วันอาสาฬหบูชา ภาษาอังกฤษ ประวันอาสาฬหบูชา ภาพวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา |
Written by Panrit "Gor" Daoruang | |
Tuesday, 30 July 2002 | |
Asarnha Puja Day is the third most important Buddhist holiday. It is the day that the Buddha gave the first sermon to his first five disciples. After Asarnha Puja Day is another important day. Thai people believe that it is the first day of the monsoon season. We know it as "Khao Phansa" or "Buddhist Lent" in English. The word "Phansa" means three months so "Khao Phansa" means to stay indoors for three months. During this three month period, the monks are not allowed to go to stay overnight elsewhere. วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญอันดับสามทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก โปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 หลังจากวันอาสาฬหบูชาก็เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง คนไทยเชื่อว่าเป็นวันเเรกของฤดูลมมรสุม . พวกเรารู้กันว่าเป็นวัน “เข้าพรรษา” เป็นวันที่พระสงฆ์ต้องจำพรรษา หรือในภาษาอังกฤษ "Buddhist Lent" เเปลว่าจำศีลในวัดเป็นเวลาสามเดือน ในระยะเวลาสามเดือนพระสงฆ์ต้องอยู่ในวัด ไม่อนุญาตให้ไปค้างคืนอยู่ที่อื่น ที่โรงเรียนเก่าของฉันจัดงานวันอาสาฬหบูชาทุกๆปี โดยนำนักเรียนไปที่วัด ฉันยังจำได้ว่าตอนที่ฉันเรียนอยู่ประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อนๆของฉันเเละฉันถูกเลือกโดยคุณครูให้ไปที่วัด โดยเช่ารถบัสสองสามคันพาพวกเราไปที่นั่น เราไปที่โบสถ์เพื่อเดินรอบโบสถ์3 ครั้งทันทีที่พวกเราไปถึงที่นั่น เพื่อนของฉันคนหนึ่งบ่นตลอดเวลาขณะที่เดินรอบโบสถ์มันทำให้ฉันรำคาญ หลังจากที่พวกเราเดินครบรอบแล้ว เราได้เข้าไปข้างในเพื่อทำพิธี เราทำบุญด้วยการถวายปัจจัย อาหาร เครื่องอัฐบริขาร พวกเราถวายเทียนสูง 2 เมตร ซึ่งใหญ่พอที่จุดพอถึงนาน 3 เดือนในช่วงเข้าพรรษา จากนั้นพวกเรามานั่งบนพื้นเพื่อฟังพระสวด ตอนนี้คนที่บ่นกำลังหลับ แต่คุณรู้ไหมว่าอะไร ปากของเขายังอ้าอยู่เลย
เรานั่งฟังพระสวดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น เจ้าอาวาสก็ให้โอวาทสั้นๆเเก่เรา เเละท่านก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป พวกเรายืนขึ้นเเละยืดเเข้งยืดขาเเล้วเข้าแถวเดินกลับไปที่รถบัส ขณะที่ฉันกำลังเดินออกจากโบสถ์ ฉันเห็นเพื่อนของฉัน คนที่หลับ ยืนขาเดียวท่ามกลางแสงแดด ทุกคนหัวเราะเขา ฉันรู้สึกสงสัยว่าทำไมเขาได้ถูกเลือกให้มาด้วย เขาไม่จำเป็นต้องมาถ้าไม่ต้องการทำบุญ เขาสามารถปฏิเสธได้ ในตอนเย็น ฉันไปเยี่ยมย่ากับครอบครัวของฉันเพื่อที่จะไปเวียนเทียนกับยาย นี่เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำบุญโดยการเดินรอบๆโบสถ์ 3 ครั้ง พวกเราทำอย่างนี้ทุกๆวันหยุดทางศาสนา หลังจากเสร็จเรียนร้อย พวกเราก็กลับไปที่บ้านยาย จากนั้นพวกเราก็นั่งลงเเละพูดคุยกัน ฉันได้ยินแม่ของฉันบอกกับพ่อว่า เขาควรจะต้องรักษาศีลห้าในวันเข้าพรรษา พ่อตอบกับแม่ว่าพ่อจะทำให้ดีที่สุด เเละเเม่ของฉันก็หันมาพูดกับฉันว่าอย่าทำเป็นสนุกสนานไปเลยเพราะเธอก็ต้องทำด้วย ฉันตอบแม่ว่าเเน่นอนฉันจะรักษาศีล 5 ให้ได้นานกว่า 2 อาทิตย์ มันเป็นอย่างนี้เสมอๆในวันหยุดทางพระพุทธศาสนา ตั้งเเต่ที่ฉันจำได้ พวกเราไปเยี่ยมยายเเละทำบุญกับเธอเสมอๆ เเม่ของฉันพูดเกี่ยวกับเหตุผลที่จะต้องไปวัดในวันหยุดทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นเรื่องกับครอบครัว มันเป็นสิ่งที่เเม่ปฏิบัติกับพ่อแม่ของท่าน เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นประเพณีสำหรับพวกเราไปเเล้ว เเต่ในปีนี้ฉันไม่ได้ไปวัดกับครอบครัวของฉัน เพราะว่าฉันยุ่งอยู่กับงานเเละสังคมกับเพื่อน ฉะนั้นฉันจึงไม่มีเวลาว่างเลยจริงๆ จากนี้ต่อไปฉันจะจัดการเกี่ยวกับชีวิตของฉันเพื่อที่จะมีเวลาว่างที่จะมีต่อครับครัวของฉัน ในอนาคตเมื่อฉันโตขึ้นและมีลูก ฉันจะให้เวลาแก่ลูกให้มากๆเเละจะสอนลูกเกี่ยวกับประเพณีในการไปทำบุญที่วัด ฉันจะทำให้ดีที่สุดในการสั่งสอนให้ลูกเป็นคนที่ดีเเละต้องเป็นคนที่ดีกว่าฉัน |
แหล่งที่มา : gorsworld.com