สังเกตุ อาการมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งปากมดลูก อาการมะเร็งปากมดลูกระยะที่1


1,478 ผู้ชม


วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของ มะเร็งปากมดลูกทำอย่างไร? ลักษณะอาการเริ่มแรกของมะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้ ปัจจุบันการรักษามะเร็งปากมดลูกได้ผลดีมากขึ้นกว่าในอดีต เนื่องจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในระยะก่อนลุกลามและระยะลุกลามเริ่มแรก โดยในระยะก่อนลุกลามการรักษาได้ผลดีเกือบ100 % ดังนั้นการตรวจค้นหามะเร็งในระยะแรกเริ่มจึงมีความสำคัญมาก โดยสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วควรรับการตรวจภายในทุกคน 
อาการเริ่มแรกของมะเร็งปากมดลูก
ลักษณะอาการเริ่มแรกของมะเร็งปากมดลูก
อาการที่อาจจะพบในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปากมดลูกนั้นพบว่า อาจจะพบในผู้ป่วยโรคอื่นได้เช่นกัน ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้จึงควรที่จะไปปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แน่ชัด
อาการที่อาจจะพบในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกได้แก่
  • การมีเลือดออกทางช่องคลอด (การตกเลือดทางช่องคลอด) 
  • การมีสารคัดหลั่งผิดปกติออกจากช่องคลอด เช่น ตกขาว 
  • อาการปวดท้องน้อย 
  • อาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ 
  • เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ 
  • เลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน 
อาการในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น ได้แก่
  • ขาบวม 
  • ปวดหลังรุนแรง ปวดก้นกบและต้นขา 
  • ปัสสาวะเป็นเลือด 
  • ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด 
หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจคัดกรองหรือการตรวจ วินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกต่อไป เพราะถ้าตรวจพบมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ระยะแรกๆ จะมีโอกาสในการหายจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า

ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงใดใดที่เกิดขึ้นแล้วทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น มะเร็งแต่ละชนิดจะมีปัจจัยเสี่ยงต่างกัน ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลุกได้แก่
    การติดเชื้อ HPV หรือการเป็นหูดที่อวัยวะเพศ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการเกิดมะเร็งปากมดลุก
    การสูบบุหรี่ ของการเกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึนสองเท่า
    การรับประทานยาคุมกำเนิด
    ระบบภูมิคุ้มกันของคุณสุภาพสตรี ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะทำให้เกิดโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ง่ายจึงมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลุกเพิ่มขึ้น
    การติดเชื้อ Chlamydia พบว่าผู้ที่ติดเชื้อ Chlamydia ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น
    อาหาร ผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อยจะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้
    ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดมาเป็นระยะเวลานานจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก
    การมีบุตรหลายคนเชื่อว่าจะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอรฺโมนทำให้ติดเชื้อ HPV ง่าย และขาดการป้องกันการติดเชื้อ
    ผู้ที่มีเศรษฐานะต่ำเนื่องจากเข้าถึงบริการไม่ทั่วถึง
    ผู้ที่ได้ยา Diethylstilbestrol (DES) เพื่อป้องกันแท้ง
การวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูก
จากการทำการตรวจปากมดลูก pap test ทำให้ทราบว่ามีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกแพทย์จะทำการตรวจ  Colposcopy โดยการส่องกล้องแล้วเอา iodine ป้ายบริเวณปากมดลูก เซลล์ปกติจะเป็นสีน้ำตาล ส่วนเซลล์ผิดปกติจะเป็นสีขาวหลังจากนั้นแพทย์จะเอาชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจซึ่งมีวิธีตรวจต่างๆตามแต่แพทย์จะเห็นสมควร

อัพเดทล่าสุด