Fractional RF ทางเลือกใหม่สำหรับรอยหลุม


1,620 ผู้ชม


  • ในปัจจุบัน นอกจากบุคลิกภาพที่ดี  มีความรู้ที่ดี มีจิตใจที่งดงาม มีน้ำใจแล้ว การมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูดี มีผิวพร��
�ณที่ดี ก็เป็นสิ่งที่พึงปรารถนา  ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าอายุเท่าไร เรื่องของการมีภาพลักษณ์ที่ดีโดยรวม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ จนใครๆก็พูดว่า มีภาพลักษณ์ที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ทำอะไรก็ง่าย แต่ใช่ว่าทุกคนจะเกิดมาได้สมบูรณ์ครบถ้วนได้เสมอไป บางครั้งอาจจะต้องมีปัญหาได้บ้าง โดยเฉพาะ ปัญหาผิวพรรณของคนเรา ส่วนใหญ่ๆ หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องสิว แผลเป็นจากสิว ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยหลุม หรือรอยแดงจากสิว ฝ้า รอยด่างดำ ริ้วรอยเหี่ยวย่น รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ ดังนั้นจึงต้องรักษาแก้ไขให้ดีขึ้น  เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งในปัจจุบัน วิวัฒนาการด้านความงาม ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ได้ผลมากขึ้น ดีขึ้น เร็วขึ้น และผลข้างเคียงน้อยลง
  • Fractional RF  ก็เป็นอีกวิวัฒนาการด้านความงาม ที่ใช้เทคโนโลยี่ ของการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF ย่อมาจาก Radio Frequency) มาใช้ในการรักษาผิวพรรณ ตัวคลื่น RF ที่เราเคยรู้จักกันมาบ้าง ก็เช่น Thermage  ส่วนเรื่องความรู้พื้นฐานของ  Radiofrequency Technique (RF) ในแวดวงความงาม ผมได้เขียนบทความไว้แล้วที่นี่https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=Rf&col_id=350   ส่วนคำว่า Fractional  ที่เรารู้จักกันมาก่อน จะเป็นเลเซอร์เป็นส่วนใหญ่ ( Fractional laser เช่น Fraxel,Fine scan ) ซึ่งก็ได้เขียนบทความไว้แล้วเช่นกัน ที่นี่https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=fractional&col_id=301
  • Fractional RF  เป็นการนำเอา  พลังงานคลื่นวิทยุ RF มาผสมผสานให้เป็นแบบ Fractional โดยที่ไม่ใช่เลเซอร์แบบเดิมๆ ที่เรารู้จักกัน  โดยมีข้อแตกต่างกันที่ Fractional Laser  ลักษณะพลังงานจะเป็นรูปปิรามิดคว่ำ  (Traditional fractional resurfacing )  แต่ Fractional RF  ลักษณะพลังงานจะเป็นรูปปิรามิดตั้ง (Subablative Rejuvenation ) (ดังรูปที่แสดงด้านบนซ้าย) ซึ่งข้อแตกต่างนี้ อธิบายได้ว่า Fractional Laser  จะทำลายผิวหน้าด้านบนมากกว่า Fractional RF   และกระตุ้นคอลลาเจนหรือมีผลต่อผิวหนังด้านลึกได้น้อยกว่า Fractional RF   แต่ขณะที่  Fractional RF   จะกระทบต่อผิวหนังด้านบนน้อยกว่า หรือจะถูก burn น้อยกว่า  Fractional Laser  จึงไม่เกิดรอยดำหลังทำ เพราะไม่มีพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ เหมือนเครื่อง  Fractional Laser   และมีอำนาจการทะลุทะลวงเจาะเข้าไปถึงชั้นผิวหนังแท้ได้กว้างขึ้น มากขึ้น แรงขึ้น จึงกระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า Fractional Laser   หรือสรุปง่าย   Fractional RF  หลังทำจึงมีปัญหารอยดำคล้ำหลังการทำน้อยกว่า Fractional Laser   แต่ ประสิทธิภาพการรักษาจะได้ผลดีกว่า มากกว่า Fractional Laser  
  •   เทคโนโลยี่ของ เครื่อง Fractional RF ปัจจุบัน แบ่งการทำงาน ได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
    1.  Fractional RF Micro Needle Technology ( FRM) เป็น Fractional RF แบบที่ใช้เข็ม นาโนขนาดเล็กมาก  แทงทะลุผ่านชั้นผิวหนังกำพร้า เข้าไปที่ชั้นหนังแท้  ตัวเข็มนาโน จะทำหน้าที่คล้ายๆ Dermaroller ในสมัยเมื่อหลายปีก่อน โดยทำให้เกิด Stamping effect ไปกระตุ้น Growth facter และยังทำลายพังผืดที่ยึดเกาะรอยหลุม หรือรูขุมขนกว้างหลังจากเข็มผ่านเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการแล้ว จะมีการปลดปล่อยคลื่น  RF  ที่ระดับ 2MHz เป็นระยะๆ ในอุณหภูมิคงที่  โดยพลังงานตัวนี้จะไปกระตุ้นองค์ประกอบสำคัญของผิวทั้ง 3 ชนิด ในคราวเดียวกัน คือ กระตุ้นการสร้าง Collagen,Elastin และ Hyaluronic acid  ไปพร้อมๆกัน  ซึ่งทั้งสามตัว เป็นโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นผิวหนัง เมื่อคอลลาเจน ฟื้นฟู ริ้วรอยก็จะลดน้อยลง ผิวมีความตึงกระชับมากขึ้น ผิวจึงเต่งตึง ฟูขึ้น และอีลาสตินที่มากขึ้นก็ไปทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นเหมือนผิวเด็ก หรือที่เรียกว่าผิวเด้ง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสารอุ้มน้ำ (Hyaluronic acid  ) จะคอยพยุงคอลลาเจนและอีลาสติน ให้โดดเด่นเห็นชัดเจนบนผิวภายนอก  ดังนั้น การทำ Fractional RF Needle (FRM) จึงเป็นวิธีการที่ช่วยกระตุ้น และฟื้นฟู ใหม่ แบบ เทคโนโลยี รีมิกซ์ใหม่ 3 in 1  คือทำครั้งเดียว ได้ทั้งรอยหลุมตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง หน้ากระชับ เต่งตึง  อวบอิ่ม มีน้ำมีนวล ในขณะที่เลเซอร์จะสามารถแก้ปัญหาได้เป็นอย่างๆ ไม่สามารถจะทำการแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้  
    2.  Fractional RF NON- Needle Technology (E-MATRIX)  :  เป็น Fractional RF แบบที่ไม่ใช้เข็ม แต่จะเป็นหัวที่สัมผัสกับผิว   โดยจะปล่อย RF  ชนิด Bipolar RF  ไปตาม Pin ของ หัวที่มีขนาด 8 คูณ 8 แถว ซึ่งแต่ละแถวจะมีกระแสเป็น + / - สลับกัน และมี Pattern การวิ่งของคลื่น RF แบบ Dual Matrix คือ วิ่งซิกแซกไปมา เพื่อลดแรงเสียดทานที่ผิว ทำให้ลดความเจ็บปวดขณะทำ แต่ได้ผลเป็นเลิศ พร้อมกับมีการใช้เทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า Select Pulse เพื่อให้ได้ผลการรักษาเทียบเท่ากับการทำ Resurfacing และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ให้ผลเทียบได้กับ Er-Glass Er-Yag และ Co2 จึง เท่ากับการนำอุปกรณ์เครื่องมือการรักษา 3 ชนิด มารวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน เพื่อใช้ในการรักษาริ้วรอย หลุมสิว กระชับรูขุมขน ความผิดปกติของเม็ดสี ผิวไม่เรียบเนียน  
  •   ความแตกต่างระหว่าง  Fractional RF Micro Needle Technology ( FRM)  กับ Fractional RF NON- Needle Technology 
    1.  Fractional RF Micro Needle Technology ( FRM) – จากคุณสมบัติในการที่  กระตุ้น Collagen,Elastin และ Hyaluronic acid  ไปพร้อมๆกัน    จึงได้ผลดีในคนที่มีปัญหารอยหลุมสิวลึก มีพังผืด รุขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่กระชับ ริ้วรอยทั้งตื้นและลึก เพราะกลไกการทำงาน จะเน้นไปที่ผิวหนังชั้นใน หรือชั้นลึก เพราะหลังทำ ผลลัพธ์จะพบว่าไม่ลอกผิว (Non-Ablative effects ) 70%  และลอกผิว (Ablative effects  ) เพียง 30%  นอกจากนี้ยังพบว่า Fractional RF Micro Needle Technology ยังช่วยแก้ปัญหาผิวกายไม่กระชับ คอเหี่ยวย่น รอยแตกลาย ได้ผลดีกว่าเลเซอร์ แต่ไม่เสี่ยงต่อรอยดำหลังทำ  บางรายงานเปรียบเทียบพบว่า การทำ Fractional RF Micro Needle 1 ครั้งเทียบเท่ากับการทำ Fractinal Laser ( Fine Scan,Fraxel ) 3 ครั้ง 
    2.  Fractional RF NON- Needle Technology -  จากการปล่อย RF  ชนิด Bipolar RF   กระแส RF จะลงไปทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวที่ลึกลงไป โดยที่บริเวณผิวชั้นบน จะทำให้เกิดการลอกผิวด้านบนออก ในขณะที่ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณชั้นล่าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง หลังทำ ผลลัพธ์จะพบว่าไม่ลอกผิว (Non-Ablative effects ) 30%  และลอกผิว (Ablative effects  ) 70%  จึงทำให้เม็ดสีจางลง  ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่กลัวเข็ม ผิวหน้ามีรอยด่างดำ หลุมสิวไม่มากนัก ผิวหน้าหย่อนคล้อยบ้าง ไม่มากนัก รูขุมขนกว้างพอประมาณ 
  •   ขั้นตอนในการทำ Fractional RF  
    ผู้ป่วยจะได้รับการทายาชาก่อนทำการรักษาทุกราย ประมาณ 45-60 นาที หลังเช็ดยาชาออก เช็ดด้วยอัลกอฮอล์ให้ผิวหน้าแห้ง หรืออาจจะเป่าลมเย็ฯให้แห้ง ในขณะที่ทำนั้นอาจจะรู้สึกคล้ายถูกดีด รู้สึกเจ็บได้บ้างบางจุด ทั้งนี้ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดก่อนมาทำการรักษาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการรักษา และหลังการรักษาอาจเกิดอาการบวมหรือแดง เจ็บเล็กน้อย อาจจะมีตุ่มน้ำหรือสะเก็ดหลังทำ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิดปกติ จะเกิดรอยแดงและรู้สึกร้อนผ่าวได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง และ 1-2 วันหลังทำ อาจเกิดสะเก็ดบาง ๆ แล้วลอกออกไปเอง หรือบางคนอาจจะมีสิวเห่อได้บ้าง แต่จะหายไปเองในเวลา 4-5 วัน 
  •    ผลลัพธ์ที่ได้
    หลังจากทำการรักษาแล้ว ประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะเริ่มสังเกตว่ารูขุมขนกระชับ เรียบเนียนขึ้น รอยหลุมตื้นขึ้น  ริ้วรอยดูจางลง หน้ากระจ่างใส เรียกง่ายๆ ทำ Fractinal RF ครั้งเดียว ได้ทั้ง หน้าเรียบเนียน หน้าใส วัยเยาว์ขึ้น หรือ 3 in 1 ในครั้งเดียว  และสามารถเห็นผลได้ชัดเจนในครั้งแรกที่ทำ มากขึ้นในเดือนที่ 2-3  ซึ่งผลการรักษาจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าผู้ป่วยดูแลและปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี โอกาสที่จะเกิดรอยดำหรือรอยแดงนั้นย่อมเกิดขึ้นได้น้อยมาก
  •    จำนวนครั้งในการรักษา
    การรักษานั้นอยู่ที่ปริมาณคอร์สละ 5 ครั้ง ควรห่างกัน 4- 6 สัปดาห์ เมื่อครบคอร์สแล้วสามารถทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน
  •    ข้อควรปฎิบัติหลังทำ Fractional RF  
    1. ควรประคบเย็นหลังทำทันที เพื่อลดปริมาณความร้อนที่เข้าสู่ผิว 
    2. ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำควรทาด้วยวาสลีนเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นตลอดเวลา 
    3. สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน 
    4. เมื่อผิวเริ่มหลุดลอก ปล่อยให้ลอกเองตามธรรมชาติ ไม่ควรขัดถูแรงๆ หรือทำการลอกผิวด้วยวิธีต่างๆ 
    5. หลังจาก 24 ชั่วโมงแรก จึงสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ  ควรหลักเลี่ยงแสงแดดจัด ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังการรักษาควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ
    6. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรืออบซาวน่า ที่ทำให้เกิดเหงื่อมากกว่าปกติ 
    7. งดหรือเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดประมาณ 1 สัปดาห์
    8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีอัลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อมิให้ผิวหน้าแดงมากขึ้น และเพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
  •    ข้อห้ามในการทำ Fractional RF  
    ถึงแม้ว่าเครื่อง Fractional RF   จะมีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองในเรื่องความปลอดภัยเพียงใดนั้น ก็ย่อมมีขอบเขตการรักษา เช่น ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้ที่ใส่เหล็กดามกระดูก เป็นมะเร็งที่ผิวหนัง ผู้ที่ตั้งครรภ์ และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร เป็นโรคภูมิคุ้มกันปกพร่อง โรคติดเชื้อ โรคเบาหวานที่ควบคุมอาการไม่ได้ มีแผลเปิดที่ผิวหนัง ผิวแห้งแตก มีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ได้รับยาละลายลิ่มเลือด ผู้ที่ผ่าตัดดึงหน้า หรือทำตามาไม่น้อยกว่า 1 ปี ผู้ทีทำการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ลอกหน้าด้วยสารเคมี หรือลอกหน้าด้วยวิธีอื่น ๆ มาน้อยกว่า 3 เดือน ควรหลีกเลี่ยงที่จะได้รับการรักษาด้วยเครื่องนี้
  •   ในความเห็นของผู้เขียน Fractional RF   จัดเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาผิวพรรณ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเรื่องผิวหน้าไม่เรียบเนียน รุขุมขนกว้าง รอยด่างดำ หน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ แถมไม่มีผลข้างเคียงหลังทำเหมือนการทำเลเซอร์แบบเดิมๆ ในอนาคตมีแพทย์หลายท่านคาดว่า Fractional RF น่าจะเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยม หรือเรียกว่าGold Standard ในการรักษาปัญหาผิวพรรณได้ดีเครื่องหนึ่งทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องรอยหลุมสิว และรูขุมขนกว้าง 
  • คลินิกนีโอ ได้นำเข้า เครื่อง Fractional RF  ตัวล่าสุดจากเกาหลี ยี่ห้อ Floracel  มาเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งเป็นเครื่อง Fractional RF  ที่มีการทำงานได้ทั้งแบบ Fractional RF Micro Needle Technology ( FRM) และ  Fractional RF NON- Needle Technology  ในเครื่องเดียว (ในขณะที่ในท้องตลาดตอนนี้ จะแยกเครื่องกัน ซึ่งราคาจะแพงกว่ามาก) ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ดังนี้
    1.  Fractional RF Micro Needle Technology ( FRM) : ค่าใช้จ่ายครั้งละ 10,000 บาท หรือคอร์ส 5 ครั้ง เพียง 40,000 บาท ครั้งหนึ่งยิงได้ไม่จำกัด Shots สำหรับหัวเข็มซึ่งใช้แล้วทิ้ง ท่านสามารถนำหัว Fractional RF Micro Needle เก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ 
    2.  Fractional RF NON- Needle Technology (E-MATRIX) : ค่าใช้จ่าย  200 บาทต่อ Shot , หรือ 6,000 บาทต่อ 100 Shots หรือ 10,000 บาท ต่อ 200 Shots  หรือ คอร์ส 5 ครั้ง เพียง 24,000 บาท(100 Shots) และ คอร์ส 5 ครั้งเพียง 40,000 บาท (200 Shots /ครั้ง) สอบถามเพิ่มเติมที่ หรือโทรนัดได้ที่ คลินิกนีโอ โทร. 02-6532211-2 
    เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ...ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 2 Febuary,2012

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=&col_id=383

อัพเดทล่าสุด