กลากเกลื้อน เกลื้อน โรคกลากเกลื้อน


2,057 ผู้ชม


กลากเกลื้อน เกลื้อน โรคกลากเกลื้อน

 
  เกลื้อน (Tinea versicolor)  
      จัดว่าเป็นโรคติดเชื้อราของผิวหนังชนิดตื้น การติดเชื้อเกิดขึ้นบริเวณผิวบนของผิวหนัง หรือหนังกำพร้าส่วนบนเท่านั้น เกลื้อนเป็นโรคผิวหนังที่แตกต่างจากโรค กลาก เกิดจากการติดเชื้อ เกลื้อน ที่ผิวหนังชั้นนอกสุด ทำให้ผิวหนังเกิดเป็นด่างดวง บริเวณที่เป็นโรคมักมีสีอ่อนกว่าสีผิวหนังเดิม หรืออาจเป็นสีน้ำตาล...
 

พบได้บ่อยในคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะในผู้ที่ใส่เสื้อผ้าที่อบ มีเหงื่อออกมาก หรือผิวมันในระยะ เริ่มแรกจะปรากฏเป็นดวงเล็กๆ ต่อมาจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นหลายดวงได้ หรืออาจรวมตัวกันขยายเป็นปืนใหญ่ โดยมาก เกลื้อน ไม่ทำให้มีอาการคัน แต่บางครั้งก็อาจมีอาการคันเกิดขึ้นได้

เกลื้อนพบบ่อยในกลุ่มวัยรุ่น ทั้งหนุ่ม และสาว เพราะเป็นวัยที่ต่อมไขมันทำงานมาก ผู้ที่เป็นโรคเกลื้อนมีแนวโน้มทางพันธุกรรมอยู่กล่าวคือจะเป็นคนผิวมัน มีความต้านทานต่อเชื้อ เกลื้อน น้อยกว่าคนทั่วไป ผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานที่อบ ร้อน เหงื่อมาก มีโอกาสเกิดได้ง่ายกว่าปกติ

สาเหตุ

สาเหตุเกิดจากเชื้อยีสต์ที่ชอบไขมันชนิดหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณขุมขนใช้น้ำมันที่หลั่งออกมาจากต่อมไขมันเป็นอาหาร ในสภาวะปกติ ยีสต์จะมีจำนวนน้อยไม่ทำให้เกิดโรค แต่ในบางภาวะที่ผิวหนังมันมากๆและอับชื้นเนื่องจากมีเหงื่อชุ่มอยู่กับเสื้อผ้า ยีสต์จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น และเปลี่ยนรูปร่างเป็นชนิดที่ทำให้เกิดโรคเกลื้อน

เกลื้อนเกิดจากการกำเริบของเชื้อยีสต์ที่มักอาศัยอยู่ที่ผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว เห็นเป็นรอยจุดขาวตามรูขุมขน ชาวบ้านจึงเรียกว่า "เกลื้อนดอกหมาก" แต่ในบางรายก็อาจเห็นเป็นผื่นสีชมพู สีน้ำตาล จนถึงสีดำก็ได้ อาจมีอาการคันหรือไม่คันก็ได้

อาการ

เกิดผื่นขนาดต่างๆ กัน ส่วนใหญ่สีขาว บางครั้งสีออกชมพู หรือน้ำตาล มีสะเก็ดบางๆ ที่ผิว ไม่มีอาการ แต่ลุกลามเร็ว เกลื้อนทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนังได้ในบางคน แต่อาการส่วนใหญ่ที่นำให้ผู้ป่วยมาหาแพทย์ คือ ลักษณะที่มีรอยด่างที่ผิวหนัง ทำให้ดูไม่สวยงาม ดูไม่สะอาด ดวงขาวในโรคเกลื้อนอาจเป็นอยู่นานหลายเดือนผู้ป่วยบางราย ทั้งๆ ที่เชื้อเกลื้อนถูกทำลายด้วยยาแล้ว แต่ดวงขาวยังคงอยู่ทั้งนี้เพราะขณะนี้เป็นโรคเกลื้อน เชื้อราได้สร้างสารเคมีบางชนิดไป กดการทำงานของเซลล์เม็ดสี ดังนั้นดวงขาวในโรคนี้จะกลับมาเป็นผิวสีปกติได้ต่อเมื่อเซลล์เม็ดสี สร้างเม็ดสีกลับมาดังเดิมซึ่งต้องใช้เวลานานเป็นเดือนในผู้ป่วยบางราย

แหล่งที่มา : 108health.com

อัพเดทล่าสุด