ขอบตาคล้ำ (dark circles) และเบ้าตาลึก สาเหตุและการแก้ไข


2,445 ผู้ชม


  • ดวงตา ก็เป็นจุดที่สำคัญจุดหนึ่ง บางคนเปรียบเหมือนเป็นหน้าต่างของหัวใจ การมีดวงตากลมโต สดใส ไร้ริ้วรอย ก็ทำให้หน้
าดูสวย-หล่อ ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ย่อมเป็นจุดสนใจแต่ผู้ที่ได้พบเห็นทั่วไป แต่ถ้าใครที่มีปัญหาขอบตาคล้ำ เหมือนหมีแพนด้า เบ้าตาลึกโปน ย่อมจะขาดความมั่นใจในการพบปะผู้คน เพราะจะทำให้ใบหน้าเราดูทรุดโทรม เหนื่อยล้า ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย ดังนั้น การรักษาผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำ ทำให้กลับมาสดใส จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น บทความจึงนำเสนอ สาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะมีประโยชน์กับหลายๆ ท่าน เพื่อให้ดวงตาของท่าน กลับมาสวยงามดังหนุ่มสาวแรกรุ่นได้อีกครั้ง
  • สาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาขอบตาคล้ำ ร่องตาลึก 
    1. อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ : สาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในสภาพสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเล่นเนต หรือดูหนังละคร ดึกๆ ดื่นๆ 
  • แนวทางการแก้ไข : ใครที่รู้ตัวว่าอดนอนบ่อยๆ หรือนอนดึก ก็ขอให้นอนเร็วขึ้น เพื่อที่ขอบตาจะได้ดูสดใสกว่าเดิม นอกจากนี้ การแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การมาสค์รอบดวงตา ด้วย น้ำ เกลือ 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำร้อนครึ่งถ้วย ใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือสำลีชุบในน้ำเกลือ บีบน้ำออกเล็กน้อย (แบบไม่ชุบให้ชุ่มจนเกินไป) หรือ อาจจะใส่ถุงชา หรือ ลองใช้มันฝรั่งสดฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาแปะที่ใต้ตา ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที รอยช้ำรอบ ๆ ดวงตา ก็จะค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด อาจจะทาครีมรอบดวงตาที่ผสมสารไวเทนนิ่งร่วมด้วยก็ได้ หรืออาจจะทำทรีทเม้นต์เพื่อให้รอยดำคล้ำดีขึ้น เช่น การทำ Phonophoresis รอบดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ ทำให้สารอาหารมาหล่อเลี้ยงได้มากขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ พร้อมใช้ตัวยาที่มีสรรพคุณเป็นไวเทนนิ่ง ไปฟอกสีดำคล้ำที่ขอบตาให้จางลง อ่านบทความเรื่อง Phonophoresis ได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=9&sdata=phono&col_id=124 นอกจากนี้ ยังพบว่า การทาเซรั่มรักษาขอบตาคล้ำ ที่มีส่วนผสมของวิตามินเค วิตามินอี ช่วยให้รอยดำคล้ำ จางลงได้ ถ้าสนใจ คลิกดูสินค้าได้ที่นี่https://www.clinicneo.co.th/2007/main.php?module=prodetail&pid=108 ส่วนการรักษาที่ได้ผลดีและเร็ว ก็คือ การรักษาด้วยการทำเลเซอร์กลุ่มเม็ดสี เช่น Revlite ซึ่งถือว่าเป็นเลเซอร์ที่รักษาขอบตาคล้ำที่ได้ผลดีสุด ปลอดภัย ผลข้างเคียน้อยมาก อ่านบทความเรื่องเลเซอร์ตัวนี้ได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=1&col_id=359 
    2.โรคภูมิแพ้เรื้อรัง : ภูมิแพ้ คนที่เป็นภูมิแพ้ จะพบว่าเส้นเลือดดำที่อยู่รอบตาจะขยายใหญ่มากกว่าคนทั่วไป และเส้นเลือดดำเหล่านี้นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ขอบตาของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ดูคล้ำกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ ปัญหาภูมิแพ้ ยังทำให้เกิดการระคายเคืองแถวๆ รอบดวงตา ทำให้ต้องขยี้ตาบ่อยๆ จึงเกิดการอักเสบ ทำให้ผิวหนังกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินให้เพิ่มจำนวนขึ้นในบริเวณนั้น จึงทำให้ขอบคาดำคล้ำได้ในที่สุด 
  • แนวทางการแก้ไข : พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อรักษาให้หายขาด หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรงๆ การใช้ครีมสำหรับทารอบดวงตาที่มีส่วนผสมของสารไวเทนนิ่ง ทาเฉพาะที่เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดรอยหมองคล้ำ หรืออาจจะทำทรีทเม้นต์เพื่อให้รอยดำคล้ำดีขึ้น เช่น การทำ Phonophoresis รอบดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ ทำให้สารอาหารมาหล่อเลี้ยงได้มากขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ พร้อมใช้ตัวยาที่มีสรรพคุณเป็นไวเทนนิ่ง ไปฟอกสีดำคล้ำที่ขอบตาให้จางลง นอกจากนี้ ยังพบว่า การทาเซรั่มรักษาขอบตาคล้ำ ที่มีส่วนผสมของวิตามินเค วิตามินอี ช่วยให้รอยดำคล้ำ จางลงได้ ถ้าสนใจ คลิกดูสินค้าได้ที่นี่https://www.clinicneo.co.th/2007/main.php?module=prodetail&pid=108 ส่วนการรักษาที่ได้ผลดีและเร็ว ก็คือ การรักษาด้วยการทำเลเซอร์กลุ่มเม็ดสี เช่น Revlite ซึ่งถือว่าเป็นเลเซอร์ที่รักษาขอบตาคล้ำที่ได้ผลดีสุด ปลอดภัย ผลข้างเคียน้อยมาก อ่านบทความเรื่องเลเซอร์ตัวนี้ได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=1&col_id=359 
    3.กรรมพันธุ์หรือเชื้อชาติ : เช่น พวกแขก หรืออาหรับ ซึ่งลองสำรวจดูว่า ญาติพี่น้องเราหลายๆ คน ก็มีปัญหาเดียวกันหรือไม่ ถ้าใช่ ก็แสดงว่าปัญหาขอบตาคล้ำของเรา มาจากกรรมพันธุ์นี่เอง 
  • แนวทางการแก้ไข : สาเหตุนี้ ค่อนข้างแก้ไขและป้องกันได้ยาก การทำให้เม็ดสีผิวบริเวณนี้จางลง ก็พอช่วยให้ดีขึ้นได้ เช่น การทาครีมรอบดวงตาที่ผสมสารไวเทนนิ่ง หรืออาจจะทำทรีทเม้นต์เพื่อให้รอยดำคล้ำดีขึ้น เช่น การทำ Phonophoresis รอบดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ ทำให้สารอาหารมาหล่อเลี้ยงได้มากขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ พร้อมใช้ตัวยาที่มีสรรพคุณเป็นไวเทนนิ่ง ไปฟอกสีดำคล้ำที่ขอบตาให้จางลง หรือถ้าจะให้ไฮเทคกว่านั้น ก็ทำการรักษาด้วยเลเซอร์ โดยการลดปริมาณเม็ดสีเมลานินที่เข้มให้ลดลงด้วย เลเซอร์กลุ่ม Nd:YAG หรือ IPL หรือ Diode Laser+RF ก็พอจะช่วยได้ แต่ก็ต้องทำหลายๆ ครั้ง และต้องใช้เวลาในการรักษา นอกจากนี้ ยังพบว่า การทาเซรั่มรักษาขอบตาคล้ำ ที่มีส่วนผสมของวิตามินเค วิตามินอี ช่วยให้รอยดำคล้ำ จางลงได้ ถ้าสนใจ คลิกดูสินค้าได้ที่นี่https://www.clinicneo.co.th/2007/main.php?module=prodetail&pid=108 ส่วนการรักษาที่ได้ผลดีและเร็ว ก็คือ การรักษาด้วยการทำเลเซอร์กลุ่มเม็ดสี เช่น Revlite ซึ่งถือว่าเป็นเลเซอร์ที่รักษาขอบตาคล้ำที่ได้ผลดีสุด ปลอดภัย ผลข้างเคียน้อยมาก อ่านบทความเรื่องเลเซอร์ตัวนี้ได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=1&col_id=359 
    4.หลอดเลือดใต้ตาขยายมากผิดปกติ (Vasculature inflammation) : ปกติ บริเวณใต้ตาของคนเราจะมีหลอดเลือดฝอยอยู่ ถ้ามันมีอะไรไปทำให้เกิดการบวมมากไปก็จะเห็นคล้ำๆใต้ตาได้ ซึ่งสาเหตุก็เกิดได้หลายอย่าง เช่น จากโรคบางอย่าง เช่น ภาวะการขาดธาตุเหล็ก หรือขาดสารอาหารอื่น, โรคไต , การอดนอน , การสูบบุหรี่, ชา-กาแฟ, โรคภูมิแพ้ ,การทาครีมรอบตวงตากลุ่ม Retin-A เป็นประจำ และ บางทีการลดความอ้วนมากไป ทำให้ไขมันบริเวณนั้นน้อยลง เส้นเลือดก็เลยเห็นชัดขึ้นก็เป็นไปได้เหมือนกัน 
  • แนวทางการแก้ไข : ถ้าพอจะทราบสาเหตุ ก็รักษาสาเหตุให้หาย งดบุหรี่ ชา-กาแฟ หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาจจะต้องใช้วิตามินหรืออาหารเสริม ถ้าพบว่าเกิดจากการขาดอาหาร หรืออาจจะทำทรีทเม้นต์เพื่อให้รอยดำคล้ำดีขึ้น เช่น การทำ Phonophoresis รอบดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ ทำให้สารอาหารมาหล่อเลี้ยงได้มากขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต นวดเซลล์ พร้อมใช้ตัวยาที่มีสรรพคุณเป็นไวเทนนิ่ง ไปฟอกสีดำคล้ำที่ขอบตาให้จางลง หรือ ทำการรักษาด้วย เลเซอร์กลุ่ม Vascular laser หรือ IPL ก็ช่วยให้หลอดเลือดหดตัวเป็นปกติ จึงทำให้รอยหมองคล้ำดีขึ้นได้ 
    5.ขอบตาคล้ำ จากเบ้าตาลึก : : ซึ่งจริงๆ แล้ว บางคน จะมีโครงสร้างของกระดูกใบหน้า ที่แปลกกว่าคนอื่นๆ คือ อาจจะมีโหนกแก้มสูง และมีเบ้าตาลึก ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตายุบลงไป เกิดเป็นรอยพับ ทำให้เห็นเป็นรอยเขียวๆคล้ำใต้ตาเหมือนขอบตาคล้ำจากสาเหตุอื่นๆ 
  • แนวทางการแก้ไข : วิธีนี้ ปัจจุบันแก้ไขได้ไม่ยาก การฉีดสารเติมเต็ม (Filler agents) เช่น กลุ่ม Hyaluronic acid ( เช่น Restylane,Restylane touch ) เพื่อเติมเต็มเบ้าตาลึก หรือร่องตาลึก ให้กลับมาเป็นปกติ รอยพับก็จะหายไป ทำให้รอยดำคล้ำรอบดวงตาก็หายไปด้วย แต่สารกลุ่มนี้ ปกติจะมีอายุไม่นาน ประมาณ 6-12 เดือน ก็ต้องมาฉีดซ้ำ อ่านบทความเกี่ยวกับสารตัวนี้ได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=9&col_id=310
  • ดังนั้น ถ้าท่านมีปัญหาเรื่องขอบตาคล้ำ ร่องตาลึก แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะแนวทางแก้ไข แต่ละสาเหตุก็จะแตกต่างกัน การแก้ไขให้ถูกจุด และเหมาะสม จะทำให้ดวงตาของท่าน กลับมาสดใส อ่อนเยาว์ได้อีกครั้งหนึ่ง 
    เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ 
    ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด ...............11 November,2009

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=&col_id=352

อัพเดทล่าสุด