วิวัฒนาการทางการแพทย์รุดหน้า จนถึงที่ว่าสามารถกำหนดเพศให้ลูกได้อย่างใจแม่ เป็นส่วนหนึ่งจากการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ และอีกด้านหนึ่งคือเป็นเรื่องของค่านิยมทางสังคม...
ที่มาของการเลือกเพศบุตร เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ดูเหมือนว่าความรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาการใหม่ๆ ในแขนงต่างๆ จะเพิ่มพูนขึ้นด้วยอัตราที่เร็วขึ้นๆ อย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงวิวัฒนาการด้านการแพทย์ก็เช่นกันครับ ด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้เราสามารถที่จะวินิจฉัยโรคหรือภาวะผิดปกติต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ บางครั้งวินิจฉัยได้ก่อนที่จะเกิดอาการผิดปกติเสียอีก สำหรับวิวัฒนาการด้านสูติศาสตร์ก็เช่นกันครับแพทย์สามารถที่จะวินิจฉัยทารกได้ตั้งแต่เป็นตัวอ่อนไปจนกระทั่งอยู่ในครรภ์คุณแม่ ดังนั้น จึงมีความต้องการของพ่อแม่ที่จะเลือกให้ลูกที่จะเกิดออกมาในอนาคตเป็นไปตามความต้องการของตน เช่น เพศ จำนวน รวมทั้งวันเวลาที่จะคลอดได้อีกด้วยแล้วด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์กอปรกับภาวะเศรษฐกิจที่มีผลต่อการวางแผนการมีบุตรของแต่ละครอบครัว โดยเห็นได้จากอัตราการเกิดของประชากรประเทศไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปีละกว่าล้านคน ลดลงมาเหลือเพียงเจ็ดถึงแปดแสนคนต่อปี แต่ละครอบครัวมีการวางแผนกันมากขึ้น และ ส่วนใหญ่จะมีบุตรเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น โดยเน้นไปที่ความพยายามในการเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ เลือกให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับลูกเท่าที่จะให้ได้ ซึ่งการเลี้ยงดูนั้นต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากทีเดียว ดังนั้น เมื่อจำกัดการมีบุตรเพียงหนึ่งหรือสองคน ความต้องการอยากให้ลูกเป็นเพศอะไรนั้นมักได้รับคำตอบว่าต้องการได้ชายหนึ่งหญิงหนึ่งเสมอครับ |
ภาวะเศรษฐกิจกระตุ้นให้เลือกเพศ ด้วยคำถามว่าเหตุใดต้องชายหนึ่งหญิงหนึ่งก็มักจะได้คำตอบกลับมาจากคนไข้ว่ามีบุตรชายเอาไว้สืบสกุล ส่วนบุตรสาวเอาไว้อยู่กับพ่อแม่ยามแก่ชรา เอาไว้คอยดูแล ซึ่งเหตุผลเหล่านี้จะยังคงเป็นจริงอยู่หรือไม่ในโลกปัจจุบันก็ไม่สามารถยืนยันได้ แต่เป็นเหตุผลที่ได้รับฟังจากคนไข้อยู่เสมอๆ ดังนั้น เมื่อมีความต้องการดังกล่าวเกิดขึ้น แพทย์ในฐานะผู้ที่ให้บริการก็มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาคำร้องขอเหล่านี้อย่างถ้วนถี่ เพราะบุคคลและกลุ่มคนต่างๆในสังคมล้วนมีความเห็นที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับการเลือกเพศบุตร ไม่มีเสียงที่เห็นด้วยหรือคัดค้านเป็นเอกฉันท์ เช่นเดียวกันกรณีของการทำแท้งก็เช่นเดียวกันครับ ซึ่งก็ไม่ใช่หน้าที่ของหมอที่จะตอบว่าการเลือกเพศบุตรนั้นสมควรที่จะสนับสนุนหรือคัดค้าน เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็จะต้องมีคนคัดค้านหรือสนับสนุนอยู่ดี หมอเพียงนำประสบการณ์จริงมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งการจะเลือกหรือไม่เพศนั้นก็คงต้องปล่อยให้ขึ้นกับวิจารณญาณของคุณแม่ผู้อ่านเองว่าจะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือว่าคัดค้านกับเรื่องนี้ครับ วิวัฒนาการเลือกเพศลูก การให้บริการของคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก กับการเลือกเพศบุตร คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก มีรูปแบบการให้บริการเพื่อเลือกเพศบุตรจำแนกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ การฉีดเชื้อผสมเทียม เพื่อเลือกเพศบุตร วิธีนี้จะทำเมื่อสามีมีเชื้ออสุจิที่คุณภาพดีพอที่จะคัดเชื้อเลือกเพศได้ และภรรยาไม่มีความผิดปกติในอุ้งเชิงกราน ท่อนำไข่ไม่อุดตัน และอายุไม่มากเกินไป (ไม่เกิน 40 ปี) วิธีการที่ใช้ก็เริ่มต้นด้วยการให้ยากระตุ้นไข่ในรังไข่เพื่อให้ได้ไข่ระหว่าง 1-3 ใบที่จะสุกและตกตามเวลาที่กำหนด จากนั้นจึงขอให้สามีผลิตเชื้ออสุจิและเอาเชื้ออสุจินั้นไปทำการคัดแยกในห้องทดลองเพื่อให้ได้เชื้อเพศชายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น จากนั้นจึงเอาเชื้อที่คัดแล้วฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้ตั้งครรภ์ วิธีแบบนี้ มีโอกาสตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งประมาณร้อยละ15-20 และเมื่อตั้งครรภ์แล้ว โอกาสที่จะได้เพศบุตรตามที่ต้องการจะมีประมาณร้อยละ 70 เป็นวิธีที่ง่าย สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อย สามารถทำได้หลายครั้ง แต่ความสำเร็จไม่สูงนัก และต้องเผื่อใจว่าจะไม่ได้ลูกตามเพศที่ต้องการประมาณร้อยละ 30 การทำเด็กหลอดแก้ว และตรวจสอบโครโมโซมเพศของตัวอ่อน นำเซลล์เพียงเซลล์เดียวของตัวอ่อนในระยะ 8 เซลล์ หรือนำเซลล์ของตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์มาทำการตรวจสอบหาความผิดปกติของโครโมโซม ทำให้ได้ตัวอ่อนที่ไม่มีความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่พบได้บ่อยเช่น ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 13, 18, 21, 16, 22 เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถทราบได้อีกว่าตัวอ่อนดังกล่าวนั้นเป็นตัวอ่อนเพศใด วิธีการนี้นอกจากที่จะสามารถใส่ตัวอ่อนที่ปราศจากความผิดปกติของโครโมโซมที่ทดสอบแล้ว ยังสามารถใส่ตัวอ่อนที่มีเพศที่ต้องการได้อีกด้วย อัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้วและทดสอบตัวอ่อนก่อนการย้ายฝากตัวอ่อนจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ต่อการย้ายฝากตัวอ่อน 2 ตัวอ่อน อย่างไรก็ตามก็ขอฝากคู่สมรสที่จะตัดสินใจที่จะเลือกเพศบุตรสมควรที่จะหาข้อมูลให้มากที่สุดเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย โอกาสสำเร็จ โอกาสล้มเหลว ผลข้างเคียง ค่าใช้จ่าย เสียก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะใช้บริการดังกล่าวหรือไม่นะครับ คุณแม่รู้กันไหมคะว่า... การเลือกเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมายห้ามทำในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ อินเดีย จีน เนื่องจากที่จีนและอินเดียจะมีค่านิยมต้องการลูกเพศชาย หากให้เลือกเพศ ส่วนใหญ่จะเลือกเฉพาะเพศชาย ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลในสังคมได้ ส่วนบางประเทศต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย กับบ้านเราเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนออกมา วิธีการเลือกเพศตามวิถีธรรมชาติที่ว่า อยากได้ลูกชายต้องมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่สุกและทำช่องคลอดคุณแม่ให้เป็นด่าง รวมถึงให้คุณพ่อหลั่งน้ำอสุจิให้ช้ากว่าหรือพร้อมคุณแม่ ถ้าอยากได้ลูกหญิงก็ให้ทำตรงกันข้ามคือมีเพศสัมพันธ์หลังประจำเดือนหมดจนถึงสามวันก่อนไข่สุกแล้วทำช่องคลอดให้เป็นกรด วิธีการนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถปฏิบัติตามได้ไม่เกิดอันตรายต่อร่ายกาย แต่ไม่มีผลพิสูจน์ยืนยันทางการแพทย์ว่าได้ตรงตามเพศที่ต้องการ ยังไงก็ทำใจเผื่อไว้บ้างค่ะ... จาก: |
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=97&sub_id=41&ref_main_id=11 |