| - อัลฟัลฟา (Alfalfa) เป็นพืชธรรมชาติที่ได้นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มาตั้งแต่โบราณกาล โดยเฉพาะในประเทศทางกลุ่มอาหรับแล�
|
��ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ทางแพทย์จีนโบราณนิยมใช้อัลฟัลฟาในการรักษาความผิดปกติของทางเดินอาหาร ตั้งแต่การกระตุ้นให้มีความอยากอาหาร ช่วยในระบบการย่อยอาหารให้เป็นปกติ และเพิ่มการหลั่งน้ำนมในสตรีหลังคลอดบุตรและขับปัสสาวะในผู้ที่มีอาการบวมตามร่างกายได้ ลองมาทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันบ้าง - อัลฟัลฟา (Alfalfa) เป็นพืชล้มลุก ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mesicago sativa มีขนาดเล็ก แต่มีรากหยั่งลึกลงในดินยาวถึง 130 ฟุต ทำให้ อัลฟัลฟา (Alfalfa) สามารถดูดซัมเอาแร่ธาตุที่สำญต่างๆ จากพื้นดินในระดับความลึกต่างๆ ไว้ได้อย่างมากมาย แร่ธาตุเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสารประกอบซึ่งจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และร่างกายก็สามารถนำเอาแร่ธาตุจากธรรมชาตนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ซึ่งส่วนที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ ก็คือ ส่วนของใบ
- สรรพคุณที่ค้นพบจากพืช อัลฟัลฟา (Alfalfa)
1. Saponin ซึ่งมีรสขม จะมีฤทธิ์การกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าสารนี้ยังช่วยลดการอุดตันของเกร็ดเลือดในเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ด้วย จึงทำให้ลดอัตราการเกิดความจำเสื่อม และภาวะไขมันในเลือดสูงได้ จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ได้ลดลงด้วย 2. Isoflavone and Flavone ซึ่งเป็นสารสเตอรอล ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอรโมนเอสโตรเจนในเพศหญิง จึงมีประโยชน์สำหรับสตรีที่มีความบกพร่องในเรื่องฮอร์โมน เช่น สตรีวัยหมดประจำเดือน 3. Chlorophyll พบได้ในปริมาณสูง ซึ่งคลอโรฟิลล์นี้จะมีผลในการกำจัดสารพิษและสารแปลกปลอมต่างๆ ในเลือด ทำให้ลดการสะสมของยาหรือสารอันตรายต่างๆ ได้ และยังกระตุ้นให้ร่างการสร้างเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ทำให้ร่างการแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า 4. Beta-carotene ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งมีบทบาทในการเป็น Antioxidants ที่ดี ลดการเสื่อมของเซลล์และอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ได้ 5. Nataural Fluiridw ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ฟันแข็งแรง ลดการทำลายฟันโดยแบคทีเรียต่างๆในช่องปากได้ 6. แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม โปแตสเซียม เหล็ก สังกะสี ซึ่งรายละเอียดประโยชน์ของแร่ธาตุเหล่านี้ได้อธิบายได้ทราบแล้วในบทความก่อนๆ 7. วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ บี1 บี6 ซี อี และเค ในปริมาณสูง ซึ่งรายละเอียดประโยชน์ของวิตามินเหล่านี้ได้อธิบายได้ทราบแล้วในบทความก่อนๆ เรียบเรียงและค้นคว้าใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ ...ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด...6 August,2005 |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=2&sdata=&col_id=198