ท้องนี้ไม่ไร้ (ไข)มัน


1,091 ผู้ชม


ตามปกติเราควรได้พลังงานจากไขมันร้อยละ 25 - 30 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมดและต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 (ที่เหลือควรได้จากสารอาหารชนิดอื่น เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต)...         ตามปกติเราควรได้พลังงานจากไขมันร้อยละ 25 - 30 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมดและต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 (ที่เหลือควรได้จากสารอาหารชนิดอื่น เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต)... 
สุขภาพที่ดีของคุณและเจ้าตัวน้อยก็ต้องการไขมันนะ อย่าละเลย คิดง่ายๆ ก็เท่ากับกินน้ำมันพืชวันละ 3-4 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้าคุณกินไขมันอื่นแอบแฝงมาด้วย เช่น กะทิ ของทอด ก็ต้องลดลงตามส่วนเอาเองแล้วล่ะ ไขมันแห่งชีวิต ไขมันประกอบด้วยกรดไขมัน 2 ชนิด คือ แบบอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว กรดไขมันชนิดอิ่มตัว จะมีโคเลสเตอรอลสูง เช่น น้ำมันหมู เบเกอรี่ ผลิตภัณฑ์จากนม จึงควรควบคุมปริมาณการรับประทานกันหน่อย กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวมีหลายชนิด แต่ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องรับจากอาหารเท่านั้นมี 2 ชนิด คือ กรดไขมันจำเป็นกลุ่ม โอเมก้า-3 มีกรดไขมันอัลฟา-ไลโนเลนิคเป็นสารตั้งต้น ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็น DHA (docosahexaeno acid) และ EPA (cicosapentaenoic acid ) พบใน น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วเหลือง เต้าหู้ ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอล ปลาทูน่า ปลาจาระเม็ด ปลาทู ปลากระพง ปลาเก๋า ปลาโอ ปลาอินทรีย์ ปลาช่อน ปลาบู่ ปลาสำลี ปลาสวาย กรดไขมันจำเป็นกลุ่ม โอเมก้า-6 มีกรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิคเป็นสารตั้งต้น และจะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็นกรดอะแรซิโดนิค (AA) กรดแกมม่าไลโนเลนิค (GLA) แลเกรดไดโฮโมแมม่า ไลโนเลนิค (DGLA) พบในน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดทานตะวัน เมล็ดทานตะวัน ใส่ใจกันหน่อย:คุณแม่ท้องควรได้โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 วันละ 1-3 กรัม หรือกินอาหารที่มีกรดไขมันจำพวกนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง กรดไขมันดีกับแม่ท้อง * เส้นผม และเล็บให้แข็งแรง ลดการเกิดริ้วรอยที่ผิวหนัง * ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและระบบย่อยอาหาร * ลดปัญหาเชื้อราในช่องคลอดและการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ * ลดการบวมน้ำ * ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์แข็งแรง * ช่วยปรับระดับอารมณ์ของคุณแม่ตอนหลังคลอด กรดไขมันดีต่อเจ้าตัวน้อย * สำคัญต่อพัฒนาการทั่วไปของลูกในท้อง โดยเฉพาะสมองและสายตา * ลดอัตราเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกคลอดน้อย * ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของลูกร่างกายแข็งแรง * ช่วยไม่ให้ผิวแตกแห้ง เป็นขุย หรือผื่นเอ็คซีม่า เชื่อหรือยังล่ะ...ไขมันไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป เพียงแต่ต้องรู้จักเลือก รู้จักกินอย่างเหมาะสมค่ะ รู้มั้ยเอ่ย * สมองของเจ้าตัวน้อยมีไขมันเป็นส่วนประกอบถึง 60 เปอร์เซ็นต์ * DHA สำคัญต่อพัฒนาการของสมองและสายตา (ส่วนเรตินา) ของลูกอย่างมาก โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ * Food Standard Agency ของประเทศอังกฤษออกมาเตือนว่า คุณแม่ท้องหรือให้นมลูกไม่ควรกินปลาทะเลขนาดใหญ่ เพราะห่วงเรื่องสารตะกั่วที่สะสมในตัวปลา จนอาจเป็นอันตรายกับน้องน้อยในท้อง 
 

อัพเดทล่าสุด