การไม่มีพุง เป็นลาภอันประเสริฐ!


814 ผู้ชม


  • ในสมัยก่อนการไว้พุงเขาถือว่าเป็นของดี เพราะพุงเป็นสิ่งที่แสดงฐานะ แสดงความมีอันจะกิน นายพลสมัยก่อน ๆ ก็ไว้พุงกั��
�ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นจอมพลประภาสน์ จอมพลสฤษดิ์ คนไทยจึงมีค่านิยมของเรื่องพุงไปทางบวก ผู้ชายไทยที่ผ่านวัยหนุ่มไปแล้วก็มักจะไว้พุงกัน เพื่อเป็นสง่าราศีเป็นโหงวเฮ้งเสริมบุคลิกภาพ แต่มาถึงสมัยนี้การไว้พุงกลับเป็นสิ่งที่ตรงข้าม กับค่านิยมเดิมๆ แล้ว
  • การมีพุง ในปัจจุบันถือว่าเป็นจุดด้อยของทั้งชายและหญิง บ่งบอกถึงการไม่ดูแล ใส่ใจในสุขภาพของตนเอง เพราะการที่มีพุงใหญ่ อาจจะพบว่าป่วยมีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน (ส่วนใหญ่) โรคตับแข็งจนเกิดท้องมานมีน้ำขังในท้องมาก โรคของต่อมหมวกไตที่หลั่งสารสเตียรอยด์มากเกินไปจนทำให้อ้วน แต่ที่ผมกำลังจะพูดถึงในบทความนี้คือ "พุง" ที่เกิดจากโรคอ้วนที่คนทั่วไปส่วนใหญ่มีกัน
  • พุง ที่เกิดจากโรคอ้วนเกิดจากการที่ไขมันมาพอกพูนไม่ใช่เฉพาะที่หน้าท้อง แต่มีการพอกพูนของไขมันที่เครื่องใน เช่นลำไส้และเนื้อเยื่อรอบและหลังลำไส้ด้วยพุงที่หลามออกมาอย่างนี้มักจะเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงเวลาอ้วนมักจะมีไขมันไปพอกพูนที่ตะโพกและต้นขามากกว่า ผู้ชายที่อ้วนจึงมีลักษณะของลูกฝรั่ง หรือแอปเปิลที่อ้วนกลาง ส่วนผู้หญิงที่อ้วนมักจะมีรูปลักษณ์ของชมพู่คืออ้วนตรงฐาน ส่วนผู้หญิงสูงอายุที่อ้วนอาจจะมีลักษณะพุงหลามเหมือนผู้ชายได้เหมือนกัน
  • นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาพบว่าการมีพุงเนื่องจากมีไขมันไปพอกพูนที่หน้าท้องและอวัยวะภายในนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เขาพบว่าคนพุงหลามมีอัตราการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพาต อัมพฤกษ์ และมะเร็งบางชนิดได้มากกว่าคนไม่มีพุง จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเซาธ์ฟลอริดาพบว่าคนที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมมีไขมันที่พุงมากกว่าคนปกติถึง 45%
  • มีการศึกษาที่พบว่าการวัดรอบเอวรอบตะโพกเป็นดัชนีที่ดีที่บ่งชี้ถึงสุขภาพได้ดี โดยการเอาความยาวรอบเอวหารด้วยรอบตะโพก เช่นคนที่มีรอบเอววัดได้ 27 นิ้ว และรอบตะโพกวัดได้ 38.5 นิ้ว จะได้ผลหารเป็น 0.70 จากการศึกษาเขาพบว่าค่าปกติในชายไม่ควรเกิน 0.95 ส่วนหญิงไม่ควรเกิน 0.80 ถ้าใครได้ค่าเกินกว่านั้นควรจะทำ การลดพุงเสีย
  • การลดพุงสามารถทำได้ถ้าตั้งใจและมีความรู้เรื่องนี้พอสมควรคือ 
    1. ต้องรู้ว่าชายกับหญิงที่มีพุงเท่ากันหญิงจำเป็นต้องออกแรง บริหารร่างกายมากกว่าจึงจะลดพุงได้เท่ากัน ทั้งนี้เพราะว่าโดยปกติชายมีส่วนของกล้ามเนื้อมากกว่าหญิง หญิงมีไขมันมากกว่า การลดไขมันของชายจึงทำได้เร็วกว่า 
    2. การลดอาหารควรจะถือจำนวนคุณค่าของอาหารนับเป็นแคลอรีเป็นหลัก ถ้ากินไขมันน้อยก็จะทำให้ลดพุงได้เร็วขึ้น ทั้งนี้เพราะไขมันให้พลังงานเป็นแคลอรีมากกว่าอาหารอย่างอื่น อนึ่งท่านควรรู้คุณค่าของอาหารแต่ละชนิดดังนี้คือ อาหารไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี , อาหารแป้ง 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี , อาหารโปรตีนหรือเนื้อ 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี ผู้อ่านหลายท่านที่ชอบดื่มเหล้าควรรู้ว่า แอลกอฮอล์ 1 กรัมให้พลังงานสูงถึง 7 แคลอรี ยิ่งถ้าเป็นเบียร์ซึ่งมีส่วนผสมอย่างอื่นด้วยยิ่งมีแคลอรีมากขึ้นไปอีก จึงไม่น่าแปลกใจที่คอเหล้า คอเบียร์ในหมู่คนมีอันจะกิน (ซึ่งมีกับแกล้มดี) ถึงได้อ้วนพุงหลามกันทั้งนั้นทั้ง ๆ ที่คุยว่าไม่ได้กินกับแกล้มมากมาย วิธีลดไขมันหรือจำนวนแคลอรีที่ดีวิธีหนึ่งคือการกินผักผลไม้แทนอาหารอย่างอื่นให้มาก ๆ เข้าไว้ 
    3. สิ่งที่สำคัญที่ช่วยลดพุงได้ดีคือการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานให้สม่ำเสมอ การออกแรงไม่หนักแต่นานนั้นจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ส่วนการออกแรงแบบหนักแต่ไม่นานนั้นจะเผาผลาญแป้งที่อยู่ในตัวและกล้ามเนื้อ ในความเห็นของผู้เขียน จึงแนะนำให้ออกกำลังทั้งสองอย่างจะช่วยในการลดพุง การเล่นกล้ามท้องอย่างเดียวไม่ช่วยในการลดพุงได้เพียงพอ การลดพุงที่ได้ผลคือการลดไขมันสะสมทั้งร่างกาย แต่การเล่นกล้ามท้องก็จะช่วยในแง่ดึงรั้งให้ท้องยุบลงแลดูสวยงาม 
    4. คนที่พยายามลดน้ำหนักจะทำได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีความเครียดหรือเครียดน้อย เขาพบว่าความเครียดจะไปทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแอดรีนะลีน กับคอร์ติโซลจากต่อมหมวกไต ฮอร์โมนตัวแรกทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรง ความดันเลือดพุ่งสูง ส่วนฮอร์โมนตัวที่สองจะช่วยเสริมฤทธิ์ตัวแรกในการผลักดันไขมันให้ไปพอกพูนอยู่ที่ท้อง ปกติคนที่ทำงานเครียดมาก ๆ มักจะคลายเครียดด้วยการกิน ทำให้มีไขมันมากกว่าปกติอยู่แล้ว เมื่อประกอบกับฤทธิ์ของฮอร์โมนทั้งสอง พุงจึงโตได้ง่าย บางคนเครียดแล้วหันไปยึดเหล้ายาเป็นสรณะ การลดความเครียดด้วยการดื่มเหล้าเบียร์ ยิ่งทำให้ไดัอ้วนได้ง่ายมากๆ แถมอาจจะทำให้เกิดโรคภัยภายหลังด้วย 
    5. การลดน้ำหนักลดพุง สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย เพราะไม่มีใครที่จะแก่เกินการลดพุงได้ เคยมีการทดลองที่สหรัฐอเมริกา พบว่าคนอายุ 60-70 ปี สามารถลดน้ำหนัก ลดพุง ได้โดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย มีหลักฐานว่าแม้แต่คนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันถ้าลดน้ำหนักลงมาก็จะมีผลดีต่อหลอดเลือดหัวใจด้วย 
    6. บางคนชอบอ้างว่าความอ้วนเป็นกรรมพันธุ์ที่เราควบคุมไม่ได้ ที่จริงแล้วได้เคยมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ากรรมพันธ์มีส่วนอยู่เพียง 30-40% เท่านั้น ที่เหลือ 60-65% ไม่เกี่ยวกับกรรมพันธุ์เลยเราจึงสามารถควบคุมมันได้ 
    7. ตั้งสติ ตั้งใจ อย่างจริงจังเหมือนกับการตั้งใจทำงานจนประสบผลสำเร็จ (มีสตังค์มาใช้จ่าย หาของกิน จนเกิดมีพุง) ได้ ทำมั้ยจะลดพุงแค่นี้ไม่ได้ และห้ามพูดคำว่า ขี้เกียจ,ไม่มีเวลา,ช่างมันเถอะ แก่แล้ว ฯลฯ
  • พุงเป็นดัชนีของสุขภาพที่ดีอย่างหนึ่ง การลดพุงเป็นสิ่งที่ทำได้และควรทำถ้าท่านยังอยากมีชีวิตในบั้นปลาย ที่สมาร์ท สง่างาม และมีบุคคลิกภาพที่ดี ปราศจากโรคภัย การไม่มีพุงเมื่อสูงวัย บ่งบอกการควบคุมและดูแลตนเองได้ดีทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ 
    เรียบเรียงและค้นคว้า โดย นพ.จรัสพล รินทระ 
    Update ล่าสุด...18 January,2006

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=5&sdata=&col_id=297

อัพเดทล่าสุด