ไวรัสงูสวัด วิธีรักษาไวรัสงูสวัด สมุนไพรรักษาโรคไวรัสงูสวัด
ไวรัสงูสวัด
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
งูสวัด โรคนี้มีหลายคนสับสนกันว่าเกี่ยวข้องกับโรคสุกใสอย่างไร เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกันไหม แล้วมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร เป็นแล้วรักษาหายหรือเปล่า เรามาหาคำตอบกันค่ะ
ต้นตอโรคงูสวัด
โรคงูสวัด เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคสุกใสมาแล้ว เมื่อมีอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เกิดรอยโรคขึ้นเป็นทางตามแนวเส้นประสาท โดยในการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ครั้งแรกนั้น จะทำให้เกิดโรคสุกใสขึ้น เชื้อไวรัสจะผ่านจากผิวหนังและเยื่อบุเข้าสู่ร่างกาย ไปตามเส้นประสาทรับความรู้สึก แล้วแฝงหลบอยู่ที่ปมประสาทโดยไม่ทำให้เกิดอาการ เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานลดต่ำลง เชื้อไวรัสจะถูกกระตุ้นให้แบ่งตัวเพิ่มจำนวน แพร่กระจายมาตามเส้นประสาทนั้น ก่อให้เกิดรอยโรคขึ้น
โรคงูสวัด พบได้ทุกเพศ ทุกวัย ในทุกฤดูกาล เชื้อไวรัสชนิดนี้จะติดต่อโดยการหายใจ การได้รับเชื้อครั้งแรกเกิดเป็นสุกใสมักพบในเด็ก หรือวัยรุ่น ดังนั้นการกำเริบของเชื้อที่จะเกิดเป็นงูสวัดจึงมักพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
ที่ไม่ควรมองข้ามเลย สำหรับแม่ทำงานอย่างเราๆ คือ ความเครียดค่ะ ไม่ว่าจะเครียดจากการงาน จากครอบครัว หรือจากเรื่องไหนๆ นับเป็นสาเหตุหนึ่งได้เหมือนกัน มีงานวิจัยพบว่า ขณะที่เรารู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น และทำให้เกิดโรคงูสวัดได้
สังเกตอาการ
หากว่าเป็นโรคนี้แล้ว คุณสังเกตตัวเองได้ไม่ยาก อาการนำคือ อาการปวดตามแนวเส้นประสาทที่จะมีผื่นขึ้น อาจมีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หรือปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย ต่อมาเริ่มมีตุ่มหรือผื่นขึ้นเป็นแถว แล้วกลายเป็นตุ่มใสๆ บนฐานแดงลักษณะเหมือนผื่นที่พบในโรคสุกใส ตุ่มน้ำจะแตกหรือตกสะเก็ดแล้วหายภายในเวลา 1–3 สัปดาห์
จากนั้นรอยโรคจะกระจายบนผิวหนังเป็นทางยาวตามแนวของเส้นประสาท พบบ่อยที่ลำตัว หากเป็นที่บริเวณเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงตา จะมีผื่นขึ้นที่ปลายจมูกก่อน และต่อมาอาจเกิดการอักเสบของเยื่อบุตาหรือจอประสาทตาได้ ถ้าเกิดบริเวณเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงใบหน้าและเส้นประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยิน จะเกิดรอยโรคที่ใบหู รูหู ได้ยินเสียงอื้อในหู หัวหมุน เสียการทรงตัว การได้ยินลดลง และด้านที่ใบหน้าอักเสบอาจจะเกิดอาการกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ทำงานร่วมด้วยได้ ในผู้ป่วยเด็กที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ผื่นมักหายโดยไม่มีรอยแผลเป็นเหลืออยู่ และมักไม่พบอาการปวดหลังผื่นหายเหมือนในผู้ใหญ่
สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องแล้วเป็นโรคนี้ เชื้อไวรัสอาจแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย เป็นตุ่มน้ำขึ้นทั่วตัวคล้ายโรคสุกใสได้ ซึ่งเชื้ออาจกระจายไปยังปอด ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
แหล่งที่มา : , 108health.com