การฉีดเสริมคาง ( Chin Augmentation)


949 ผู้ชม


  • การที่คนเรา จะมีโครงหน้าที่สวยงาม ได้สัดส่วน จะต้องมีความสมดุลกันตั้งแต่หน้าผาก จมูกและคางโดยต้องมีสัดส่วนที่ใก
ล้เคียงกัน ซึ่งแพทย์ด้านความงาม(Aesthetic or Beauty Medicine) เมื่อได้ตรวจสภาพโครงหน้าคนไข้ จะทำการแบ่งพื้นที่บนโครงหน้าอย่างง่ายๆ เป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือจากหน้าผาก ถึงกึ่งกลางตา เป็นส่วนที่ 1 จากกึ่งกลางดวงตาถึงขอบปีกจมูก เป็นส่วนที่ 2 และจากขอบปีกจมูกถึงคาง เป็นส่วนที่ 3 ซึ่งทั้งสามส่วนนี้จะต้องมีความยาวใกล้เคียงกัน หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งที่น้อยเกินไปจะทำให้ขาดความสมดุล
  • ในโครงหน้าของคนเอเซีย มักจะพบว่าส่วนที่ 3 คือ จากขอบปีกจมูกถึงคาง มักจะสั้นกว่าส่วนอื่นๆ และมักจะมีใบหน้าที่กว้าง ไม่เรียวยาวเหมือนคนฝั่งตะวันตก จึงได้มีการปรับรูปหน้าให้เรียวด้วยการฉีดสารโบทอกซ์ ดังบทความที่เขียนไว้แล้วที่นี่https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=9&col_id=264 หรืออาจจะทำการเสริมคางให้ยาวขึ้น เพื่อให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้ แพทย์จะทำการเสริมคางให้ยาวขึ้นจะต้องทำการผ่าตัดเสริมแท่งซิลิโคน หรือฉีดเสริมด้วยคอลลาเจน และอาจจะมีบางรายแอบไปฉีดสารที่อันตราย (กับบุคคลที่มิใช่แพทย์) เช่น ซิลิโคนเหลว เสริมคางให้ยาวขึ้น ซึ่งทำให้เกิดผลเสียภายหลังมากมาย มีการไหลคล้อย แข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
  • แต่ในปัจจุบัน วงการความงามได้มีการพัฒนามากขึ้น อย่างรวดเร็ว ได้มีการผลิตสาร เติมเต็มเข้าสู่ผิวหนัง ที่เรียกว่า filler ออกมาสู่ท้องตลาด โดยเฉพาะสาร hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย) ของไทยและอเมริกา ว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ไม่แพ้ ไม่ไหลย้อยไปที่ๆ ไม่ต้องการ และดูเป็นธรรมชาติ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=9&col_id=310
  • ดังนั้นแพทย์ด้านความงาม จึงได้นำสารชนิดนี้ มาฉีดเสริมคาง แทนคอลลาเจนแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจจะมีโอกาสแพ้ได้ เพราะสกัดมาจากสัตว์ และมีอายุสั้น เพียง 3-4 เดือนก็สลายไป แต่สารกลุ่ม HA ส่วนใหญ่จะสกัดจากเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่แพ้ และมีอายุนานกว่าคอลลาเจน จึงนำมาช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีคางเล็ก ใหญ่ ที่ไม่ได้สัดส่วน คางบุ๋ม คางเป็นเหลี่ยม หรือคางถดถอยไปด้านหลังมากเกินไป ให้กลับมาสวยงามได้ เพราะรูปทรง คาง เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของความงามบนใบหน้าอย่างหนึ่ง การฉีดเสริมคางจึงเป็นการปรับ เส้นโค้งของโครงหน้าส่วนล่างให้เหมาะสมลงตัว เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าโดยรวม
  • ขั้นตอนการฉีดเสริมคาง สารที่นิยมใช้ฉีดเสริมคาง ที่ปลอดภัย ปัจจุบัน ก็คือ สาร hyaluronic acid (HA) ณ ปัจจุบันที่นิยมนำมาฉีดคาง และสารได้ผ่าน อย. แล้ว ก็คือ สาร Perlane ซึ่งจะมีอายุได้นาน 10-12 เดือน เนื่องจากว่าผู้เขียนไม่แนะนำให้ฉีดสาร HA ที่อายุนานกว่านี้ เพราะรูปหน้าและโครงหน้าของคนเราเปลี่ยนแปลงทุกปี การฉีดเสริมจึงควรจะปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า ณ ช่วงเวลานั้นๆ จึงจะออกมาดูดี และเป็นธรรมชาติ โดยจะมีขั้นตอนการฉีดเสริมคางดังนี้ 
    1. แพทย์จะตรวจลักษณะรูปคางที่มีปัญหา และหาแนวทางหรือเทคนิคในการฉีดเสริมคางให้เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ 
    2. ทายาชาบริเวณที่จะฉีด ประมาณ 30-45 นาที 
    3. การฉีดเสริมคางด้วยสาร HA นี้ ตำแหน่งและทิศทางในการฉีด ปริมาณที่ใช้ฉีด จะแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับรูปแบบคางที่ได้พิจารณาแล้ว ค่าใช้จ่ายจึงอยู่ประมาณ 9,000-11,000 บาท
    4. ใช้เวลาในทำทั้งสิ้นประมาณ 45-60 นาที
  • ขั้นตอนการปฏิบัติหลังการฉีดเสริมคาง 
    1. หลีกเลี่ยงการกระทบ กระแทกบริเวณคาง ในช่วง 1 สัปดาห์แรก หลังการผ่าตัด เพราะอาจจะมีอาการบวม อักเสบ หลังฉีด เหมือนกับการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อทั่วๆ ไป 
    2. เลี่ยงการเข้าอบซาวน่า ดื่มอัลกอฮอล์ ในสัปดาห์แรกหลังฉีด เพราะอาจจะทำให้อักเสบ เป็นรอยช้ำได้ง่าย เพราะเลือดจะไหลเวียนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและอัลกอฮอล์ 
    เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ 
    ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด....................................... 8 January,2010

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=&col_id=354

อัพเดทล่าสุด