพื่อนร่วมงานสวยเป๊ะตลอดเวลา ขาเล็กเรียว ผิวเนียนเด้ง รวมไปถึงคำทักทายที่ไม่สร้างสรรค์ เช่น “อ้าว...ยังไม่คลอดอีกเหรอ” “ท้องน้องคนที่สองหรือเปล่าคะ” ถึงจะไม่ใช่คนที่ยึดติดกับความสวยงามภายนอก แต่ผู้หญิงเราก็มีแน่ค่ะที่จะรู้ขาดความมั่นใจไปกับคำพูดของคนรอบข้าง

 

ข้อได้เปรียบของคนเป็นแม่

คอร์สลัดสร้างวุฒิภาวะ เรียกว่าด้วยบทบาทหน้าที่นั้นจะสามารถควบคุม สั่งการ และจัดการกับสถานการณ์ทับซ้อนได้ดี ด้วยสัณชาตญาณของคนเป็นแม่ที่มาตามธรรมชาติและขอเน้นว่าต้องเป็นแม่เท่านั้น

ความสัมพันธ์สามีภรรยาดีขึ้น ด้วยความรักที่มีต่อลูก การถ้อยทีถ้อยอาศัยระหว่างกันจึงเกิดขึ้น เรียกว่ารักกัน ประนีประนอม ละมุนละม่อมมากกว่าเดิม แล้วยังทำให้เรียนรู้กับคำว่ารักอีกแง่มุมด้วยค่ะ

เป้าหมายชีวิตชัดเจน รู้ว่าทำงานหาเงิน ทำโอที เพื่อลูก เกิดแรงบันดาลใจระหว่างการทำงาน ไม่เหนื่อยง่าย ไม่ท้อถอยเร็ว แล้วการทำงานมีเป้าหมายก็จะช่วยให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ได้สัมผัสความสุข ที่ไม่เหมือนใคร สุขเล็กๆ จากลูกน้อยช่วยเติมเต็มแรงใจที่ใครไม่อาจสัมผัสได้ พัฒนาการแต่ละขั้นของลูกน้อย ช่วยสร้างความสุขที่ทำให้หัวใจพองโต เป็นความสุขที่คนเป็นพ่อเป็นแม่เท่านั้นที่จะมีได้ รอยยิ้ม เสียงเรียกม่าม้า ป่าป๊า รวมถึงก้าวแรกของลูกจะช่วยให้คุณแม่หายเหนื่อยไปได้

 

จัดการความไม่มั่นใจให้อยู่หมัด

เมื่อความไม่มั่นใจเกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยให้สภาวะแบบนี้อยู่นานค่ะ เพราะมันจะกระทบกับความสมดุลหลายด้านด้วยกัน จึงควรรีบรับมือและจัดการกำจัดความไม่มั่นใจออกไป

“ทางเลือกที่มากกว่าหนึ่ง” หลักคลี่คลายความไม่มั่นใจเรื่องลูก”

เมื่อปัญหามีมากกว่าหนึ่ง การแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จและสมบูรณ์วิธีเดียวนั้นก็ไม่มี การจัดการให้ทุกอย่างอยู่หมัด คุณแม่จึงควรมีผู้ช่วยมากกว่า 1ตัวเลือกด้วยเช่นกัน เพราะการทู่ซี้บากบั่นรับมือกับทางแก้ปัญหาเพียงทางเดียวอยู่อย่างนั้น แล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง จะยิ่งทำให้เครียด รู้สึกแย่ไปกับตัวเอง ซึ่งก็เป็นที่มาของความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตต่อๆ ไปด้วย

* จ้างพี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้มาเลี้ยงลูกที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระ อาจจะเคยเลี้ยงลูกเพื่อนมาก่อน เพื่อให้คุณแม่มีเวลาทำงานอย่างเต็มที่ไม่ห่วงลูกมากจนไม่เป็นอันทำงาน

* ให้ญาติผู้ใหญ่มาช่วยเลี้ยง อุ่นใจมากเป็นพิเศษ แต่อาจจะต้องรับกับไตล์การเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน แต่หากว่าสิ่งนั้นอยู่บนพื้นฐานของความรักความปลอดภัยของลูกก็ยอมเถอะค่ะ

* ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวใหญ่ จากที่เคยอยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยว ช่วงที่ลูกเล็กการย้ายกลับไปอยู่บ้านคุณตาคุณยาย คุณปู่คุณย่า ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะถ้าไม่นับเรื่องการเลี้ยงลูกที่จะมีคนช่วยเลี้ยงแล้ว เผลอๆ จะมีคนดูแลเราและสามีด้วยนะคะ

* เลือกสถานรับเลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้ เลือกที่สะอาด และปลอดภัย

* พาลูกไปเลี้ยงที่ออฟฟิศ อาจจะต้องเหนื่อยและเจ้านายต้องเข้าใจเอามากๆ แต่ก็ช่วยตัดเรื่องความกังวลใจในเรื่องของการให้ลูกอยู่บ้านกับคนที่ไม่รู้จักลงไปได้

* ปั๊มนมเก็บไว้ ระหว่างวันแล้วสลับให้นมลูกกับคุณพ่อคนละคืน ก็ช่วยให้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ช่วงเวลาที่ลูกน้อยจะตื่นขึ้นมากินนมกลางดึกนั้นอย่างน้อย 3-4 เดือน อดทนไว้นะคะ

“พลังกายเข้มแข็งที่มาพลังใจ” หลักคลี่คลายจัดการความไม่มั่นใจในเรื่องงาน

กลางวันเวลาคุณแม่ทำงานจากไนน์ทูไฟฟ์ กลางคืนยังต้องเลี้ยงดูลูกน้อย เวลาพักผ่อนนั้นไม่ต้องพูดถึง แถมงานก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะการมีร่างกายที่แข็งแรงถือเป็นสิ่งจำเป็นให้คุณแม่มีเรี่ยวแรงและพละกำลังในการต่อสู้กับความอ่อนเพลียทั้งปวง

* กินวิตามินเสริมหรืออาหารเสริมประเภทต่างๆ เป็นผู้ช่วยให้คุณแม่มีร่างกายแข็งแรงขึ้นมาได้ เพราะบางมื้อการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นั้นเป็นเรื่องยาก การเสริมเข้าไปจึงเป็นสิ่งจำเป็น (สำหรับคุณแม่ที่ยังต้องให้นมลูก อาจจะปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานวิตามินเสริมนะคะ)

* จัดวางอารมณ์ให้ถูกที่ถูกทาง อารมณ์เป็นที่มาของทุกความไม่มั่นใจ การบั่นทอนกำลังใจตัวเองด้วยการมองตัวเองในแง่ลบ เปรียบเทียบตัวเองกับคนที่สูงส่งกว่า ล้วนบั่นทอนกำลังใจ ลดทอนความมั่นใจในตัวเอง เลิกความคิดที่จะมองตัวเองในแง่ลบ “ชอบตัวเองให้ได้ รักตัวเองให้เป็น มองแง่มุมมดีๆ กับตัวเอง” จะช่วยเป็นหลักให้คุณแม่มีกำลังใจที่ดีๆ ให้กับตัวแองมากขึ้น

 

ปลุกความมั่นใจให้ตื่น

เมื่อพลังความมั่นใจแผ่วปลายก็เป็นหน้าที่ของคุณแม่เองที่จะปลุกคว� 
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=732&sub_id=46&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด