มาปรับท่านั่งที่ดีต่อสุขภาพหลังของคุณกัน


811 ผู้ชม


สวัสดีจ้า หลายท่านคงจะเคยมีปัญหาปวดเมื่อยหลัง เจ็บหลัง ทั้งที่อายุก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ จริงๆ แล้วหากท่านรักษาท่านั่งที่ดีได้ตลอดทั้งวัน สิ่งนั้นจะช่วยป้องกันหลังของคุณจากอาหารปวดเมื่อยได้ และเป็นวิธีที่ง่ายๆที่คุณเองก็ทำได้ไม่ยาก หรือแม้แต่การยืน การนอน ก็จำเป็นที่จะต้องรักษาท่าที่เหมาะสมกับร่างกายเรา จัดท่าร่างกายของคุณให้ถูกต้อง จะช่วยให้กระดูกสันหลังของคุณมีการจัดตำแหน่งที่เหมาะสม และยังช่วยให้ลดความตึงของเส้นเอ็นที่ยึดกระดูกสันหลังของคุณอีกด้วย ส่งผลให้คุณทำงานต่างๆได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อของคุณด้วยเช่นกัน มาดูท่านั่งสำหรับ คนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆ ควรปรับพนักเก้าอี้ของคุณให้เอียง 100-110 องศา ควรปรับพนักเก้าอี้ขึ้นลงให้เหมาะสม หากมีหมอนเล็กๆ ก็ควรนำมาพิงหลังหากจำเป็น เพื่อให้หลังตั้งตรง หรือหากเก้าอี้ทำงานมีระบบปรับหลังพนักพิงให้ปรับตำแหน่งเก้าอยู่เสมอ ให้พนักพิงสามารถรองรับช่วงโค้งของกระดูกสันหลังช่วงเอวได้ดี ปรับที่วางแขนเพื่อให้ไหล่อยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย หากที่วางแขนทำให้ทำงานไม่ถนัดก็ควรถอดออก และควรปรับระดับความสูงของเก้าอี้ เพื่อให้ขาของคุณถึงพื้น และทำให้เข่าขนานหรืออยู่ในระดับต่ำกว่าสะโพกเพียงเล็กน้อย และควรวางสะโพกให้ไกลจากคอมพิวเตอร์ ก็จะสามารถป้องกันอาการปวดหลังที่เกิดจากการนั่งทำงานหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้ ปรับระยะห่างของช่วงโต๊ะไม่ควรให้ชนกับต้นขา ควรนั่งให้ระยะของขาตั้งฉากกับเก้าอี้ และควรปรับเบาะเก้าอี้ให้ได้ระดับการตั้งฉาก 90 องศาของเข่า นอกจากนั้นควรจะมีที่พักเท้ารองใต้เท้าเพื่อไม่ให้เท้าลอยขึ้นมาจากพื้น เมื่อปรับเบาะให้อยู่ในระดับเดียวกับความสูงของเก้าอี้แล้ว ควรจะหาอะไรมารองเพื่อให้ช่วงเข่าและเท้าผ่อนคลาย ควรพักสายตา อย่างน้อย 5 นาที หลังจากที่จ้องดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เนื่องจาก แสง และรังสีต่างๆ ที่ออกจากจอ อาจทำให้ตาเมื่อยล้า และทำให้สายตาสั้นลงได้ ควรจะพักสายตา โดยการหลับตา หรือ มองไปบริเวณรอบๆ เป็นระยะๆ หากรู้สึกปวดตา ให้มองไปบริเวณที่มีสีเขียว ก็อาจจะทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น ไม่ควรจ้องมองไปที่แสงสว่าง หรือที่มีแดดจ้า หากรู้สึกเมื่อย ก็ให้หยุดพัก ออกไปเดินสูดอากาศข้างนอก ที่สำคัญต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อหลัง ด้วยการหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่สุขภาพดี ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ปวดหลังได้ด้วยตัวเอง ที่มา : https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2887&sub_id=4&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด