 | - ผื่นแดง มีอาการคัน แฉะๆ พบเกิดได้ในบริเวณร่มผ้า ที่อับชื้น ก่อให้เกิดความรำคาญ แก่ผู้ที่มีปัญหาเป็นอย่างมาก ทำให้
|
ขาดความมั่นใจเมื่อต้องทำกิจกรรมที่ต้องเปิดเผยผิวกายส่วนนั้นต่อผู้อื่น - ลักษณะผื่นที่พบ จะมีลักษณะ เป็นปื้นแดง คัน เปื่อย มีขุยโดยรอบ และมักมีการแตกของผื่น กระจายเป็นตุ่มแดง เป็นกลุ่มๆ อักเสบ อาจมีหนอง รอบๆ ผื่นได้ คล้ายเป็นบริวารของผื่น ที่เรียกว่า Setellite lesions ( ดังรูปประกอบ) มักพบบริเวณซอกหรือในร่มผ้า ที่มีความชื้นสูง ได้แก่ ร่องก้น ขาหนีบ ซอกรักแร้ ซอกนิ้วมือ ซอกนิ้วเท้า ใต้อก(ในคนอ้วน) สะดือ บริเวณอวัยวะเพศของเด็กที่ใส่ผ้าอ้อม ใต้ราวนม(ในคนอ้วน)
- สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อรา ในรูปของยีสต์ หรือ สายรา ที่เรียกว่า กลุ่ม Candida ที่พบบ่อยที่ก่อให้เกิดโรคในคน ชื่อ Candida albicans
- เชื้อรา Candida มีความแตกต่างจากเชื้อราที่ทำให้เกิด กลาก เกลื้อน เพราะเป็นเชื้อราที่พบเป็น จุลินทรีย์( normal flora) บริเวณ ช่องปาก ทางเดินอาหาร และช่องคลอดของสตรีอยู่แล้ว ปกติไม่ทำให้เกิดโรค ยกเว้นจะมีปัจจัยเสริมดังนี้
1. ภาวะภูมิคุ้มกันลดลง จาก โรคเบาหวาน มะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอดส์ ภาวะเม็ดเลือดผิดปกติ
2.ความอับชื้นจากอากาศ การแต่งกาย ผ้าอ้อม การใส่เฝือก ภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ
3.ความอ้วน
4.ยาที่รับประทานประจำ เช่น เสตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด
5.การใส่ฟันปลอม
6.การตั้งครรภ์
7.สภาวะความเป็นกรดของช่องคลอด
8.การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ - การติดเชื้อ Candidiasis แยกจากการติดเชื้อราจากโรคกลาก ได้โดยการขูดขุย หรือตุ่มหนอง มาดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือจากการเพาะเชื้อ นอกจากนี้ ผื่นจากเชื้อกลาก มักแห้งกว่า และขอบเขตชัดกว่า ไม่มีบริวารลูก และไม่ค่อยคันมาก
- การดูแลและการป้องกัน
1. ขจัดหรือควบคุมปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรค ข้างต้น
2. ใช้ยาต้านเชื้อรา ทั้งในรูปของครีม เช่น cloteimazole cream ทา วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็ฯ หรือ ถ้าเป็นมากๆ อาจให้รับประทานยา ketoconazole วันละ 1 เม็ด นาน 1-2 สัปดาห์ มักจะหายขาด
เรียบเรียงใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ ..........................03/08/2004 |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=8&sdata=&col_id=62