| - ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิง ได้มีการคิดค้น พัฒนากันมากว่า 40 ปีแล้ว และปัจจุบันก็ได้มีออกมาวางจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ ��
|
�ต่สำหรับยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย นักวิทยาศาสตร์ได้เคยมีการกล่าวถึงและคิดจะผลิตออกสู่ท้องตลาดมาหลายปีแล้ว แต่ก็เพิ่งจะเริ่มจะมีการคิดค้น ค้นคว้ากันอย่างจริงจังไม่กี่สิบปีนี้เอง - เหตุผลในการที่จะเริ่มคิดค้นยาคุมกำเนิดในผู้ชาย ก็เนื่องจากว่าในปัจจุบัน การคุมกำเนิดของผู้ชาย ก็มีเพียงแค่ การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งค่อนข้างจะได้ผลดีระดับหนึ่ง ป้องกันการติดเชื้อเอดส์ และเป็นที่นิยมในชายที่ไม่ค่อยจะซื่อสัตย์ต่อภรรยาอันเป็นที่รักนัก แต่ถ้าในกรณีที่สามีที่แสนดีมีสตรีเพียงนางเดียว ก็คือ คนที่แต่งงานและเป็นแม่ของลูก คงไม่แฮปปี้นักที่จะต้องใช้ถุงยางคุมกำเนิดกับภรรยาตนเอง เพียงเพื่อ ป้องกันการมีบุตร จึงต้องมีการทำหมันชาย (Vasectomy) แทนซึ่งแบบนี้นอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังเป็นการทำหมันถาวร ซึ่งการแก้ไข เมื่อต้องการ จะมีบุตรอีก จึงเกิดได้ยากและค่าใช้จ่ายสูง จึงเป็นที่มาของความคิดในการคิดค้น ผลิตยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายด้วยประกาลฉะนี้
- กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้ายาเม็ดคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย ในช่วงแรกๆ ได้ทดลองทำให้ฤทธิ์ยา สามารถยับยั้งมิให้สมองหลั่งฮอรโมนเพศชายที่สำหรับสร้างสเปิร์ม หรือฮอรโมนที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังระวัง หรือหวั่นๆ เรื่องสมรรถภาพทางเพศจะถูกรบกวนด้วย ต่อมาได้ค้นคว้าหาตัวยาที่อาศัยกลไกอื่น ที่ไม่ต้องเกี่ยวกับฮอรโมนเพศชาย ซึ่งพบว่าทีมนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งนำโดย Dr. Aarnoud C van der Spoel จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ของอเมริกา ได้ค้นพบว่ามีตัวยาชื่อ NB-DNJ ( N-butyldeoxynojimycin) ซึ่งใช้รักษาโรคผิดปกติทางกรรมพันธุ์ชนิดหนึ่งที่ชื่อ Guacher diseases แล้วพบว่าผู้ชายที่รักษาโรคด้วยยาตัวนี้ เกิดเป็นหมันชั่วคราวโดยไม่กระทบต่อระดับฮอรโมนเพศชาย Testosterone
- กลไกการที่ยา NB-DNJ ในการคุมกำเนิด นักวิจัยพบว่า ยาตัวนี้ไปทำให้สเปริ์มหรือเชื้อผู้ชาย ผิดปกติ ทั้งในแง่รูปร่าง ความสามารถ ในการแหวกว่าย ไปผสมพันธุ์กับไข่ที่ตก เช่น อาจทำให้เกิดคอพับคออ่อน ม้วนหางพันหัวเอาไว้ ซึ่งพบว่าในหนูทดลองที่ได้รับยาตัวนี้ เป็นหมันชั่วคราวทั้งหมด และไม่พบว่า เกิดผลข้างเคียงใดๆ ซึ่งทำให้คณะวิจัยนี้ตื่นเต้นมากทีเดียว เพราะเมื่อหยุดการให้ยา เชื้อสเปริ์มในหนูก็กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ และว่ายไปทำหน้าที่ ตามธรรมชาติเหมือนปกติ
- ขณะเดียวกัน Dr. David Clapham และคณะจาก Howard Hughes Institute and Harvard Medical School ก็ได้สังเคราะห์โปรตีนที่ชื่อว่า Catsper ที่สามารถฆ่าตัวเชื้ออสุจิได้ผลในช่วงที่มีไข่ตกในสตรี ซึ่งทางคณะวิจัยคาดว่า ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าอาจจะเป็นยาคุมอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สตรีอาจจะใช้แทนยาคุมกำเนิดที่เกิดจากฮอรโมนแทน
- ดังนั้นในอนาคตข้างหน้า การป้องกันการตั้งครรภ์โดยการรับประทานยาคุมกำเนิด อาจจะไม่ได้กำหนดบทบาทเฉพาะสตรีอีกต่อไป บทบาทความทัด เทียมกันของสังคม อาจจะทำให้ผู้ชายต้องหันมารับประทานยาคุมกำเนิดแทน เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ได้ผลมากกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่า คงต้อง คอยติดตามต่อไป ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 10 ปีข้างหน้านี้
- ค้นคว้าและเรียบเรียงใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ..............24 January,2003
- เอกสารอ้างอิง : 1 'The effect of NB-DNG Treatment on the structure function of mouse germ cell' จากการตีพิมพ์เมื่อ 17 Jan.2002 ในหัวข้อ Biochemical Science Seminar Series จาก เวบไซต์https://www.calstatela.edu/centers/moreprograms/Abstracts/semabstracts.html
2. A better pill -the making of a male contracerptive จากเวบไซต์https://www2.ppphealthcare.hmg.com/features/men_health.asp?my_class=1952 |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=2&sdata=&col_id=231