สมุนไพรของแม่ท้อง


1,029 ผู้ชม


ปัจจุบันสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพให้กับแม่ท้อง นอกเหนือไปจากยาแผนปัจจุบันที่คุณหมอจะให้มาบำรุง คุณแม่มือใหม่ยังเสาะแสวงหาสมุนไพรมาบำรุงตัวเองไม่ให้ขาด...          ปัจจุบันสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพให้กับแม่ท้อง นอกเหนือไปจากยาแผนปัจจุบันที่คุณหมอจะให้มาบำรุง คุณแม่มือใหม่ยังเสาะแสวงหาสมุนไพรมาบำรุงตัวเองไม่ให้ขาด... 
ปัจจุบันสมุนไพรเหล่านั้นหายากและต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการปรุงยา จึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร แต่ก็มีสมุนไพรบางอย่างที่ช่วยบำรุงครรภ์ หาได้ง่ายและปลอดภัยทั้งกับแม่และลูกในท้อง สมุนไพรช่วยบำรุงครรภ์ 1. มะพร้าว ช่วยให้เด็กในท้องสมบูรณ์ คลอดง่ายและไม่มีเมือกติดตัว กินเมื่ออายุครรภ์ครบ 5 เดือน จะช่วยกระตุ้นให้เด็กดิ้น เพราะตอนนี้ เด็กต้องดิ้นบ้างแล้ว น้ำมะพร้าวควรผ่านความร้อนมาก่อน เช่น ต้ม เผา เพื่อความร้อนจะได้ทำลายสารพิษ บางอย่างที่อยู่ในมะพร้าว 2. เม็ดบัว รากบัว ยังไม่เด่นชัด แต่ช่วยในเชิงของครรภ์รักษา เป็นยา บำรุงครรภ์ได้ดี ไม่มีโทษอันตราย นำราและเม็ดบัวมาต้มกินน้ำ 3. น้ำแก่นขี้เหล็ก กินได้ตั้งแต่ท้อง 1 เดือนขึ้นไป ต้มสกัดกินน้ำ 4. น้ำอ้อย ควรเป็นน้ำอ้อยที่มาจากอ้อยดำอ้อยแดง ปัจจุบันน้ำอ้อยที่กิน คือน้ำอ้อยเกษตรใช้แทนกันได้บ้าง ป้องกันไม่ให้แม่เป็นไข้ ลดอาการ ไข้ต่ำๆ ซึ่งคุณแม่จะเป็นบ่อยช่วงตั้งครรภ์ 5. ฟ้าทะลายโจร แก้อาการท้องเสีย แก้หวัดที่มีไข้ กินแล้วไม่เหลือสารพิษตกค้าง ตับและไตจึงทำงานไม่หนักมาก กินแบบแคปซูลหรือเม็ดลูกกลอน สมุนไพรต้องห้ามแม่ตั้งครรภ์ สมุนไพรต้องห้ามส่วนใหญ่ของแม่ตั้งครรภ์จะออกฤทธิ์ให้มดลูกบีบตัวอย่างร้ายแรง คือ ทำให้แท้ง แต่ถ้าตกเลือดแต่ไม่แท้งอาจจะทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะส่งผลกับสมองของเด็กหรือทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์ 1. ยาสตรีทุกประเภท ตัวยาจะมีฤทธิ์บีบมดลูก และเป็นยาขับเลือด ซึ่งยาประเภทนี้เหมาะกับผู้หญิงที่ ประจำเดือนมาไม่ปกติ และเลือดลมไม่ค่อยดี เหมาะกับผู้หญิงหลังคลอด 2. อาหารและของที่มีรสจัด เช่น พริก พริกไทย ไพล และเครื่องแกง ต่างๆ จะมีฤทธิ์บีบมดลูก และทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน 3. ตังกุย ยาจีน ช่วยบำรุงและกระตุ้นฮอร์โมนเพศหญิงเหมาะกับคนวัยทองมากกว่าแม่ท้อง 4. สมุนไพรที่กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ท้องไส้ปั่นป่วนอย่างรุนแรงส่งผลกับเด็กในท้อง 5. หนุมานประสานกาย ช่วยขยายหลอดลม แพ้อากาศ ออกฤทธิ์ให้ หัวใจเต้นแรง คนที่เป็นโรคหัวใจก็ไม่ควรกิน 6. กวาวเครือ กินเพื่อให้มีน้ำมีนวลขึ้น ในปริมาณแค่เม็ด ถั่ว หรืออาจจะมาในรูปของครีมทาผิว ข้อรู้ทันก่อนกินสมุนไพร 1. สมุนไพรสำหรับคุณแม่ท้องส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่ใช้ในเชิงของครรภ์รักษา 2. ควรกินสมุนไพรเมื่ออายุครรภ์ครบ 5 เดือนขึ้นไปแล้ว 3. สมุนไพรที่กินต้องไม่ออกฤทธิ์บีบมดลูกเพราะจะเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ได้ สมุนไพร...แม่หลังคลอด การอยู่ไฟก็ถือเป็นการรักษาแบบสมุนไพรอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่มาก เพราะการอบและประคบจากการอยู่ไฟจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว กล้ามเนื้อที่เคยตึงเมื่อตั้งท้อง ก็จะผ่อนคลาย ทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็ว และช่วยลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านมได้ ส่วนสมุนไพรที่กินได้ในช่วงหลังคลอด สามารถเลือกกินได้มากกว่าช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะสมุนไพรที่มีสรรพคุณในเรื่องการสร้างน้ำนมให้ลูกและทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ** ยาสตรี สามารถกินได้แต่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ประสะน้ำ นม (เพิ่มปริมาณน้ำนม) ในตัวและขับน้ำคาวปลา ** ว่านชักมดลูก ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็ว เมื่อมดลูกเข้าอู่แล้วน้ำนมจะ ออกมาดี และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ** สมุนไพรที่มีรสหอม เกสรดอกบัว ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี รากสามสิบ รากร้อยหัว ชะเอมเทศ อบเชย ไพล เมื่อนำมาต้มกินจะ ช่วยบำรุงน้ำนม ** หัวปลีกล้วย ช่วยให้น้ำนมสะอาด หากทำควบคู่ไปกับการอยู่ไฟจะช่วย กระตุ้นให้น้ำนมมีมาก การที่แม่มีน้ำนมมากลูกก็ได้ดูดนมแม่ด้วยจะช่วย ไม่ให้เป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ** ใบกระเพรา ช่วยขับลมและประสะน้ำนม ข้อเท็จจริงเรื่องสมุนไพร กินสมุนไพรแล้วมีสารตกค้างหรือไม่ โดยทั่วไปสมุนไพรจะไม่มีฤทธิ์ตกค้างอยู่ในร่างกายแค่ 2 ชั่วโมง หากไม่ได้กินทุกวันก็จะไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย เรียกว่ากินไปตัวยาก็จะหมดไปวันต่อวันจึงไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย เลือกใช้ยาสมุนไพรหรือยาแผนปัจจุบันดี สมุนไพรถือเป็นทางเลือกที่ดีของการดูแลตัวเองของคุณแม่อย่างหนึ่ง ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ยาแผนปัจจุบันอาจจะออกฤทธิ์เร็วทันใจกว่าแต่ก็ทำให้ตับและไตทำงานหนัก เกิดสารตกค้างได้มากกว่า แต่กับยาสมุนไพรจะออกฤทธิ์ช้าอาจจะหายป่วยได้ไม่ทันใจ แต่ข้อดีคือไม่เกิดสารตกค้าง เมื่อกินแล้วมีโอกาสจะแพ้สมุนไพรหรือไม่ สมุนไพรมีฤทธิ์ทำให้เกิดการแพ้น้อย หากเกิดอาการแพ้สมุนไพรหรือได้รับปริมาณเยอะเกินไปจะทำให้อาเจียน เช่น กระเทียมเมื่อกินมากเกินไปร่างกายจะต่อต้านทำให้อาเจียน ส่วนผดผื่นที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากคาย(ขนเส้นเล็กๆ)ของพืชหรือเกสรดอกไม้ ซึ่งไม่มีพิษร้ายแรงแค่ล้างน้ำแล้วทายาแก้อาการคันระคายเคืองก็เพียงพอ ในสมุนไพรมีการผสมสารสเตียรอยด์หรือไม่ สารสเตียรอยด์ที่อยู่ในสมุนไพร เช่น ม้ากระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง กำลังช้างเผือก จะมีฤทธิ์ไม่มากเท่ากับที่มาจากสารสังเคราะห์ ช่วยคลายปวดกล้ามเนื้อได้เหมือนกันแต่อาจจะออกฤทธิ์ช้ากว่า และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายเหมือนยาแผนปัจจุบัน 
 

อัพเดทล่าสุด