แพทย์ทางเลือกสามประสาน คือ การนำวิธีนวดฝ่าเท้าแบบจีนมาประสานกับการนวดกดจุดลมปราณและประสานกับการวางถ้วยดูดระบบสุญญากาศ (ครอบกระปุก)
แพทย์ทางเลือกสามประสาน เป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกที่เน้นการเสริมสุขภาพ และหลักการรักษาแบบองค์รวม ปรับภาวะให้ร่างกายเกิดความสมดุลเป็นการผสมผสานศาสตร์การแพทย์จีน เป็นการแพทย์ที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
นวดฝ่าเท้าแบบจีน แตกต่าง กับการนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพอย่างไร?
นวดฝ่าเท้าแบบจีน มีประวัติยาวนานมา 4-5 พันปี เป็นวิธีนวดฝ่าเท้าที่สามารถนำเสริมสร้างสุขภาพ และขจัดแก้ไขอาการโรคต่างๆ 10 ปีก่อน อาจารย์สุทัศน์ กุลสันติพงศ์ เดินทางเฉพาะไปที่เมืองจูไห่ (ติดกับมาเก๊า) ประเทศจีน ศึกษาวิธีนวดฝ่าเท้าแบบจีนกับแพทย์จีนอาจารย์จงเชิงเวย (วิธีการนวดฝ่าเท้าแบบจีนนี้เป็นวิชาชีพเฉพาะของตระกูลอาจารย์จงเชิงเวย ปกติจะถ่ายทอดวิชาชีพให้เพียงแค่ลูกหลานในตระกูล อาจารย์สุทัศน์ โชคดีที่ได้รับความเชื่อใจจากอาจารย์จงเชิงเวย ยินดีรับอาจารย์สุทัศน์เป็นศิษย์ และถ่ายทอดวิชาชีพนี้ให้กับอาจารย์สุทัศน์)
วิธีการนวดฝ่าเท้าแบบจีน เน้นการใช้ไม้นวดเป็นหลักประสานกับใช้มือนวดบางเวลา การนวดต้องนวดแบบมีระบบ สม่ำเสมอต่อเนื่อง และนวดหันไปทิศทางเดียว นวดหันเข้าสู่ร่างกายสู่ปอดสู่หัวใจ เพื่อผลักดันให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างมีพลังมีประสิทธิภาพ นวดฝ่าเท้าแบบจีนสามารถนวดได้ทุกวัน วันหนึ่งนวดได้ 2-3 ครั้ง ยิ่งนวดสุขภาพก็จะยิ่งแข็งแรง ต่างกับ การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพทั่วไปที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพวันหนึ่งห้ามนวดเกิน 1 ครั้ง อาทิตย์หนึ่งนวดได้ไม่เกิน 3 ครั้ง และเพียงนวดเพื่อสุขภาพไม่มีผลต่อการรักษา
นวดฝ่าเท้าแบบจีนมีผลมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร?
ตามทฤษฎีของการนวดฝ่าเท้าได้กล่าวไว้ว่า ที่ฝ่าเท้าของมนุษย์เรามีเขตสะท้อน 64 เขต กระจายทั่ว 2 ข้างเท้า แต่ละเขตสะท้อนมีเกี่ยวสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกาย กล่าวคือ ถ้าหากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งทำงานบกพร่องหรือกระทั่งเกิดอาการเจ็บปวด ก็จะส่งผลสะท้อนไปเขตสะท้อนที่ฝ่าเท้า เกิดมีอาการเจ็บปวดตามมา เช่นเดียวกันในเวลาที่เขตสะท้อนที่ฝ่าเท้าเกิดมีอาการเจ็บปวด หรือเปลี่ยนรูปทรง ก็จะส่งผลสะท้อนไปถึงอวัยวะภายในร่างกายที่เกี่ยวสัมพันธ์ ทำให้เกิดมีอาการเจ็บปวดหรือปฏิบัติหน้าที่บกพร่องตามมา เวลาเราทำการนวดฝ่าเท้ากับเขตสะท้อนที่มีอาการเจ็บปวดหรือเปลี่ยนรูปทรง พลังแรงนวดได้กระตุ้นถูกเซลล์ประสาทที่หล่อเลี้ยงอยู่รอบข้างเขตสะท้อนและอวัยวะภายในที่เกี่ยวสัมพันธ์ (โดยผ่านศูนย์กลางประสาทเชื่อมโยง) ตื่นตัวทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและผลักดันให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยเฉพาะได้ผลักดันให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวเข้ามากำจัดของเสียสารพิษออกจากผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายกว้างขึ้น เลือดไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ อาการเจ็บปวดที่มีอยู่ก็จะทยอยทุเลาหายดี
ลมปราณคืออะไร มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอย่างไร?
หนังสือต้นตำรับแพทย์แผนจีน “หวยตี้เน่ยจิง” ประมาณ 5,000 ปีก่อน มีระบุไว้ว่าร่างกายมนุษย์มีระบบเส้นลมปราณ เชื่อมโยงกับอวัยวะเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นเส้นทางลำเลียงเลือดลมไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ เนื้อเยื่อต่างๆ ให้ทำงานเป็นปกติและมีภูมิต้านทานการรุกรานของสาเหตุโรคจากภายนอก นอกจากนั้นเส้นลมปราณยังสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของอวัยวะภายในกับผิวหนังและช่วยปรับสมดุลในการทำงานของร่างกาย
หลายพันปีที่ผ่านมาทฤษฎีของระบบเส้นลมปราณจึงได้ถูกแพทย์แผนจีนโบราณนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยอาการโรค และบำบัดโรคต่างๆ ให้กับผู้ป่วย วิธีการบำบัดโรคโดยการฝังเข็ม ทุยน่า วางถ้วยดูดสุญญากาศ นวดกดจุดลมปราณ และการใช้ยาสมุนไพรจีนในการบำบัด ต่างต้องอิงกับทฤษฎีของระบบเส้นลมปราณ โดยเฉพาะการทำหน้าที่สรีระของเส้นลมปราณและจุดลมปราณ
พลังจากการนวดกดจุดลมปราณ
จุดลมปราณเป็นจุดที่มีชื่อเฉพาะ ที่ตั้งแน่นอน เป็นจุดสะท้อนอาการไหลเวียนของเลือดลม สะท้อนการปฏิบัติหน้าที่ของเส้นลมปราณ และสะท้อนอาการของอวัยวะภายใน
จากที่เส้นลมปราณและจุดลมปราณต่างๆ ในร่างกายมีสัมพันธ์เชื่อมโยงกับอวัยวะภายในร่างกายและยังปฏิบัติหน้าที่งานทางสรีระวิทยาสำคัญ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การนวดกดจุดลมปราณจึงเกิดพลังและมีประโยชน์ เช่นเดียวกับการนวดเขตสะท้อนที่ฝ่าเท้า คือ เป็นการกระตุ้นผลักดันให้เซลล์ประสาทที่หล่อเลี้ยงอยู่รอบตัวตื่นตัวปฏิบัติหน้าที่อย่างกระฉับกระเฉง ส่งผลผลักดันให้เลือดปรับการไหลเวียนหล่อเลี้ยงเข้าสู่การไหลเวียนอย่างมีระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากปรับการปฏิบัติหน้าที่ของจุดลมปราณเข้าสู่ปกติแล้วยังส่งผลทำให้อวัยวะที่เกี่ยวพันกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเวลาทำการนวดบำบัดหรือทำการนวดเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เราทำการนวดกดจุดลมปราณต่างๆ ของ 2 เส้นลมปราณคือ เส้นลมปราณตู และเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งกระจายอยู่แผ่นหลังของร่างกาย ให้ถ้วนทั่วควบคู่กับการนวดกดจุดลมปราณตามเส้นลมปราณอื่นที่มีปัญหา ที่มีอาการเจ็บปวดหรือเปลี่ยนรูปทรงไปพร้อมกัน ถือเป็นวิธีการบำบัดอาการโรคแบบองค์รวมแบบหนึ่งโดยขจัดแก้ไขอาการโรคทั่วหน้า ควบคู่กับการเน้นขจัดแก้ไขอาการโรคเฉพาะไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นวิธีเสริมสร้างสุขภาพและการบำบัดที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก 2 เส้นลมปราณเกี่ยวสัมพันธ์และควบคุมการปฏิบัติหน้าที่งานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น สมอง ต้นคอ ปอด หัวใจ กระบังลม ตับ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ม้าม ไต ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ มดลูก ฯลฯ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2067&sub_id=12&ref_main_id=3
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2067&sub_id=12&ref_main_id=3