| - ปัญหาผิวหน้ามันมีสาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากปัญหาฮอร์โมนเพศ โดยมักพบได้ในชาย มากกว่าหญิง พบในวัยรุ่น จนถึงวัยกลางคนไ��
|
�้ ปัญหาหน้ามันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวอุดตัน และรูขุมขนกว้าง ในภายหลังได้ - แนวทางการดูแลแก้ไขมีดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือก สบู่ล้างหน้า อาจเป็นก้อน หรือ สบู่เหลวก็ได้ เพราะในสบู่ จะมีสารที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งสามารถลดความมันบนใบหน้าได้ ผู้ที่มีผิวมัน สามารถล้างหน้าได้บ่อย 4-5 ครั้งต่อวันได้ ในกรณีที่ไม่สามารถพกพาสบู่ล้างหน้าไปได้ในทุกที่ การล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดบ่อยๆ หรือทุกครั้งที่หน้ามัน ก็เป็นสิ่งที่ดี การใช้เจลล้างหน้า หรือโฟม ควรเลือกเป็นพิเศษสำหรับผิวมัน แต่มักล้างความมันบนใบหน้าได้น้อยกว่าสบู่ล้างหน้า 2.การใช้โลชั่นหรือโทนเนอร์ เพื่อเช็ดหน้าลดความมัน เป็นสิ่งที่แนะนำให้ใช้ ถ้าล้างหน้าด้วยสบู่อย่างเดียวแล้วผิวหน้ายังมันอยู่ 3. การใช้ Oil Conrol Products ซึ่งจะช่วยซับความมัน ควรเลือกที่มีอนุภาคเล็กๆ ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปซับได้ในรูขุมขน ซึ่งต้องมีขนาดที่เล็กมากเป็น Micron 4. ควรเลือกครีมกันแดดที่มีลักษณะเป็นโลชั่น หรือ ครีมที่มี SPF = 15 ก็เพียงพอ เพราะถ้าเลือกครีมกันแดด ที่มี SPF สูงกว่านี้มักจะมีความมันสูง ก่อนใช้ครีมกันแดดยี่ห้อใด ควรลองทาครีมบริเวณท้องแขน เพื่อทดสอบอาการแพ้ หรือ ความมัน ก่อนการตัดสินใจในการซื้อครีมกันแดด 5. หลีกเลี่ยงของมัน ขนมหวาน ไอสครีม และอาหารที่มีแคลอรี่สูง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด 6. ถ้าปฏิบัติข้อ 1-5 แล้วยังไม่ได้ผลดีนัก การทำให้ผิวหน้าแห้งลง ด้วย การรับประทานยา กลุ่ม Retinoids หรือ Isotretinoin เช่น Roaccutane หรือ Acnotin วันละ10-20 มก.ต่อวัน ก็เป็นการช่วยได้มาก เพราะยาในกลุ่มนี้ จะช่วยลดการสร้างไขมันที่ต่อมไขมันบนใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยรักษาปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยแผลเป็นได้ดี แต่ก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ 7. ยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งมักมีส่วนประกอบ ของฮอร์โมนProgesterone เฉพาะชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมน Angrogen ได้ จึงสามารถทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลงได้ แต่การทำงานดังกล่าวอาจรบกวน การมีประจำเดือนในผู้หญิงได้ จึงได้มีการเสริมฮฮร์โมนเพศหญิงคือ Estrogen ร่วมด้วย จึงอยู่ในลักษณะคล้ายยาคุมกำเนิด คือบรรจุเป็นแผง 21 เม็ด ที่นิยมใช้ในคลินิกผิวหนังก็คือ Dian-35 8. การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ทีเรียกว่า การทำ MD ( Microdermabrasion) โดยจะทำให้ไขมันที่เคลือบผิวส่วนบนของผิวหน้าหลุดลอกออก และทำให้ท่อไขมันเล็กลง การผลิตไขมันในต่อมไขมันถูกระบายออกได้มากขึ้น 9. การทำ IPL ปัจจุบัน IPL ได้มีการพัฒนาฟิลเตอร์คลื่นความถี่จำเพาะขึ้นมาเพื่อรักษาสิว (ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวเสี้ยน ) ผิวหน้ามัน และรูขุมขนกว้าง โดยใช้ฟิลเตอร์คลื่นความถี่ 450 nm ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับต่อมไขมัน (Sebaceous glands) ทำให้หลั่งไขมันลดลง จึงช่วยทำให้หน้าแห้ง รูขุมขนกระชับ และป้องกันการเกิดสิวอุดตัน จากขนหรือสิวเสี้ยนได้ มักจะทำทุก 3-4 อาทิตย์ และจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้น และกระแดดที่เป็นไม่มากจางลงได้ด้วย หลังทำสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เรียบเรียงใหม่โดย นพ. จรัสพล รินทระ ................Update ข้อมูลล่าสุด ...8/8/2549 |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=3&sdata=&col_id=16