| - ในเด็ก หรือ วัยรุ่นบางคน โดยเฉพาะผู้หญิง จะพบว่า บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะที่แก้ม อาจพบรอยด่างๆ เป็นวงๆ รูปไข่ หรือวงกล
|
ม อาจมีสีชมพูจางๆ หรือสีผิวซีดกว่าบริเวณข้างเคียง ทำให้ผิวหน้าเกิดรอยด่างเป็นดวงๆ ทั้งๆ ที่เป็นคนสะอาด คล้ายโรคเกลื้อน ทำให้บางคนเรียกรอยด่างนี้ว่า เกลื้อนแดด( P.alba) - มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อน หรือในภาวะแดดจัด พบมากในคนแถบเอเซีย สาเหตุที่แน่ชัดไม่ทราบ แต่คาดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของผิวหนังอักเสบ โดยเกิดจากเซลล์เมลานิน ไม่สร้างเม็ดสีผิว ในบริเวณดังกล่าว เมื่อเทียบกับบริเวณข้างเคียงที่ตอบสนองต่อแสงแดด เพราะในภาวะปกติ ถ้าโดนแดดบ่อยๆ สีผิวจะคล้ำขึ้น แต่บริเวณรอยด่าง เซลล์ไม่ตอบสนองต่อแสงอุตราไวโอเลต หรือ ตอบสนองไม่เท่ากัน จึงเกิดสีผิวที่แตกต่างกันขึ้น
- บางครั้งต้องแยกจาก การติดเชื้อราเกลื้อน แต่มักแตกต่างคือ เกลื้อนมักมีขอบเขตชัด และถ้าขูดบริเวณรอยโรค ไปส่องกล้องจุลทรรศน์จะพบสายพันธุ์ของเชื้อรา แต่รอยด่าง P.alba จะไม่พบเชื้อราดังกล่าว บางคนจึงเรียกว่า เกลื้อนแดด
- บางครั้ง ต้องแยกจาก ผื่นแพ้ Atopic dermatitis ซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก เพราะฉะนั้นถ้าสงสัย อาจต้องพบแพทย์ผิวหนัง
- แนวทางการรักษา
1. โรคนี้ไม่จำเป็นต้องรักษา มักหายได้เอง เมื่ออายุมากขึ้น 2. อาจใช้ครีมกันแดด ก่อนโดนแดด เพื่อมิให้รอยด่างชัดขึ้น 3. การใช้ครีมทา Steroids บริเวณรอยด่าง จะทำให้การอักเสบของเซลล์ดีขึ้น และหายเป็นปกติ 4. ถ้ามีอาการผิวแห้งแตกร่วมด้วย อาจต้องทาครีมบำรุง เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น เรียบเรียงใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ .....................17/07/2004 |
ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=8&sdata=&col_id=57