วิธีแก้รังแค การขจัดรังแค แก้รังแค
แชมพู ขจัดรังแค หรือ Antidandruff
สารที่เป็น Anti-dandruff นั้น ควรมีคุณสมบัติ 2 อย่าง คือ
- ลดการแบ่งตัวของเซลล์ที่หนังศีรษะ และต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย ได้แก่ ซิงค์ไพริไทออน (zinc pyrithione หรือ ZPT) และ เซลิเนียมซัลไฟต์ (selenium sulfide)
- สามารถลดขุย (keratolytic) ขจัดเซลล์ชั้นที่ตายแล้วให้หลุดออกไป ได้แก่ รีซอร์ซินอล (resorcinol) ซัลเฟอร์ (sulfur) และกรดซาลิซิลิค (salicylic acid)
จากการทดลองพบว่า สารที่ได้รับการยืนยันว่าได้ผลในการ ขจัดรังแค และมีความปลอดภัย ได้แก่
- 1-2% ZPT
- 1% Selenium sulfide
- 1-3% Salicylic acid
- 2-5% Sulfur
เลือกใช้แชมพู ขจัดรังแค อย่างไรดี
- ถ้ามี รังแค เพียงเล็กน้อย การใช้แชมพูธรรมดาๆ ก็สามารถช่วยได้แล้ว ปฏิบัติร่วมกับการดูแลเส้นผม และหนังศีรษะอย่างถูกต้อง เช่น ไม่เกา ไม่ขูดหนังศีรษะแรงเกินไป โดยต้องสระผมให้บ่อยพอควร โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก และมีอาการคัน
- ถ้ามีรังแคค่อนข้างมาก ควรเลือกใช้แชมพูที่ผสมตัวยาที่กล่าวไปแล้ว ที่นิยมใช้กันมาก คือ ZPT และ selenium sulfide เนื่องจากใช้ได้ผลดีกว่า salicylic acid และ sulfur ซึ่งใช้ได้ผลดีพอควร ถ้านำมาผสมกัน
- ZPT มีข้อดีกว่า selenium sulfide ที่มีข้อแทรกซ้อนน้อยกว่า ในแง่ของการเกิดพิษต่อตา หรือเยื่อบุตาอักเสบ
- selenium sulfide ยังมีกลิ่นไม่ค่อยดีนัก ทำให้บางคนไม่ชอบใช้ได้
สระผมอย่างไรให้ถูกวิธี
- การสระผมให้ถูกวิธีนั้น ควรสระผมเบาๆ โดยไม่เกาเพื่อไม่รบกวนหนังศีรษะ ไม่ว่าจะใช้แชมพูใดก็ตาม
- สำหรับ ZPT shampoo นั้นหลังจากขยี้ผมทั่วแล้ว ให้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วค่อยล้างออก
- ถ้าเป็น รังแค เพียงเล็กน้อย คันไม่มาก สามารถใช้แชมพูธรรมดาสระผมทุกวัน เพื่อขจัดอาการคันให้หายไป ห้ามเกาแรงหรือหวีขูดหนังศีรษะเป็นอันขาด
- ถ้ามีรังแคปานกลาง คันไม่มาก ใช้ ZPT shampoo สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็ช่วยลดอาการคัน และปริมาณรังแคได้
- ถ้ามีรังแคค่อนข้างมาก และคันมาก ควรสระผมด้วย ZPT ทุกวัน
- การขจัดรังแคบนหนังศีรษะ ต้องอาศัยการดูแลผม และหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง โดยเลี่ยงการรบกวนต่อหนังศีรษะโดยเฉพาะการเกา การสระผมให้ถี่พอ และควรสระเมื่อมีอาการคัน ไม่ปล่อยทิ้งไว้โด�
แหล่งที่มา : 108health.com