อาหารสําหรับคนท้อง 2 เดือน อาหารสําหรับคนท้อง4เดือน อาหารสําหรับคนท้อง5เดือน
5 ความเชื่อ (เรื่องกิน) ของแม่ท้อง | |
|
แต่ความเชื่อบางอย่างก็เข้าใจไม่ถูกไปทั้งหมด อย่างนั้นมาลองเช็กดูกันหน่อยว่าเรื่องที่เชื่อกันนั้นความจริงนั้นเป็นอย่างไร ความเชื่อ : กินเผ็ดแล้ว ลูกจะผมน้อย ความจริง : ผมของลูกมากหรือน้อยนั้น เป็นไปตามกรรมพันธุ์ของแต่ละคนค่ะ ส่วนความเชื่อเรื่องห้ามของการกินเผ็ดนั้น คงเป็นเพราะกลัวคุณแม่จะปวดท้อง ถ่ายลำบาก หรือไม่ก็ท้องเสีย เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่เองมากกว่า เพราะในช่วงตั้งครรภ์ระบบย่อยอาหารจะผิดไปจากเดิม เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป อาจจะมีปัญหาในการย่อยอาหาร หรือการขับถ่าย ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ง่าย ดังนั้นระหว่างนี้คุณแม่จึงควรเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดจะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพค่ะ ความเชื่อ : ดื่มน้ำมะพร้าวมากๆ จะช่วยให้ลูกผิวสวยและช่วยล้างไขตามตัว ความจริง : จริงๆ แล้วการมีไขที่ติดตามตัวเด็กจะทำให้เด็กคลอดง่าย เพราะเป็นเหมือนน้ำมันหล่อลื่นเคลือบตัวเด็กขณะผ่านช่องคลอดออกมา เจ้าไขตัวนี้สร้างขึ้นมาจากเซลล์ผิวหนังของเด็กและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้นไขก็จะมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้หลังคลอดใหม่ๆ ไขที่คลุมตัวเด็กจะช่วยคุมอุณหภูมิของลูกไม่ให้ต่ำเกินไปได้ด้วย คุณหมอจึงมักปล่อยเด็กโดยให้ไขติดอยู่อีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะล้างทิ้งเมื่อแน่ใจว่าเด็กคุมอุณหภูมิตัวเองได้แล้ว การรีบล้างไขออกโดยเร็วอาจทำให้ลูกตัวเย็นผิดปกติ และเป็นอันตรายได้ ส่วนน้ำมะพร้าวนั้น มีน้ำตาลและกรดไขมันอิ่มตัวเพียบ กินเข้าไปมากๆ จะทำให้ลูกตัวโตแต่ไม่แข็งแรง และแม่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันอุดหลอดเลือดได้สูงขึ้น ดังนั้นถ้าน้ำหนักตัวขึ้นมากอยู่แล้วงดได้ก็งดเสียนะคะ ความเชื่อ : ห้ามกินผักที่เป็นเครือเถา เพราะจะทำให้คลอดยาก ความจริง : อันนี้เป็นความเชื่อโบร่ำโบราณ ที่ว่าพืชลักษณะนี้มีเส้นสายยึดรัดทำให้เด็กคลอดยาก แต่จริงๆ แล้วสำหรับแม่ท้องไม่มีการจำกัดอาหารผักเลยค่ะ โดยเฉพาะพวกผักใบเขียวต่าง ๆ เช่น ผักบุ้ง ตำลึง คะน้า ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ และฟักทอง ถ้ากินได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะจะทำให้วิตามันที่สำคัญต่อการเติบโตของเยื่อบุตาและต่อการทำงานของตาของลูก ความเชื่อ : ห้ามดื่มชา กาแฟ เพราะอาจแท้งได้ ความจริง : มีการศึกษาวิจัยการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนของแม่ท้องกว่า 1,063 คน พบว่า แม่ท้องที่บริโภคปริมาณคาเฟอีนเกินกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณกาแฟ 2 ถ้วยต่อวัน) อาจส่งผลให้เกิดการแท้งบุตรได้มากถึงร้อยละ 25 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะห้ามดื่มเลย แต่ก็ต้องมีลิมิตไม่เกิน 1 แก้วต่อสัก 2-3 วัน อาจจะจิบๆ พอหายอยาก หรือเปลี่ยนจากกาแฟที่มีคาเฟอีนมาเป็นไม่มีคาเฟอีน เพราะแม่ท้องต้องการการพักผ่อน พอดื่มชา กาแฟมากเกินไปก็ทำให้นอนไม่หลับ เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือบางคนอาจเกิดท้องผูก ซึ่งจะมีผลกับสุขภาพของตัวคุณแม่ และส่งผลถึงต่อการเติบโตและพัฒนาการของลูกในท้องได้ค่ะ แต่พอไม่หลีกเลี่ยงชา กาแฟ แล้ว คุณแม่ก็อย่าเผลอไปดื่มน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่อาจมีคาเฟอีนผสมอยู่แทนนะคะ ความเชื่อ : กินน้ำมันปลาเม็ด จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า ความจริง : น้ำมันปลา หรือ Fish oil นี้ ไม่เหมือนกับน้ำมันตับปลานะคะ แต่เป็นไขมันของ ปลาซึ่งมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จําเป็นต่อร่างกาย คือ กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 ที่เป็นส่วนประกอบสําคัญของเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งสมองเม็ดเลือดชนิดต่างๆ และการสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย และช่วยลดอาการอักเสบของข้อกระดูกที่แม่ท้องมักพบเจอได้ด้วย แต่แม่ท้องก็ไม่ควรกินน้ำมันปลาชนิดเม็ดหรือแคปซูลมากเกินไป และหันมากินน้ำมันปลา ที่มีอยู่ในปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพงแดง และยังพบได้ในกุ้งและปูทะเลอีกด้วย รวมถึงธัญพืชต่างๆ อย่าง ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ถั่วอัลมอลต์ เมล็ดฟักทอง เป็นต้น เพราะในอาหารจะมีความสมดุลของกรดไขมันต่างๆ อย่างพอเหมาะ และราคาถูกกว่าด้วย นอกจากนี้คุณแม่ท้องควรหยุดกินอาหารเสริมน้ำมันปลาที่เป็นเม็ดหรือแคปซูล เมื่อตั้งครรภ์ 6-7 เดือน เพราะน้ำมันปลา จะทําให้เกล็ดเลือดจับตัวกันลดลง ซึ่งแม้จะช่วยไม่ให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือด แต่อาจทําให้เลือดแข็งตัวช้าเมื่อเกิดบาดแผลหรือผ่าตัด หลังจากได้รู้ความจริงของความเชื่อในเรื่องอาหารการกินที่นำมาฝากกันแล้ว ต่อไปคุณแม่คงเข้าใจและเลือกกินอาหารได้อย่างสบายใจ เพื่อความปลอดภัยกับทั้งตัวคุณแม่และเจ้าตัวเล็กในท้องนั่นเองค่ะ
แหล่งที่มา : 108health.com