สิวแกะเกา( Acne excori'ee) และภาวะจิตใจวัยรุ่นที่เป็นสิว


994 ผู้ชม


  • ระยะนี้ พบคนไข้ที่มาพบด้วยปัญหาสิว มีริ้วรอยการแกะเกาอย่างมากบนใบหน้า บางคนแกะเกาสิวจนทำให้ใบหน้ามีแผลเป็นขนาด�
��หญ่ และรอยดำอักเสบเป็นจำนวนมาก
  • ในสหรัฐฯ คนที่เป็นสิวมีประมาณ 20 ล้านคน พูดง่ายๆ เกือบทุกคนเมื่อวัยรุ่นเป็นสิวด้วยกันทั้งนั้น แต่หน้าที่ไร้สิว คือสิ่งสำคัญในการแสดงภาพพจน์ของคนคนนั้น 10% ของผู้เป็นสิว กล่าวว่า ภาวะการเป็นสิวเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตวัยรุ่น ทำให้การเรียนตกต่ำ เข้าสังคมไม่ใคร่ได้ การพิจารณาตัวเองว่าต่ำต้อย เมื่อเป็นนานๆ ก็มีการเก็บกด เศร้าเกิดความกังวลใจในการเข้าสังคม และมีสิทธิ์ไม่ได้งานหลังจากการสอบสัมภาษณ์อย่างไรก็แล้วแต่ มีเพียง 7% เท่านั้น ที่ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษา
  • สิวเป็นเรื่องธรรมดา และ พบประมาณ 5% ของโรคผิวหนังทั้งหมด ที่มาปรึกษาแพทย์ผิวหนัง แต่ในคลินิกสิว ฝ้า เรื่องความงาม พบว่า 70% ของผู้ที่มารักษา เป็นสิว สิว เป็นโรคของวัยรุ่นโดยเฉพาะ ใครไม่เป็นสิวถือว่าเป็นโชคดี แต่แพทย์พบว่า ถ้าใครไม่เป็นสิวในวัยรุ่นอาจเป็นในวัยผู้ใหญ่ได้เช่นกัน
  • ต้องทราบว่าคนทุกคน 100 % ต้องเคยเป็นสิวในชั่วชีวิตของคนคนนั้น สิวเป็นทั้งชายและหญิง แต่ชายมักเป็นรุนแรงมากกว่า สิวขึ้นตามใบหน้า คอ หน้าอก หลัง นานๆ ขึ้นตามแขน สิวเป็นกรรมพันธุ์ พ่อแม่เป็นสิว ลูกมักเป็นรุนแรงมากกว่า บางคนบอกว่า พ่อแม่ไม่เป็น ต้องไปดูคุณทวดอาจเป็น เมื่อคนในครอบครัวเป็นสิว ทำให้เศรษฐกิจครอบครัวครัวกระทบกระเทือน เพราะต้องซื้อยาเครื่องสำอางค่ารักษาของแพทย์ และการรักษาต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ
  • มีผลงานสำรวจความเห็นของ ปัญหาวัยรุ่น ของชาวอเมริกันพบว่า ในสถานการณ์บางกรณีควรจะทำอย่างไร ให้เลือกเอาว่า ขอมีหน้าสวยไม่มีสิว กับการเลิกนัดกับดาราสาว ซิ้นดี้ โครฟอร์ด หรือ ดาราชาย แบรทพิทท์ 1 ใน 3 คนตอบว่า ขอหน้าไร้สิว ดาราไม่สนใจ คงคิดแล้วขืนไปก็ไม่ได้อะไร เพราะดาราไม่เอาด้วย ให้เลือกเอาว่า มีหน้าสวยไร้สิว กับเงินรางวัล 40,000 บาท หนึ่งใน 5 คนตอบว่าไม่รับเงิน ต้องคำนวณให้ดีว่า ค่ารักษาสิวจะถึง 40,000 บาทหรือไม่ ถ้าคุณเป็นสิวรุนแรงปานกลาง ค่ารักษาครั้งละ 500-800 บาท x 12 ครั้ง = 960,000 บาท (เมืองไทย) แต่ถ้ารักษาที่สหรัฐฯ บวกค่าหมอผิวหนัง 50-80 เหรียญ รวมอีก 38,000 ครือๆ กัน วัยรุ่นคิดอย่างไร เรื่องเป็นสิว (บทสำรวจจากวัยรุ่นไทย ในแมกกาซีนเล่มหนึ่ง)
  • สิวแกะเกา เป็นปัญหาของวัยรุ่นที่มีความกังวล บางคนนั่งเฝ้าหน้ากระจก เพื่อตรวจตราผิวหน้าของตนเองว่าเกลี้ยงเกลาหรือไม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งพบสิวหัวดำแค่ 1-2 เม็ด ก็จะเฝ้าบีบเคล้นด้วยเล็บมือแหลมๆ จนกว่าสิวจะออก ทำให้เกิดรอยแผลถลอก แผลอักเสบ และรอยแผลเป็นทั่วหน้า
  • เชื่อกันว่าผู้ที่มีปัญหาสิวแกะเกา ส่วนใหญ่จะมีความผิดปกติทางจิตใจร่วมด้วย เช่น เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ ( obsessional trait) หรือมีสภาพจิตใจซึมเศร้า ( depreesion) ทั้งนี้เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่มีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายอยู่แล้ว
  • ดังนั้น ผู้ปกครองของวัยรุ่นที่เกิดสิว ควรสอบถาม และให้ความสำคัญต่อ สภาพจิตใจของบุตรหลาน ที่เป็นสิวว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีแนวทางสังเกตได้ ดังนี้ 
        1. กลัวหรือไม่ กับการเป็นแผลเป็นบนใบหน้าก่อนและรักษา เช่น การถามว่ากังวลใจไหม เวลาไปนั่งในร้านอาหาร หรือที่สาธารณะ สุขสบายดี ไม่กลุ้มใจ ความรู้สึกเมื่อมองภาพถ่ายหรือกระจก อยากให้หน้าตาดีขึ้นหรือความพอใจหลังการรักษา 
        2. ความสนุกร่าเริงเมื่อเวลาพักผ่อนมีมากหรือไม่ หรือมัวแต่กังวลกับผิวหน้า 
        3. การเห็นใครขวางหู ขวางตา พูดจาระคายหูง่ายหรือไม่ 
        4. ความรู้สึกว่าตัวเองมีไม่มีคุณค่าพอจะรเข้าสังคมกับเพื่อน การไปเที่ยว การรับประทานอาหาร การว่ายน้ำในสระ ร่วมกับคนอื่นๆ 
        5. การสมัครเข้าทำงาน ในบางตำแหน่ง เช่น ประชาสัมพันธ์ ดารา อาจมีผลได้ถ้าเกิดสิว จึงทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ 
        6. จากการวิจัยพบว่าคนที่เป็นสิวนานๆ ความกังวลใจเรื่องเหล่านี้มีมากกว่าคนเพิ่งเป็น และผู้หญิงมีความกังวลมากกว่าผู้ชาย 
        7. กรณีที่รุนแรงมาก ความกังวลก็มีมาก วัยรุ่นในอังกฤษ เคยมีการฆ่าตัวตายจากการไปพบแพทย์ แล้วรักษาไม่หาย 
        8. หลังจากการรักษาแล้ว ความกังวลใจในเรื่องเหล่านี้ลดลงไปประมาณ 25% เมื่อใช้ยารักษาสิวปกติ และประมาณ 50% เมื่อใช้ยากลุ่มเรตินอยด์ เช่น Isotretinoin ,Roaccutane
  • จากบทสำรวจจากวัยรุ่นไทย ในแมกกาซีนเล่มหนึ่ง ได้มีการถามกันว่า ' วัยรุ่นคิดอย่างไร เมื่อมีปัญหาสิว' 
        - 40% ของวัยรุ่นคิดว่าคนที่ไม่เป็นสิว เป็นบุคคลน่าสนใจ น่าปรารถนา 
        - 1 ใน 3 ของวัยรุ่นว่า คนเป็นสิว ไม่ดัง ไม่มีใครให้ความสนใจ 
        - 1 ใน 8 ไม่กล้าส่องกระจก 12% คิดว่า เป็นสิ่งทรมานใจที่สำคัญอย่างหนึ่ง 
        - 1 ใน 3 รู้สึกต้องระวัง และวุ่นกับตัวเอง ว่าต้องอย่างนั้น อย่างนี้ แทนที่จะปล่อยวาง 
        - วัยรุ่นชาย 30% และวัยรุ่นหญิง 22% พอยอมรับได้ว่า สิวต้องอยู่กับตัวเองแน่นอน 
        - วัยรุ่นชาย 28% หญิง 20% ขอไม่มีนัดกับคนที่เป็นสิว (อันนี้สำคัญ ยิ่งคนที่ไม่สวยอยู่แล้ว) 
        - วัยรุ่นหญิง 36% ชาย 19% กังวลกับตัวเอง กลัวจะมีสิวบนใบหน้า 
        - วัยรุ่นหญิง 13% ชาย 6% ไม่ชอบตัวเอง เมื่อเป็นสิว( ไม่สวยแล้วยังจะเป็นสิวอีก) 
        - สาววัยรุ่นบางคนโทษมารดาของตัวเองว่า แม่ทำไมไม่แต่งงานกับฝรั่ง เขาจะได้มีหน้าตาดีๆ สวยๆ แทนที่มีตาตี่แบบนี้ 
        - ความรู้เรื่องสิว 4 ใน 5 ไม่มีความรู้หรือไม่ทราบว่าสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร คิดว่าเกิดจากฝุ่นสกปรกของผิวหน้า ทำให้พบว่า 80% ของวัยรุ่นคิดว่า การล้างหน้าบ่อยๆ จะช่วยลดการเป็นสิว แต่ข้อเท็จจริง การล้างหน้าที่พอควรพอเหมาะ ต่างหากที่ลดการเป็นสิว การเลือกใช้ สบู่ โฟม หรือเจลล้างหน้าที่ถูกต้องกับผิวหน้าก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
  • วัยรุ่นส่วนมาก คิดว่าสิวรักษาหายแน่นอนในเวลาไม่นาน และหายขาดได้ ดังนั้นเมื่อพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ถ้าใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน เห็นว่าปัญหาสิวไม่ดีขึ้น ก็คิดว่าแพทย์รักษาไม่ดี หรือเลี้ยงไข้ ซึ่งตามความเป็นจริง สิวเกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนแก่ เพียงแต่จะมีสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นอย่างไร และแก้ไขได้ตรงจุดเพียงใดต่างหาก
  • จากผลการสำรวจปัญหาทางผิวพรรณ ก็มีการโหวตให้ปัญหาสิวและรอยแผลเป็นสิว เป็นปัญหาที่กังวลมากที่สุด ดังนั้นผู้ที่เป็นสิว เกือบทุกคนจะมีความกังวลใจในระดับหนึ่ง ผู้ปกครองและแพทย์ผิวหนัง ควรให้ความมั่นใจ กำลังใจ ที่จะรักษาผู้ที่เป็นสิวให้หาย เพื่อเขาจะได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป 
    เรียบเรียง และค้นคว้าใหม่ โดย นพ. จรัสพล รินทระ ..................14/06/2005

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=3&sdata=&col_id=44

อัพเดทล่าสุด