ยาดี... ไม่ได้ดูที่ราคา


770 ผู้ชม


ในความเชื่อของคนส่วนใหญ่ มักจะมองว่าสินค้าที่มีราคาแพงย่อมที่จะมีคุณภาพ ดีกว่าสินค้าราคาถูก แม้กระทั่งเรื่อง “ยา” ก็เช่นกัน         ในความเชื่อของคนส่วนใหญ่ มักจะมองว่าสินค้าที่มีราคาแพงย่อมที่จะมีคุณภาพ ดีกว่าสินค้าราคาถูก แม้กระทั่งเรื่อง “ยา” ก็เช่นกัน 

หลายคนมักจะมองว่ายาที่มีราคาแพงจะต้องดีกว่า ยาที่มีราคาถูก แต่ข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น จะดูว่า ยาดีหรือไม่นั้นอาจพิจารณาจากปัจจัยทั้ง 5 ข้อ ดังนี้
1. ข้อบ่งใช้ของยา (Indication)  ยาจะต้องมีข้อบ่งใช้ที่สอดคล้องกับอาการเจ็บป่วยที่เป็น และเป็นข้อบ่งใช้ที่ตรงกับที่ขอขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและ ยา(อย.) แต่อย่างไรก็ดีข้อบ่งใช้ของยาตัวหนึ่งๆ อาจมีความแตกต่างกันได้ในแต่ละ ประเทศ ทั้งนี้ขึ้นกับ อย. และคณะผู้เชี่ยวชาญของแต่ละประเทศที่จะพิจารณาโดย คำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และความเหมาะสมกับประชากร ในประเทศของตน
2. ประสิทธิผลของยา (Efficacy)   ประสิทธิผลเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันระหว่างยา กับสาเหตุ ของการเจ็บป่วยนั้นๆ โดยมีปัจจัยในด้านของสภาวะร่างกายของผู้ที่ใช้ยาแต่ละรายเข้า มาเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่าง เช่น ยาเม็ดบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบจัดได้ว่า เป็นยาที่ใช้รักษาภาวะโลหิตจางได้ดี โดยธาตุเหล็กจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการ สร้างเม็ดเลือดแดงของร่างกาย  แต่อย่างไรก็ดีในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจากโรคธาลัส ซีเมียซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม เม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยจะมีลักษณะผิดปกติ และแตก ง่าย การได้รับยาเม็ดบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบกลับจะทำให้เกิดภาวะ ธาตุเหล็กเกิน และเกิดอันตรายกับผู้ป่วยได้
3. ความปลอดภัยจากยาที่ใช้(Safety)   เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนที่จะเลือกใช้ยา และต้องรู้ว่าผู้ที่ใช้ยาเป็นใคร ผู้ใหญ่หรือเด็กหรือผู้สูงอายุ อ้วนหรือผอม มีโรค ประจำตัวหรือแพ้ยาอะไรหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ยาพาราเซตามอลที่ดูเหมือนว่าจะเป็นยา ที่มีความปลอดภัยสูง แต่การใช้ยาในผู้ที่มีภาวะบกพร่องของตับก็ควรที่จะหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะตับวายเฉียบพลันได้
4. ความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วย(Adherence)  เป็นสิ่งสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับ ผลการรักษาโดยตรง มีผู้ป่วยหลายคนที่การรักษาไม่ได้ผลเนื่องจากการใช้ยาที่ไม่ ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี ไม่ถูกเวลาที่ควรได้รับยา หรือ ไม่ต่อเนื่องตามขนาดของยาที่ควร ได้รับ เป็นต้น
5. ราคา (Cost)  เป็นสิ่งที่พิจารณาหลังจากที่พิจารณาใน 4 ปัจจัยข้างต้นแล้ว โดยคำนึงถึง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และเหมาะสมกับผู้ป่วย โดยราคาจะต้องเอื้อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ ยาได้อย่างต่อเนื่อง ได้รับยาที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับผู้ป่วย สอดรับกับฐานะ ทางการเงินของผู้ป่วยแต่ละราย
ปัจจัยทั้ง 5 ข้อข้างต้นเป็นสิ่งที่แพทย์หรือ เภสัชกร   ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจ่ายยาแก่ ผู้ป่วย ราคาเป็นเพียงปัจจัยด้านหนึ่งเท่านั้นที่นำ มา พิจารณา และราคาก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพของยา การจะตัดสินว่ายาตัวหนึ่งจะดีกว่ายาอีกตัวหนึ่งหรือไม่นั้น จะต้องมองที่ผู้ที่ใช้ยา สาเหตุที่เป็นที่มาของอาการป่วยนั้น และคุณภาพของการจัดเก็บยา ซึ่งจะต้องจัดเก็บในสภาวะ ที่เหมาะสม ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด ดังนั้น ยาดีจึงไม่ได้ดูที่ราคา แต่ยาดี... ขึ้นกับความเข้าใจโรค เข้าใจยา การจัดเก็บยาที่ มีคุณภาพ และการปรับพฤติกรรมของผู้ป่วยเอง
จะเลือกใช้ยาครั้งใด... นึกถึง “ร้านยาคุณภาพ” นะครับ
ร้านยาคุณภาพ... เภสัชกรอยู่แนะนำ
ถามประวัติก่อนจัดยา
เก็บยาดีมีคุณภาพ
ข้อมูลควรทราบมีให้
“ร้านยาคุณภาพ ความปลอดภัยด้านยาที่คุณสัมผัสได้”

ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1455&sub_id=52&ref_main_id=3

อัพเดทล่าสุด