แผลเป็นสิว ประเภทสีผิวผิดปกติ


941 ผู้ชม


  • การมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา เนียนใส ไร้ตำหนิบนใบหน้า เป็นด่านแรก ที่เรียกความมั่นใจและกำลังใจแก่ท่านในการที่จะทำก
ิจการใดๆ เมื่อย่างก้าวออกจากบ้าน การดูแลรักษาผิวหน้าเมื่อมีปัญหา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ
  • ปัญหาแผลเป็นสิว มักเกิดจากสาเหตุการมีปัญหาสิวมาก่อน ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ โดยเมื่อมีการแก้ไขที่ไม่ถูกวิธีจึงทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมา เช่น เมื่อสิวอักเสบแตกหรือยุบตัว จากการกด บีบ หรือแตกเอง ก็เกิดรอยหลุมขึ้น หรือสิวอุดตันหรือสิวอักเสบขนาดเล็ก ที่รักษาไม่ถูกวิธี มีการกดหรือบีบสิวอย่างผิดวิธี ก็เกิดรอยดำ รอยหลุม ได้
  • ชนิดของแผลเป็นสิว( Classification of Acne scars) 
      1. สีผิวผิดปกติ ( Surface discolorations) แบ่งย่อยได้เป็น 
      1.1 รอยแดงจากสิว(Postinflammatory reddness):มักพบและเกิดขึ้นได้บ่อยๆ เมื่อสิวอักเสบ เริ่มจะหาย 
    แนวทางการรักษา: ปกติมักจะจางหายไปได้เอง ภายใน 1-4 อาทิตย์ แล้วแต่ความรุนแรงของการเกิดสิว และสภาพสีผิวในแต่ละคน โดยในคนผิวขาวจะหายได้ช้ากว่าคนสีผิวคล้ำ การทาครีมลดการอักเสบ และการทำไอออนโต หรือ IPL (ได้ผลดีและเร็ว) จะช่วยให้รอยแดง ดีขึ้นได้บ้างในบางคน การทาครีมกันแดด และการเลี่ยงแดด จะช่วยป้องกันมิให้รอยแดง เป็นมากขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นรอยดำ 
      1.2 รอยดำจากสิว (Postinflammatory hyperpigmentation): เกิดขึ้นได้เป็นลักษณะเป็นวงๆ สีน้ำตาลแดงจนถึงสีเข้ม รอยดำจากสิว มักจะเกิดจากการกดหรือบีบสิว แต่ในบางครั้งก็เกิดได้เองในบางคนที่การสมานแผลไม่ดี พบได้บ่อยในคนผิวคล้ำมากกว่าคนผิวขาว มักจะเป็นชั่วคราว แล้วจะ ค่อยๆ จางไปเอง แต่ในบางรายที่อาจจะใช้เวลา นานเป็น 8-12 เดือน จึงมีการแก้ไขให้จางเร็วขึ้นดังนี้ 
    แนวทางการรักษา: 
    1.2.1 Chemical Peeling: โดยการแต้มด้วยกรดเข้มข้น เช่น 50-70 % AHAs หรือ 30-50% TCA กลไกการรักษา ก็คือ การทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกบริเวณรอยดำ หลุดลอกออกช้าๆ มักจะนิยมทำทุก 2-3 อาทิตย์จนกว่าจะจางเป็นปกติ 
    1.2.2 Whitening Creams (ครีมลดรอยดำสิว) ซึ่งมีอยู่หลายตัว เช่น กลุ่ม AHA,Albutin,Kojic acid,Licorice ทาบริเวณที่เป็นรอยดำ ก็จะช่วยให้ค่อยๆ จางลงได้ 
    1.2.3 Iontophoresis : โดยใช้ครีมหรือเจลที่มีฤทธิ์เป็น Whitening agents ที่นิยมก็คือ วิตามินเอ และวิตามินซี โดยทำให้เนื้อครีมซึมได้ลึกกว่าการทาครีมปกติ จึงช่วยฟอกสีให้จางได้ในกรณีที่รอยดำลึกลงไปในชั้นหนังกำพร้าหรือหนังแท้ 
    1.2.4 การกรอผิวหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion ) โดยการกรอผิวหน้า ให้หลุดลอกออกด้วยเกร็ดอัญมณีขนาดเล็กมาก ตรงบริเวณรอยดำของสิว ก็จะช่วยให้หายเร็วขึ้นเช่นกัน 
    1.2.5 การทาครีมกันแดด และเลี่ยงแดด เพื่อป้องกันมิให้รอยดำเป็นมากขึ้นจากรังสี UBA และ UVB
    1.2.6 การกำจัดออกด้วยเลเซอร์ชนิด Pigment Laser เช่น กลุ่ม Nd:YaG หรือ IPL จะทำให้เม็ดสีจางออกได้เร็วภายในไม่กี่วัน/อาทิตย์ แต่ค่าใช้จ่ายแพงและต้องทำหลายครั้ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์และความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษา เพราะอาจจะดำคล้ำมากขึ้นได้ จากผลของเลเซอร์หรือ IPL เอง 
    ( กรุณาติดตามตอนที่ 2 > 
    เรียบเรียงและค้นคว้าใหม่ โดยนพ.จรัสพล รินทระ .......ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด.....6 September 2005

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=3&sdata=&col_id=223

อัพเดทล่าสุด