Cool Sculpting (Zeltiq) : ลดพุงด้วยความเย็น ครั้งเดียว เห็นผล ไม่เจ็บ!


1,743 ผู้ชม


  • ปัญหาอ้วน ลงพุง ไขมันส่วนเกิน นอกจากจะเป็นปัญหาด้านความงามของคนเรา แล้วยังพบว่า ความอ้วน ยังอาจจะทำให้เสี่ยงต่อก��
�รเกิดโรคต่างๆ ภายหลังได้ การสะสมของไขมัน ในจุดที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แก้ม คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก พุง ฯลฯ ย่อมทำให้ขาดความมั่นใจ ในการที่จะโชว์สรีระต่อหน้าคนอื่นๆ
  • ปัจจุบัน การกำจัดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการ ในวงการด้านความงาม ได้จัดแบ่งเป็นสองประเภทดังนี้ 
    1. Invasive Lipolysis : ได้แต่การกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยการใช้เทคนิคการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ฉีดหรือแทงเข้าไปสลายไขมัน ซึ่งแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้ 
    1.1 Liposuction : ในอดีตถ้าพูดถึงวิธีการกำจัดไขมันออกจากร่างกายที่ได้ผลดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นการดูดไขมัน Liposuction ด้วย Vacuum แต่แม้จะเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด แต่ก็มีผลลัพธ์หลายอย่างที่ทำให้คนจำนวนมากยังขยาดไม่อยากทำ อันแรก ก็คือเจ็บ มีแผลใหญ่ต้องเปิดผิวหนัง หลังทำต้องพักฟื้น ต้องใช้ยาชาหรือวางยาสลบ และนอกจากนั้น ทำเสร็จแล้วก็ยังทิ้งริ้วรอยไขมันเป็นคลื่นๆไว้เต็มไปหมด ดูไม่สวยงาม จะใส่บิกีนี่โชว์หุ่นก็ยังไม่ได้ แล้วก็ยังเสี่ยงต่ออันตราย หรือผลข้างเคียงหลังการผ่าตัด ที่มีข่าวให้ปรากฏกันบ่อยๆ 
    1.2 Laser Lipolysis : ต่อมาในช่วงไม่กี่ปีนี้ (ประมาณ 5 ปี) ก็ได้มีการพัฒนาเลเซอร์สำหรับนำมาสลายไขมัน ซึ่งมีหลากหลายช่วงคลื่น เช่น Nd;YAG 1064 nm,1320 mn Diode Laser 924 nm,940 nm หลักการ ก็โดยสอดท่อเข้าไปที่ผิวหนัง ปลายท่อจะปล่อยแสงเลเซอร์ยิงใส่เซลล์ไขมันที่ต้องการสลาย โดนผ่านสายนำเลเซอร์เส้นเล็กๆประมาณ 1 มิลลิเมตร เพื่อให้เซลล์ไขมันที่ต้องการรักษา ถูกสลายจนกลายเป็นน้ำมันทันที ไขมันที่สลายแล้วส่วนหนึ่งจะไหลออกมาทางรูเข็มที่เป็นทางเข้าของสายเลเซอร์ ส่วนที่เหลือจะค่อยๆถูกขับออกจากร่างกายทางระบบน้ำเหลือง เป็นวิธีที่ได้ผลรองจากการทำ Liposuction แต่ก็มีผลลัพธ์หลายอย่างที่ทำให้คนจำนวนมากยังขยาดไม่อยากทำซ้ำเช่นกัน เพราะหลังทำก็เจ็บปวด ต้องพันสายรัดแน่น มีน้ำเหลืองซึมตามรูเข็ม เกิดรอยช้ำระบม อาจจะเกิดรอยไหม้จากเลเซอร์ และยังทำให้ไขมันที่หลงเหลือมีลักษณะเป็นก้อนๆ ไม่สม่ำเสมอ 
    1.3 VASER LipoSelection: เป็นเทคโนโลยีในการสลายเฉพาะเซลล์ไขมัน(LipoSelection) โดยแพทย์จะสอดท่อเข้าไปผิวหนังตรงไขมันเฉพาะจุด แล้วจะปล่อยพลังงานคลื่นเสียง(Ultrasound) ในระดับความถี่ที่จะไปทำลายเฉพาะเจาะจงแต่กับเซลล์ไขมันเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ก้อนไขมันก็จะกลายเป็นของเหลว ทำให้แพทย์สามารถดูดออกมาจากร่างกายได้โดยง่ายโดยทำให้เนื้อเยื่อข้างเคียงโดยเฉพาะเส้นเลือดและเซลล์ประสาทบริเวณรอบๆก้อนไขมัน เสียหายหรือถ้าจะถูกกระทบกระเทือนบ้างก็น้อยกว่า Liposuction , Laser Lipolysis ทำให้ช่วยลดการเกิดรอยบวมช้ำหลังการผ่าตัด และผลการรักษาได้ผลดีกว่า คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการกำจัดไขมันทั่วไป แต่หลังทำก็ยังเจ็บปวด ต้องพันสายรัด และยังทำให้ไขมันที่หลงเหลือมีลักษณะเป็นก้อนๆ ไม่สม่ำเสมอ เช่นกัน 
    1.4 Medical Lipolysis or Mesofat : วิธีการกำจัดไขมันส่วนเกิน วิธีหนึ่ง ด้วยการที่แพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยา ซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน โดยใช้กลุ่มยาหลายๆ ตัว เช่น Phosphatidylcholine,Deoxycholate,L-carnitine, Vitamin B complex ,Amino acids,Minerals ฯลฯ โดยปริมาณที่ฉีด ก็แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ เหมาะกับการทำในบริเวณที่เล็กๆ จะได้ผลดี เช่น แก้ม คาง ต้นแขน โดยไขมันจะค่อยๆ สลาย แม้จะมีผลข้างเคียงน้อยสุด แต่ก็ได้ผลช้าและต้องทำหลายครั้ง กรณีที่ต้องการกำจัดไขมันในบริเวณกว้างๆ เช่น พุง ต้นขา อาจจะต้องแทงเข็มหลายครั้งด้วยยาปริมาณมาก ทำให้คนไข้บางคน ยอมแพ้ หรือไม่มีเวลา ที่จะมาได้บ่อยๆ วิธีนี้ผมเขียนบทความได้แล้วที่นี่https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=5&col_id=355 
    2. Non-Invasive Lipolysis : คือ การกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยการใช้เทคนิคการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ สลายไขมัน จากภายนอกร่างกาย โดยไม่มีการแทงเข้าไปในผิวหนังให้เกิดความเจ็บปวด ปัจจุบัน แบ่งได้ เป็น 2 กลุ่มดังนี้ 
    2.1 Ultrasound Lipolysis : เป็นการสลายไขมันด้วยเครื่อง Ultrasound โดยใช้พลังงานความร้อน แต่วิธีนี้ FDA ของอเมริกา และอย.เมืองไทย ไม่ได้รับรองผลว่าได้ผลจริง จึงจะไม่ขอกล่าวต่อไป 
    2.2 Crypolysis or Cool Sculpting : ในปี ค.ศ. 2005 ได้มีการค้นพบว่าการใช้ความเย็นที่ติดลบในระดับหนึ่ง (ประมาณ -5 ถึง -7 องศาเซลเซียส )ในลักษณะที่เป็นคลื่นเฉพาะเจาะจงที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้มีผลต่อการไหล เวียนของเลือดที่มีผลต่อเซลล์ไขมันเท่านั้น ตามระยะเวลาที่กำหนด (ประมาณ 1 ชั่วโมง) ซึ่งกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ก็จะส่งคำสั่งให้เซลล์ไขมันทำลายตัวเอง โดยไม่มีผลต่อเซลล์ข้างเคียง หรือเซลล์ผิวหนังอื่นๆแต่อย่างใด เมื่อเซลล์ไขมันเข้าสู่จุดเยือกแข็งและ สั่งการให้ทำลายตัวเอง (Apoptosis) แล้ว เซลล์ไขมันที่ถูกคลื่นความเย็นนี้ก็จะค่อยๆ ทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ และร่างกายก็จะกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วเหล่านี้ออกไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ ได้ผลเช่นเดียวกับการดูดไขมัน หรือการสลายไขมันด้วยเลเซอร์ แต่ไม่เจ็บตัว ไม่มีแผลเปิด ไม่ต้องพักฟื้น ผู้ที่ได้รับการรักษาจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ชั้นไขมันจะหดเล็กลงเรื่อยๆ และจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังรับการรักษา 2-3 เดือน ที่สำคัญไขมันจะไม่กลับมาสะสมได้อีก
  • ด้วยการค้นพบครั้งนี้ ทำให้เกิดงานวิจัยใน Wellman Lab, Harvard University อย่างจริงจังโดยการนำ ของบริษัท Zeltiq Aesthetics ร่วมกับ Wallman Center แห่ง Massechusetts General Hospital ( Harvard Medical School) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Dr.Dieter Manstein และ Dr.R.Rox Anderson (แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงระดับโลก) ได้คิดค้นเครื่อง CoolSculpting เป็นเครื่องมือแรกและเครื่องเดียวในโลก ขณะนี้ที่ได้รับการรับรองผลโดยองค์การอาหารและยา (FDA) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย จัดเป็นเครื่องมือเครื่องเดียว ที่เป็น Non-Invasive Lipolysis ที่ได้ผลจริง (Subcutaneous Fat Reduction) ด้วยการสลายไขมันโดยเทคนิค Cryolipolysis โดยเครื่องมือจะส่ง พลังงานคลื่นความเย็น เข้าสู่ชั้นไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ซึ่งเป็นที่ฮือฮากันในหมู่ดาราฮอลลีวู้ด และโด่งดังอย่างมากในยุโรป และอเมริกา เพียง 1 ชั่วโมง ต่อครั้ง ชั้นไขมันจะยุบตัวลง 1-2 นิ้ว หรือ 20-25% ใน 1-2 เดือน ซึ่งได้ผลพอๆ กับการทำ VASER เพียงแต่ต้องรอเวลานานกว่าเท่านั้น สามารถจะทำซ้ำได้อีก ทุก 2-3 เดือน เพื่อการหวังผลที่พอใจ
  • รายละเอียดของการทำ Crypolysis or Cool Sculpting 
    แพทย์จะวัดขนาดชั้นไขมัน เพื่อเลือกหัวที่จะทำการดูดไขมันด้วยความเย็นจัดที่เหมาะสม วางแผ่นเจลเย็นเพื่อป้องกันความเย็นจะมีผลต่อผิวหนัง จัดเป็นวิธีที่สะดวก สบาย ไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่มีการพักฟื้น ผิวหลังทำไม่ช้ำ ไม่เป็นลอน ผิวเรียบสวย ระหว่างทำก็นั่งพักผ่อนสบายๆ อ่านหนังสือ ดูทีวี เล่นคอมพิเตอร์ ไอแพค บีบี หรือจะจิบชากาแฟไปด้วยก็ได้ โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชั่วโมง ทำเสร็จก็กลับไปทำงานได้ตามปกติ แทบไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าไปกำจัดไขมันมาถ้าเราไม่บอก นับเป็นวิธีที่สะดวกสบายมาก จึงเป็นที่นิยมและฮือฮามาก เคล็ดลับสำคัญของเครื่อง ZELTIQ คือ Real visible results, Proven in histology (เห็นผลจริงชัดเจน , พิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ),Consistent, predictable and minimal time required (ใช้ระยะเวลาสั้น),Biologically selective only effects fat, FDA approved (ปลอดภัยเพราะทำลายเฉพาะชั้นไขมัน –ผ่านการรับรองจากอย.อเมริกา และผ่านอย.เมืองไทยแล้ว ),Non – invasive (ไม่มีบาดแผล, ไม่ต้องพักฟื้น, ไม่ใช่การผ่าตัด)
  • ผู้ที่เหมาะสมต่อการใช้เครื่อง ZELTIQ 
    การใช้เครื่องZELTIQ เพื่อสลายเซลล์ไขมันนั้นเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสม ต้องการลดเฉพาะส่วน เช่น ผู้ที่มีหน้าท้อง พุง หลังคลอดบุตร บั้นเอว(ซึ่งวิธีอื่นๆ ทำได้ยากมาก ไม่ว่าการดูดไขมัน หรือสลายไขมันด้วยเลเซอร์) หรือผู้ที่ต้องการลด สะโพก ต้นขา ปีกหลังใต้วงแขน นมโต(ในผู้ชาย) แต่อย่างไรก็ตามควรออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์เหมาะสมต่อร่างกายควบคู่กันไปด้วยที่สำคัญเซลล์ไขมันที่ถูกขจัดไป แล้วจะไม่กลับมาอีก
  • ข้อห้ามในการทำการสลายไขมันด้วยความเย็น
      การสลายไขมันด้วยความเย็น จัดเป็นเครื่องมือที่ไม่มีการแทงหรือต้องเตรียมตัวอะไรก่อนทำ สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย แม้จะมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรค SLE  ฯลฯ ก็สามารถทำได้ โดยไม่กระทบต่อปัญหาที่มีอยุ่เดิม ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ทำให้โรครุนแรงมากขึ้น เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการลดน้ำหนัก เพื่อลดการปวดเข่า ปวดข้อ 
  • ผลข้างเคียงที่พบได้หลังทำ 
    1. รอยแดงจากความเย็น ซึ่งจะหายภายใน 2-3 วัน 
    2. อาการชาๆ จากความเย็น ซึ่งจะหายภายใน 7-10 วัน 
    3. อาจจะมีอาการคล้ายๆ ตะคริว หรือคันนิดๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะหายภายใน 7-10 วันเช่นกัน 
    นอกนั้นไม่พบผลข้างเคียงใดๆ ที่เป็นอันตราย
  • คลินิกนีโอ ได้นำเข้านวัตกรรมระดับโลกนี้ มาเปิดให้บริการแล้ว ด้วยระยะเวลาเปิดตัวเพียงไม่นาน มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก เพราะจัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการลดสัดส่วน ในรูปแบบใหม่ ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ปลอยภัย และไม่เจ็บ และราคาสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ (ที่อื่นจะอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท ต่อครั้ง) พิเศษจากราคาปกติ 25,000 บาทต่อจุด เหลือเพียง 20,000 บาทต่อจุด หรือคอร์ส 5 จุด จากปกติ 100,000 บาท เหลือ 80,000 บาทต่อ 5 จุด  สอบถามเพิ่มเติมที่ หรือโทรนัดได้ที่ คลินิกนีโอ โทร. 02-6532211-2 ส่วนรายละเอียด อื่นๆ ท่านสามารถติดตามได้จาก ลิ้งค์เหล่านี้ 
    https://www.youtube.com/watch?v=QxaYLClYTbE&feature=related 
    https://www.youtube.com/watch?v=2FN-P0TRC0w&feature=related 
    เรียบเรียงและค้นคว้าโดย นพ.จรัสพล รินทระ...ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 23 April,2012

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=5&sdata=&col_id=373

อัพเดทล่าสุด