อยู่ไฟ หลังคลอด


857 ผู้ชม


เมื่อคุณแม่ ตั้งครรภ์ และ อุ้มท้อง เป็นเวลาประมาณ 9 เดือนนั้น มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป  คุณแม่ มีน้ำหนักมากขึ้น กินอาหารมากขึ้น อาหารที่เหลือจาก ลูก ก็จะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปไขมันเพื่อ          เมื่อคุณแม่ ตั้งครรภ์ และ อุ้มท้อง เป็นเวลาประมาณ 9 เดือนนั้น มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป คุณแม่ มีน้ำหนักมากขึ้น กินอาหารมากขึ้น อาหารที่เหลือจาก ลูก ก็จะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปไขมันเพื่อ 
เตรียมการคลอด หน้าท้องขยายใหญ่ คุณแม่ต้องอุ้ม น้ำหนักลูก ทำให้กล้ามเนื้อของหลัง ช่องท้อง ต้น ขาต้องเกร็งตัวตลอดเวลา ทำให้มีอาการปวดหลัง คุณแม่ บางคนก็มีภาวะท้องผูก เป็นริดสีดวง เส้นเลือด ขอดที่ขา ท้องลาย ขาบวม เป็นต้น คนโบราณหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการ อยู่ไฟ หรืออยู่เรือนไฟคือ การไปนอนบนแผ่นกระดาษก่อกองไฟไว้ใกล้หรือด้านล่างเพื่อให้ มดลูก เข้าอู่ หรือแห้ง และยังเป็นการ ป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย เนื่องจากอยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ก็ยังให้คุณแม่ กินเกลือ เพราะต้องเสียเหงื่อมากจากความร้อนระยะเวลาของการอยู่ไฟนั้นประมาณ 7-15 วัน หลังคลอด และคุณแม่ จะต้องพยายามทำขาให้ชิดกัน เพื่อให้แผล ฝีเย็บ ติดกัน วิธีการนี้คนโบราณจะเรียกว่า การเข้าตะเกียบ ซึ่งช่วยให้คุณแม่ในยุคสมัยที่ยังนิยมการอยู่ไฟหลังคลอดมีสุขภาพสมบูรณ์ ปัจจุบัน การ อยู่ไฟหลังคลอด แบบในอดีตนั้นไม่เป็นที่นิยมจนคนรุ่นหลังๆ แทบไม่รู้จักวิธีการฟื้นฟูสุขภาพของ คุณแม่หลังคลอด ด้วยวิธีการนี้เลย ทั้งที่เป็นการฟื้นฟูสุขภาพ หลังคลอด ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งใน ระยะสั้นและระยะยาว การดูแลมารดาหลังคลอด การดูแลทารกแรกเกิด และการส่งเสริมสุขภาพเด็กดี โดยเฉพาะในส่วนของการดูแล มารดาหลังคลอด นั้น ได้นำเอาวิธีการดูแลมารดาหลังคลอดของโบราณมา ประยุกต์ใช้ เพื่อก่อให้เกิดสุขภาพดีทั้ง แม่และเด็ก โดยมีองค์ประกอบในการดูแล ดังนี้ การนวด เป็นการคลายกล้ามเนื้อของแม่ที่เกร็งตัวอุ้มท้องอยู่ตลอด 9 เดือน ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี สามารถนำเอาของเสียที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ของร่างกายออกมากับเลือด นำไปฟอกที่ไตเพื่อขับถ่ายออก ทางปัสสาวะ และเอาสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นอกจากนั้น การนวดยังช่วยลดอาการเส้นเลือด ขอดรีดสีดวงทวาร และอาการบวม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย เหมือนที่โบราณว่าเมื่อเลือดลม ดีสุขภาพก็ดี การทับหม้อเกลือ เป็นการนำเอาเกลือเม็ดใส่ในหม้อดินตั้งไฟจนเกลือสุกประมาณ 10-15 นาที วางลงบน สมุนไพร หลากหลายชนิด ห่อด้วยใบพลับพลึงและผ้าขาว เกลือที่ตั้งไฟจนสุกจะสามารถเก็บความร้อน ไว้ได้นาน 15-20 นาที เมื่อห่อเกลือด้วยใบพลับพลึงและผ้าขาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำมาประคบตามร่าง กายความร้อนจะช่วยให้รูขุมขนเปิด ทำให้สมุนไพรซึมผ่านลงไปได้ ช่วยขับ น้ำคาวปลา ขณะเดียวกันก็ขับ ของเสียออกมาตามรูขุมขน ทำให้คุณแม่มีผิวพรรณที่สวยงามรัดมดลูกให้เข้าอู่เร็ว การอบสมุนไพร คือการที่คุณแม่เข้าไปในห้องหรือกระโจมที่ถูกรมด้วยไอความร้อนจากน้ำต้มสมุนไพร ทำให้ร่างกายได้รับความร้อนทั่วตัว รูขุมขนเปิดตลอด ปอดและหลอดเลือดฝอยขยายตัว หายใจสะดวก ขึ้นทำให้ขับของเสีย ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และลดไขมันที่สะสมไว้ ขณะตั้งครรภ์ ทำให้หุ่นดี การใช้ยาสมุนไพรโบราณว่า เดิมมีการนั่งถ่าน โดยใช้สมุนไพรโรยที่ถ่าน ให้เกิดควัน แล้วนั่งคร่อม เตารม แผลฝีเย็บ ให้แห้งและให้ช่องคลอดกระชับ การใช้ยาสมุนไพรบำรุงธาตุ ขับน้ำคาวปลาและบำรุงนมในข้อนี้แพทย์แผนปัจจุบันไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่ายาที่คุณแม่ทานอาจ มีผลต่อเด็ก จึงทำให้ขั้นตอนนี้ไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการดูแลคุณแม่หลังคลอดในปัจจุบัน 
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=100&sub_id=47&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด