วิธีการกำจัดขนถาวร (Hair Removal)


986 ผู้ชม


  • ขน เป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่ต้องการให้มี ทำให้มีวิธีการกำจัดขน ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ซึ่งวิธีการดั้งเดิม ได้แก่ การถ�
��นขน การแวกซ์ขน การโกนขน การโกรกสีขน แต่ก็ไม่ถาวรในเวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะมีขนงอกมาได้อีก ซึ่งเราจัดอยู่ในการกำจัดขนชั่วคราว
  • การกำจัดขนที่เข้าข่ายกำจัดขนถาวรหรือกึ่งถาวร วิธีการกำจัดขนในปัจจุบัน มีอยู่ไม่กี่วิธีที่ได้ผล แบ่งตามความสามารถในการกำจัดขนโดยดูจำนวนขนที่งอกใหม่ต่อจำนวนเส้นขนเดิม จากน้อยไปมากสุด ได้ดังนี้ 
        1. การกำจัดขนด้วยวิธีจี้ด้วยไฟฟ้า ที่เรียกว่า Epilations คือ การปล่อยคลื่น microwave ไปตามแนวเส้นขน เพื่อทำลายเซลล์สร้างขน โดยมีขั้นตอนดังนี้ 
          1.1. ใช้เครื่องมือ ที่เรียกว่า Epiltron ซึ่งมีลักษณะเป็นครีม (ดูในภาพที่ 1) หนีบกับเส้นขนทีละเส้น แล้วปล่อยคลื่น mirowave ช่วงสั้น ( แตกต่างกันแล้วแต่ยี่ห้อ) 
          1.2. มีการขนถ่ายพลังงานไปตามแนวเส้นขน จนถึงบริเวณกระเปาะผม ซึ่งมีโมเลกุลของน้ำ บริเวณ hair shaft เป็นตัวเก็บพลังงาน
          1.3. พลังงานที่กักเก็บไว้ ได้แปรสภาพเป็นพลังงานความร้อน ประมาณ 149 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งมีผลทำให้ เซลล์ขน( papilla cells) ถูกทำลาย และทำให้เกิดการแข็งตัว( Coagulations) ของโปรตีน ทำให้เซลล์ขนและเนื้อเยื่อข้างเคียงแปรสภาพ 
          2.4 หลังจากนั้น วงจรในการเติบโตของเส้นขน จะหยุดชะงัก จากระยะ anagen ไปยังระยะ Telogen และขนหลุดร่วงไป และวงจรการสร้างขนใหม่ถูกรบกวน ทำให้ขนไม่งอกขึ้นมาใหม่ได้
         -ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลักการกำจัดขนด้วยวิธี Epilations ค่อนข้างเสียเวลา ทั้งคนไข้และแพทย์ที่รักษา เนื่องจากต้องใช้ครีมคีบขนทีละเส้น ซึ่งทำได้ง่ายถ้าขนบาง และจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้าขนดกดำ เส้นใหญ่ เช่น หนวดเครา ต้องเพิ่มพลังงานขึ้นอีก อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้บ้าง ขณะปล่อยพลังงานเข้าไปที่เส้นขน และพบว่า การกำจัดขนด้วยวิธีนี้ จะเหมาะกับ บริเวณขนที่บาง และปริมาณไม่มาก แต่ก็มีอัตราการเกิดขนได้ใหม่ ภายใน 10 ปี ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการกำจัดขนด้วย IPL ,laser จะได้ผลดีกว่า และสะดวกกว่า <
        2. การกำจัดขนด้วยเครื่อง IPL ถือเป็นวิวัฒนาการที่พัฒนามาอีกระดับหนึ่ง เทคนิคในการกำจัดขนด้วย IPL ก็คือ การปล่อยคลื่นความถี่ของแสง เช่น 765 nm ซึ่งช่วงคลื่นดังกล่าวจะไปจับเฉพาะสีดำของแกนผม และจะไปปล่อยพลังงานและทำลายเซลล์ที่ทำให้ขนเจริญเติบโต( germinated cells) บริเวณกระเปาะผม ทำให้ไม่สามารถทำให้ขนใหม่เกิดได้ โดยช่วงแรกๆ จะเห็นว่าขนจะขึ้นช้าลง เส้นเล็กลง แล้วค่อยๆ ลดลง แต่ได้ผลแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของขนแต่ละที่ โดยคำนึงถึง ขนาด สีขน และความลึกของรากขน 
         - ข้อดีในการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ ก็คือเจ็บน้อยกว่าการจี้ด้วยไฟฟ้า ในข้อที่ 1 เจ็บไม่มากนัก 
         - ข้อเสีย : จะได้ผลเฉพาะขนที่เส้นใหญ่ สีดำเข้ม และไม่เหมาะกับคนสีผิวเข้ม เพราะอาจจะเกิดรอยดำ หรือรอยไหม้ได้ง่าย และต้องทำหลายครั้ง และขน ก็ไม่หมด 100% 
    3. การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาความงามที่มีวิวัฒนาการก้าวหน้ามากกว่าและได้ผลดีกว่าการทำการจี้ด้วยไฟฟ้า หรือ IPL เพราะการจี้ด้วยไฟฟ้าจะต้องใช้เวลามาก และต้องจี้ทีละต่อมขน และต้องมีความชำนาญ ทั้งแพทย์และคนไข้ต้องใช้ความอดทนระดับสูง ขณะที่การกำจัดขนด้วย IPL จะได้ผลเฉพาะขนที่เส้นดก สีดำ และแข็ง อีกทั้งเหมาะเฉพาะกับคนที่ผิวขาว คนเอเซีย หรือคนผิวคล้ำ เสี่ยงต่อรอยดำ ไหม้จากความร้อนจาก IPL ได้ 
    - แต่ในขณะที่การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ใช้การผ่านลำแสงเฉพาะ และกำหนดขอบเขต ความลึก และใช้ความแตกต่างของสีขน และสีผิวเนื้อ ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่เม็ดสี เป็นตัวกำหนดความแม่นยำ 
    - ชนิดของเลเซอร์ ที่ใช้ คือ Alexandrite laser 755 nm, ruby laser 694 nm หรือ Long Pulse Nd:YAG Laser 1064 nm (Gentle YAG,Gentle YAG MAX PRO ,Q-Switched Nd:YAG  1064 nm (เช่น Medlilte C-6 ,Revlite Laser- เป็น เลเซอร์ Nd:YAG รุ่นล่าสุด ) ซึ่งเลเซอร์ 2 ชนิดหลัง ถือว่าเป็นเลเซอร์ที่กำจัดขนได้ดีสุดในปัจจุบัน โดยพบว่า มีความแตกต่างกันตรงที่ Long Pulse Nd:YAG Laser  เหมาะกับขนเส้นใหญ่ สีดำ เช่น หนวด เครา ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ฯลฯ ส่วน Q-Switched Nd:YAG  1064 nm เหมาะกับขนอ่อน สีไม่เข้มมากนัก เช่น ขนอ่อนบริเวณใบหน้า ขนใหญ่ๆ ที่กำจัดด้วย Long Pulse Nd:YAG Laser  แล้วเปลี่ยนมาเป็นขนอ่อน ทำให้เม็ดสีลดลง เพราะหลังทำ ขนจะเปลี่ยนเป็นสีขาวในทันที แล้วค่อยๆ หลุดร่วงออก ขนใหม่ จะงอกช้าลง และเล็กลง จนหายไปในที่สุด การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ กลุ่ม Nd:YAG ถือเป็นการกำจัดขนที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ใช้เวลาในการทำไม่นาน สะดวก ไม่ต้องทำหลายครั้งเหมือน IPL เห็นผลเร็ว และกำจัดขนได้เกือบ 100 % และกำจัดขนได้กับขนทุกชนิด ไม่ว่าขนสีเข้ม หรือขนอ่อน และเหมาะกับทุกสภาพสีผิว ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ 
    การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ทำไมถึงได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ เพราะใช้หลักการทำงาน ที่ว่า ลำแสงเลเซอร์ที่ยิงไปบริเวณที่ต้องการกำจัดขน จะไปเปลี่ยนแปลง และรบกวนการเจริญเติบโต ของผมระยะAnagen ไปสู่ระยะ Telogen ดังนั้น หลังทำเลเซอร์กำจัดขน ขนจะค่อยๆ ร่วงหลุดไป และขนใหม่ที่ขึ้นมา ก็จะเส้นเล็กลง และหลุดร่วงง่าย 
    - ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้ ก็คือ มีอาการปวดเจ็บเล็กน้อยหลังทำ อาจจะเกิดรอยแดง หลังทำ แต่ไม่กี่นาที ก็หาย
  • ดังนั้นจึงนับได้ว่า ในทศวรรตนี้ การกำจัดขนได้มีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประสิทธิภาพในการกำจัดขน และผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น และคาดว่าในทศวรรตหน้า คงได้ข่าวดีๆ ด้านนี้เพิ่มมากขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการกำจัดขนในแต่ละบริเวณ คลิกดูคร่าวๆ ได้ที่นี่https://www.clinicneo.co.th/2007/newservice/service11.htm 
    เรียบเรียงใหม่ โดย นพ.จรัสพล รินทระ ....................04/02/2013

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=7&sdata=&col_id=29

อัพเดทล่าสุด