งูสวัด( Herpes zoster)


1,123 ผู้ชม


  • งูสวัด เป็นภาวะการติดเชื้อไวรัส ชื่อ Varicella zoster virus ซึ่งมักพบว่าเป็นอาการทางผิวหนัง หลังจากผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคอีสุกอี�
��สมาก่อน แล้วเชื้อไวรัสนี้ ไม่หายขาด และซ่อนตัวอยู่ที่ปมประสาทไขสันหลัง( sensory gangion of nerve fiber) เมื่อภูมิต้านทานร่างกายลดลง เช่น พักผ่อนน้อย เครียด จะเกิดการกำเริบของเชื้อไวรัส แพร่กระจายมาตามบริเวณที่ร่างกายที่เส้นประสาทนั้นควบคุมอยู่ จึงเกิดรอยตุ่มน้ำใส ตามร่างกายและเป็นแนวเดียวกับที่เส้นประสาทนั้นควบคุมอยู่
  • อาการที่เกิดขึ้น แบ่งได้ดังนี้ 
        1. ระยะเตือน ( Prodromal phase) เป็นช่วงที่มีการอักเสบของเส้นประสาท แต่ยังไม่มีตุ่มน้ำ มักมีอาการปวดแสบร้อน ตามเส้นประสาท คล้ายไฟช็อต ปวดแปล๊บๆ เป็นพักๆ หรือ ปวดตลอดเวลา มักเป็นอยู่ 1-3 วัน ก่อนมีตุ่มน้ำ 
        2. ระยะเฉียบพลัน( Acute phase) เกิดตุ่มน้ำใสอยู่กันเป็นกลุ่ม( ดังภาพ) ฐานของตุ่มเป็นสีแดงจากการอักเสบ มักอยู่เป็นกลุ่มๆ เรียงต่อเป็นแนวยาว ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นตุ่มหนอง และจะตกสะเก็ดภายใน 2 สับดาห์ มักไม่เกิดแผลเป็น ยกเว้นจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ตำแหน่งที่พบส่วนใหญ่อยู่บริเวณ ทรวงอก หลัง แต่บริเวณที่อันตรายเมื่อเกิดการติดเชื้องูสวัด คือบริเวณใบหน้า หน้าผาก และหนังศีรษะส่วนบน เพราะอาจลุกลามเข้าตา และเกิดรอยโรค กระจกตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงที อาจทำให้ตาบอดถาวรได้ 
        3. ระยะเรื้อรัง( Chronicphase) แม้รอยตุ่มน้ำจะหายแล้ว ในบางคน อาจยังมีอาการปวดแปล็บๆ คล้ายไฟช็อดเป็นพักๆ ได้ ที่เรียกว่า post herpetic neuralgia ได้เป็นเวลานาน ก่อให้เกิดความรำคาญอย่างยิ่ง แนวทางการรักษา 
        1. มักหายได้เอง ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจต้องให้ยาทา หรือยารับประทานช่วยเสริม 
        2. อาจมีอาการปวดเหมือนตามร่างกาย หรือมีไข้ได้ อาจให้รับประทานยา paracetamol วันละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมงก็ได้ 
        3. ยาทา Acyclovir จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบร้อน ได้บ้าง และช่วยลดความรุนแรง และย่นระยะการหายของโรคให้เร็วขึ้น 
        4. ยาทา สมุนไพรพญายอ หรือเสลดพังพอน ได้มีคณะวิจัยจากกรมการแพทย์ รพ.บางรัก และรพ.ตากสิน ได้นำมาทำการทดลองใช้รักษาคนไข้ที่เป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ จำนวน 77 ราย จนได้ข้อสรุปว่า ครีมที่ผสมด้วยสมุนไพรพญาลอ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเริม และงูสวัด ไม่แตกต่างจากยา Acyclovir และดีกว่าตรงที่ เมื่อทาตรงแผลแล้วจะรู้สึกเย็น ในขณะที่ acyclovir cream ทาแล้วจะรู้สึกแสบ 
        5. ยารับประทาน Acyclovir มักจะต้องใช้ กรณีที่มีอาการมาก ตุ่มน้ำรุนแรง และปวดแสบร้อนมาก ควรรับประทาน ครั้งละ 800 มก.วันละ 5 ครั้ง นาน 5-7 วัน แต่ค่ายาค่อนข้างแพง ( ราคาทุนประมาณ 1,000+ บาท) ดังนั้นถ้าไปพบแพทย์แล้วต้องรับประทานยา คงต้องเตรียมสตางค ์ประมาณ 2 พันบาทนะครับ ค่าต้นทุนยาเค้าแพงอยู่แล้ว 
        6. กรณีที่มีอาการปวดตามเส้นประสาท หลังตุ่มน้ำหายแล้ว ยังไม่มียาตัวใดที่รักษาให้หายขาดได้แน่นอน แต่มีการทดลองใช้ยาหลายกลุ่ม เช่นยาทางจิตเวช คือ Tregital ในความเห็นของผู้เขียน คิดว่าก็ยังไม่ได้ช่วยลดอาการได้มากนัก 
        7. ไม่แนะนำให้แกะ หรือ เกาตุ่มน้ำ เพราะอาจติดเชื้อแทรกซ้อน เกิดอักเสบ เป็นแผลเป็นภายหลังได้
  • งูสวัด ไม่มีโอกาสเกิดรอยลำตัว ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า ถ้าปล่อยให้เป็นรอบตัว แล้วจะถึงแก่ชีวิต จึงไม่เป็นความจริง! 
    เรียบเรียงและค้นคว้าใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ .......................6 July,2005

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=8&sdata=&col_id=75

อัพเดทล่าสุด