DHEA : ฮอร์โมนต้นกำเนิดของฮอร์โมนเพศ เพื่อการชะลอวัย


1,105 ผู้ชม


  • นับตั้งแต่ศาสตร์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ( Anti-Aging and Regenerative Medicine) ได้มีการพัฒนาองค์ความรุ้และก้าวหน้ามากขึ้น พ�
��้อมๆ กับมีรายงานด้านการแพทย์ยืนยันรับรองมากขึ้น ทำให้มนุษย์เราในปัจจุบัน มีโอกาสที่จะชะลอความชรา และทำให้เราฟื้นคืนความเยาว์วัยได้อีกครั้ง ทั้งจากสาเหตุภายนอกและจากสาเหตุภายใน ซึ่งศาสตร์และศิลป์จำนวนมากนี้ คือหนทางในการที่จะช่วยให้อนาคตคนเราอาจมีอายุยืนยาวได้ถึงเกิน 100 ปี ได้ไม่ยาก และปราศโรคภัย มีสุขอนามัยที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ
  • จากที่เราทราบกันว่าก็คือ เมื่อเราอายุมากขึ้น การที่จะทำให้เราแก่ชรา สาเหตุหลักๆ ก็เพราะระดับฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายได้ลดลง ถ้าเราสามารถเรียนรู้หน้าที่หลักของฮอร์โมนอะไรบ้างที่สำคัญๆ ต่อความชราของเรา และเราป้องกันและแก้ไข หาทางเพิ่มระดับฮอร์โมนให้กลับมาปกติ เหมือนกับวัยหนุ่นสาว เรื่องชะลอวัย การจะคงความเป็นหนุ่มสาวดูจะเป็นเรื่องง่ายไปเสียแล้ว
  • DHEA ( Dehydroepiandrosterone) จัดเป็นฮอร์โมนเพศชนิดหนึ่ง ที่ผลิตจากต่อมหมวกไต ( Adrenal glands บริเวณที่เรียกว่า Zona reticularis ) พบมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์ จัดเป็น Hormone ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นต้นกำเนิดของฮอร์โมนเพศที่สำคัญ อันได้แก่ Testosterone(ฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญ),Estrogen(ฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญ) และ Androstenidione
  • DHEA จัดเป็นกลุ่มฮอร์โมนชะลอความชรา (Anti-aging hormone) เช่นเดียวกับฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ,Testosterone,Estrogen และเมลาโตนิน (Melationin) โดย DHEA มีหน้าที่สำคัญๆ ดังนี้ 
    1. ควบคุมการผลิตฮอร์โมน 18 ตัวในร่างกาย อย่างเป็นระบบ ที่สำคัญเป็นต้นตอของฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนเพศหญิง 
    2. ลดการสะสมของไขมัน จากผลการศึกษาของนักวิจัยในหนูทดลองพบว่า DHEA-S ลดการสะสมของไขมันโดยไม่ทำให้น้ำหนักตัวลดลง 
    3. เพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยการกระตุ้นการผลิตและการทำงานของเม็ดเลือดขาว 
    4. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ และมะเร็งผิวหนัง 
    5. เพิ่มการทำงานของสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น ชะลออาการของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ 
    6. ลดอาการวัยทองในสุภาพสตรี ช่วยในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดโคเลสเตอรอล และลดอาการซึมเศร้า 
    7. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากมีหลักฐานว่าช่วยลดระดับฮอร์โมน cortisol ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและเป็นสาหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ 
    8. ช่วยทำให้เส้นผมและขนเจริญเติบโต โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ หัวเหน่า (pubic hairs) 
    9. ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลดริ้วรอย เสริมสร้างคอลลาเจน 
    10. ช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
  • ฮอร์โมน DHEA ปกติร่างกายจะสร้าง ตั้งแต่อยู่ในครรภ์และจะมีมากที่สุดเมื่ออายุประมาณ 25 ปี หลังจากนั้นจะลดลงเรื่อยๆ พบว่า เมื่ออายุ 65 ปีจะมีปริมาณเหลือเพียง 20% ของคนหนุ่มสาว (อายุ 20 ปี ) นอกจากนี้ สาเหตุบางอย่าง เช่น ความเครียด การสูบบุหรี่ ก็ทำให้ระดับฮอร์โมน DHEA ลดลงได้เช่นกัน โดยพบว่า เมื่อใดที่ร่างกายมีภาวะพร่องฮอร์โมน DHEA ( DHEA Deficiency) จะพบมีอาการดังต่อไปนี้ 
    1. อาจจะมีอาการผมร่วงทั่วหนังศีรษะ เส้นผมบางลง เส้นผมแห้งกรอบ 
    2. ขนรักแร้ ขนที่หัวหน่าว ลดลงชัดเจน 
    3. อ้วนง่าย มีไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะที่พุง 
    4. ความต้องการทางเพศลดลง 
    5. เหนื่อยเพลียง่าย (Fatique) หงุดหงิด ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย 
    6. ตาแห้ง ผิวหนังแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
  • ปัจจุบัน ประเทศไทยเราสามารถจะตรวจหาระดับฮอร์โมน DHEA ได้ในกระแสเลือด โดยการตรวจต้องส่งห้องแลบที่ทำการให้บริการด้าน Anti-Aging โดยเฉพาะ เพราะตามรพ.ทั่วๆ ไป อาจจะยังไม่สามารถให้บริการได้ โดยเมื่อตรวจพบว่า ร่างกายเรามีระดับฮอร์โมน DHEA ลดลง เราจะได้ป้องกันอาการต่างๆ และหาทางเพิ่มระดับฮอร์โมนนี้ให้สูงขึ้น หรือเข้าสู่ภาวะปกติได้
  • แนวทางการเพิ่มระดับ ฮอรโมน DHEA 
    1. อาหาร : พบว่าอาหารจำพวกปลา ไข่ ผัก ผลไม้ สัตว์ปีก ถั่ว หรือธัญญพืช ต่างๆ ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนนี้ให้สูงขึ้นได้ 
    2.การให้ฮอร์โมนทดแทน (DHEA Supplements) : พบว่า DHEA จัดเป็นฮอร์โมนตัวเดียวที่ FDA ของอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มอาหารเสริม เพราะมีความปลอดภัยสูง จะพบว่ามีวางขายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าอาหารเสริมโดยทั่วไป DHEA-S เป็นที่นิยมและขายดีมากในต่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกาสามารถหาชื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ขนาดที่รับประทาน 25 มก.ต่อวัน (สำหรับผู้หญิง) และ 50 มก(.สำหรับผู้ชาย ) ซึ่งพบว่าถ้ารับประทานในขนาดนี้ จะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่บางคน อาจจะมีผิวมัน สิว หรือขนดกมากขึ้น เนื่องจาก อาจจะมีผลไปทำให้ระดับ Testosterone สูงขึ้นได้ สอบถามรายละเอียดหรือสั่งซื้อได้ที่นี่ CLINICNEO โทร..02-6532211-2 
    เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ 
    ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด ................23 August,2010

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=10&sdata=&col_id=365

อัพเดทล่าสุด