ทานตับ..ทำให้ลูกพิการจริงหรือ


917 ผู้ชม


ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับตับ..กระแสกินตับทำลูกพิการ ทำคุณแม่ใจเสีย ทำความเข้าใจกันหน่อยนะ...หลังจากตระเวนสอบถามขอความเห็นคุณหมอด้านสูตินรีเวชรวมทั้งนักโภชนาการหลายๆท่าน...         ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับตับ..กระแสกินตับทำลูกพิการ ทำคุณแม่ใจเสีย ทำความเข้าใจกันหน่อยนะ...หลังจากตระเวนสอบถามขอความเห็นคุณหมอด้านสูตินรีเวชรวมทั้งนักโภชนาการหลายๆท่าน... 
ต่างก็ให้ความเห็นตรงกันว่าจริงอยู่วิตามินเอถ้าได้รับในปริมาณที่มากเกินไป เด็กในครรภ์จะมีโอกาสพิการได้ เช่น ปัญญาอ่อน แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่กิน "ตับ" ซึ่งนอกจากจะมีธาตุเหล็กสูงแล้ว ยังมีวิตามินเอสูงด้วยนั้น ใช่ว่ากินมากแล้วจะส่งผลให้ลูกในครรภ์พิการ อย่าลืมว่า "ตับ" เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ และธรรมชาติย่อมมีวิธีสร้างความสมดุลให้ร่างกายของคนเราอยู่แล้วค่ะ เพราะอย่างนี้ไม่ว่าคุณแม่จะกิน "ตับ"ในปริมาณมากแค่ไหน ร่างกายของคุณแม่ก็จะดูดซึมเฉพาะที่ต้องการเท่านั้น ส่วนที่เกินมา ร่างกายจะขับออกไปเหมือนของเสียอื่นๆ ยกเว้นในกรณีที่คุณแม่ได้รับวิตามินเอในรูปของยารักษาโรคในปริมาณที่มากเกินไป โอกาสที่ลูกจะพิการก็มีสูงค่ะ *ปริมาณวิตามินเอที่จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ได้นั้น คุณแม่ต้องได้รับมากเกิน 10,000 IU และจะมีผลชัดเจน เช่น กรณีลูกพิการเมื่อได้รับถึง 7 เท่าคือ 50,000 IU ซึ่งขนาดสูงเช่นนี้ต่อให้คุณแม่กิน "ตับ" เป็นอาหารทั้ง 3 มื้อในแต่ละวันปริมาณก็ ไม่มากเท่ากับที่กล่าวมาหรอกค่ะ ไม่ต้องกังวล *วิตามินเอในรูปของเม็ดยา มักพบในยารักษาโรคผิวหนัง เช่น รักษาสิว (RENTINOL) รู้อย่างนี้แล้วถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่และคุณหมอสั่งยารักษาสิวให้ คงต้อง ถามไถ่กันให้ดีก่อน(รวมทั้งยาชนิดอื่นๆด้วย) ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น "ธาตุเหล็ก" ต้อง "ตับ" เท่านั้นแม้ว่าตับจะมีธาตุเหล็กในปริมาณที่มาก และแม้ว่ารับประทานในปริมาณมากแค่ไหนก็ไม่มีอันตราย แต่ตามหลักทางโภชนาการแล้ว แม่ตั้งครรภ์ก็ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบทุกหมู่ รวมทั้งการได้รับธาตุเหล็กในแต่ละวันก็ควรมาจากอาหารที่หลากหลายด้วย อาหารที่มีธาตุเหล็กมากนอกจากตับแล้ว ก็ยังมี เนื้อสัตว์ต่างๆ อาหาร ทะเล นม ไข่ งา ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ถั่วเหลือง ในผักก็เช่น ยอดฟักทอง ผักกะเฉด ใบขี้เหล็ก ผักบุ้ง ตำลึง ฯลฯ เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะมีธาตุเหล็กในปริมาณสูงแล้วยังมีสาร อาหารอื่นๆที่ร่างกายต้องการเป็นผลพวงให้ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ *สำหรับแม่ตั้งครรภ์และแม่ที่ให้นมเจ้าตัวเล็กนั้นร่างกายต้องการธาตุเหล็ก ในปริมาณวันละ 48-78 มิลลิกรัม ในขณะที่ปกติจะต้องการวันละประมาณ 18-20 มิลลิกรัม *รู้รึเปล่าว่า "ข้าว" อาหารหลักของคนไทยเรานี่แหละ ตัวขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กตัวฉกาจเลยทีเดียว เพราะในข้าวมีสารที่ชื่อ "ไฟเตรท" อยู่ด้วย แต่วิตามินซีก็คือผู้ช่วยสำคัญในการช่วยเพิ่มการดูดซึมค่ะ เพราะอย่างนี้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ไม่ต้องเลิกกินข้าว แค่เพียงมื้อไหนที่มีอาหารธาตุเหล็ก ก็ควรมีผักใบเขียวต่างๆที่มีวิตามินซีเป็นอีกเมนูควบคู่ไปด้วย หรืออาจกินผลไม้ต่างๆ หลังมื้ออาหารตามลงไปก็ได้ 
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=384&sub_id=44&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด