| - เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่น ตีนกา หน้าหย่อนคล้อย ย่อมมาเยือนทุกท่าน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะดูแลป้องกัน
|
อย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม ทำให้แวดวงความงามได้พยายามหาหนทางที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ชะลอวัย หรือย้อนวัยให้กลับมาดูเยาววัย์ขึ้น ด้วยกรรมวิธีต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำศัลยกรรมความงาม เลเซอร์ หรือการทำทรีทเม้นต์สารพัดสารพันที่พัฒนาออกมาให้บริการ อย่างไม่หยุดยั้ง - Thermage-Mini (Athron C ) คืออะไร?
- Thermage-Mini(Athron C ) เป็นนวัตกรรมในการช่วยรักษาริ้วรอย เหี่ยวย่น ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนี้ยังปรับรูปหน้าให้เรียว ยกร่องแก้ม ร่วงตาให้ตื้นขึ้น โดยใช้เทคนิคการรักษาด้วย คลื่นความร้อนสูง โดยมี ช่วงความถี่วิทยุแบบ monopolar RF ที่ลงได้ลึกกว่า เครื่อง RF ทั่วๆ ไป โดย ความร้อนที่เกิดขึ้น จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่คลายตัวและยืดออกไปตามอายุนั้นกระชับตัวขึ้น ความร้อนยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวของคุณหนาขึ้นและเรียบเนียนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป - Thermage-Mini (Athron C ) ทำงานอย่างไร ?
Thermage-Mini (Athron C ) มีหลักการทำงานเหมือนกับ เครื่องThermage เดิม( ที่มีราคาแพงหลายหมื่น ถึงแสนบาทต่อครั้งที่ทำ ) โดยจะทำงานโดยการส่งผ่านความร้อนลงไป ที่ผิวหนังชั้นลึก (Dermis) ทำให้เกิดการหดตัวของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง 2 มิติ คือการหดตัว จากทางด้านข้างเข้าหากันและการหดตัวจากด้านบนกับด้านล่างเข้าหากัน ทำให้ผิวกระชับตึง ใบหน้าเล็กลง ลดการหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วร้อย และที่สำคัญราคาถูกกว่ามาก เพียง 5,000 บาทต่อครั้ง ขั้นตอนก็สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องพักฟื้นหลังการทำ ซึ่งต่างจากเลเซอร์อื่นๆ วิธีการนี้สามารถทำได้ในทุกสภาพผิว ทุกสีผิว FDA ของประเทศสหรัฐอเมริกา ฯ และประเทศไทย ได้รับรองผลว่าได้ผลในการยกกระชับจริง และอนุมัติให้ใช้ได้มาแต่ปลายปี 2003 ปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ ดูตัวอย่างวีดีโอการทำงานของเครื่อง Thermage ได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=d_wZYAfUCvY - ใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะเห็นผล?
- Thermage-Mini (Athron C ) ได้พัฒนาคุณภาพได้ใกล้เคียงกับThermage มากที่สุด เมื่อเทียบกับเครื่องมือยกกระชับยี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด และได้พัฒนามาเป็นรุ่นล่าสุดนี้ จนสามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจน หลังทำเสร็จ และจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนและดีขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นผลสูงสุดในเดือนที่ 6 การทำการรักษาด้วย Athron C เพียงครั้งเดียว ก็จะเห็นความแตกต่างว่าผิวหน้าดีขึ้นในทันทีหลังการทำ ผิวของคุณจะตึงขึ้น เรียบขึ้น ประมาณ 30% และเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะสังเกตเห็นว่า ผิวจะเรียบตึงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อทำต่อเนื่องประมาณ 5 ครั้ง ห่างกันทุก 1-2 อาทิตย์ จะพบว่าผลการรักษาจะอยู่ได้นานมากกว่า 3-6 เดือน และอาจทำซ้ำได้เป็นระยะๆ การทำแต่ละครั้งใช้เวลา 20- 30 นาที - ขั้นตอนการทำการรักษาด้วย และความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร
- 1. ล้างหน้าให้สะอาด แล้วทำความสะอาดผิวด้วยแอลกอฮอลล์ - 2. ทาเจลบนผิวแล้ววางหัว Tip บนผิว จากนั้นจึงปล่อยพลังงาน (ขณะยิงพลังงานจะรู้สึกเจ็บร้อนในผิวแต่จะมีความเย็นที่ tip ปล่อยออกมาด้วยพร้อมกัน) - 3. การยิงจะทำทีละจุดตามบริเวณที่ต้องการ โดยจะเรียงเป็นแถวๆ ละ 4 รอบ แต่ละรอบความร้อนจะค่อยๆ สะสมเข้าสู่ผิวหน้าลงลึกไปเรื่อยๆ ดังนั้นครั้งหลังๆ อาจจะรู้สึก เจ็บจี๊ดๆ บ้าง แต่ก็พอทนได้ จากนั้นอาจจะมีการกลับมายิงซ้ำในบางบริเวณที่ต้องการเน้นการรักษาเป็นพิเศษ - 4. เสร็จแล้วทำความสะอาดผิว อาจพบว่ามีอาการบวมแดงเล็กน้อยบางบริเวณ เช่น หน้าผาก ขอบคาง - Thermage-Mini (Athron C ) แตกต่างจาก Ulthera อย่างไร ?
- Thermage-Mini (Athron C ) แตกต่างจาก Ulthera ตรงที่ทำงานเพื่อยกกระชับผิวให้เต่งตึง คนละชั้นกัน โดย Ulthera จะทำงานที่ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่ปกคลุมเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มีความสำคัญในการยึดผิวหนังเข้าไว้กับกระดูกเป็นเหมือนชั้นกาวสองหน้าที่คอย เชื่อมผิวกับโครงร่างใบหน้าเข้าไว้ด้วยกัน เปรียบเหมือนโครงเหล็กมุงหลังคา ส่วน Thermage-Mini (Athron C ) จะทำงานในชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งอยู่เหนือชั้น SMAS ขึ้นมา หรือเปรียบเสมือนกระเบื้องมุงหลังคา ดังนั้นถ้าต้องการจะยกกระชับผิวหน้า ให้เต่งตึง อ่อนเยาว์ และได้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัดดึงหน้า จึงควรจะแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยจากเป็นระบบหรือครบวงจร ทั้งฟื้นฟูชั้น SMAS ให้แข็งแรง และฟื้นฟูคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ด้วยการทำ Thermage-Mini (Athron C ) - ใครที่เหมาะกับการทำ Thermage-Mini (Athron C )?
- ได้แก่กลุ่มคนไข้ที่อายุยังไม่มากนัก ปัญหาการหย่อนคล้อย ไม่กระชับเพิ่งจะเริ่มต้น และมีปัญหาการหย่อนคล้อยเฉพาะในชั้นหนังแท้ (Dermis) อาจจะใช้ทำการรักษาเสริมการร้อยไหมยกกระชับผิวหน้า การทำเลเซอร์ยกกระชับ หลังการทำ Ulthera โบทอกซ์ลิฟท์หน้า หรือหลังทำเมโสแฟตแล้วแก้มไม่กระชับ - การที่ผู้เขียนได้เลือกใช้เครื่อง Athron C ที่ผลิตในเมืองไทย(บริษัทเดียวกับที่ผลิตเลเซอร์ Fine scan 1550 ที่มาทดแทน Fraxel ได้อย่างไม่มีที่ติ) แทนที่จะใช้ Thermage ซึ่งเป็นเครื่องมือจากอเมริกา เพราะได้เปรียบเทียบผลการรักษาแล้ว พบว่าไม่แตกต่างกันมากนัก ทั้งด้านการเห็นผลและระยะเวลาในการคงทนของผิวหน้า หลังทำการรักษา แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า เพราะการรักษาด้วย Thermage ค่ารักษาเริ่มต้นที่ 25,000-100,000 บาท ขณะที่การรักษาด้วย เครื่อง Athron C ค่าใช้จ่ายในการทำทั่วหน้าเพียง 5,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการรับการรักษาด้วย Thermage-Mini (Athron C ) โทร..02-653-2211-12
เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=9&sdata=&col_id=385