อาการคนท้องนอกมดลูก อาการคนท้องแรกเริ่ม อาการคนท้องอาทิตย์แรก
การตั้งครรภ์นอกมดลูก |
โดย นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล และทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก และผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช การตั้งครรภ์นอกมดลูกคืออะไร การตั้งครรภ์นอกมดลูกคือภาวะที่ตัวอ่อนที่มีปฏิสนธิแล้วไปเจริญเติบโตที่อื่นนอกจากในโพรงมดลูก ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นที่ท่อนำไข่ (95%) มีส่วนน้อยเกิดขึ้นที่อื่น ๆ เช่นที่รังไข่ ที่ปากมดลูกและในช่องท้องเป็นต้น โอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกมีประมาณ 1-2 % ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด อันตรายที่เกิดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูกคือ อวัยวะที่มันไปฝังอยู่จะแตกและมีเลือดออกในช่องท้อง สมัยก่อนศตวรรษที่ 19 คนที่ตั้งครรภ์นอกมดลูกจะเสียชีวิต 50% แต่ปลายศตวรรษที่ 19 อันตรายจากภาวะดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 5 % เท่านั้น เพราะมีการรักษาโดยการผ่าตัด แต่สมัยนี้มีการวินิจฉัยได้เร็วขึ้นมาก อัตราการตายจึงลดลงเหลือน้อยกว่า 5 ต่อ 10,000 อะไรทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก ปัจจัยเสี่ยงแรกที่ทำให้เกิดตั้งครรภ์นอกมดลูก คือต้องมีประวัติตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน มีประวัติอักเสบในอุ้งเชิงกราน เคยผ่าตัดเกี่ยวกับท่อนำไข่ เป็นโรคเยี่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ เป็นเนื้องอกมดลูก มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน และตั้งครรภ์ขณะที่มีห่วงคุมกำเนิดอยู่ในมดลูก จึงต้องคอยระมัดระวังสำหรับคนที่มีอาการดังกล่าวมาแล้วนี้ บรรดาความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกมากที่สุด คือ เคยมีประวัติตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อนเพราะมีโอกาสเกิดซ้ำถึง 15 % หลังจากเป็นครั้งแรกและถึง 30 % หลังจากเคยเป็น 2 ครั้ง แล้ว รองลงมาคือ หลังจากมีอักเสบในอุ้งเชิงกราน ซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อกามโรคหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อหนองใน เชื้อหนองในเทียม เป็นต้น การอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นสาเหตุได้ ได้แก่ ไส้ติ่งอักเสบที่หนองแตกกระจายเข้าไปในท้อง การอักเสบที่ทำให้เยี่อบุท่อนำไข่เสียหาย ตัวอ่อนเดินทางเข้าไปในมดลูกไม่ได้ จึงค้างอยู่ที่ท่อนำไข่ ปกติภายในท่อนำไข่จะมี เฃลล์ ที่คล้ายนิ้วมือเล็ก ๆ คอยโบกให้ตัวอ่อนเคลื่อนตัวเข้าไปในมดลูก เมื่อเยื่อเหล่านี้เสียหายก็ทำให้การเคลื่อนตัวของตัวอ่อน เป็นไปไม่ได้จึงเกาะและเจริญที่ท่อนำไข่แต่ท่อนำไข่เล็กและบางมาก จึงแตกออกและมีเลือดไหล เมื่อตัวอ่อนโตมากขึ้น การเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกที่ขึ้นผิดที่หรือเนื้องอกมดลูกหรือพังผืดก็ทำให้ท่อนำไข่ถูกเบียดให้ตีบได้ หลังการผ่าตัดแก้ไขท่อนำไข่ที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือการผ่าตัดแก้หมันก็ทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ 5 % ตัวเลขที่ฟังแล้วน่าตกใจคือ คนที่ตั้งครรภ์ขณะมีห่วงคุมกำเนิดในมดลูกจะเป็นท้องนอกมดลูกถึง 50% แต่ความจริงแล้ว เกิดได้น้อยมาก เพราะโอกาสตั้งครรภ์ขณะมีห่วงคุมกำเนิดมีน้อยมาก อาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูก อาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์นอกมดลูกมักไม่ค่อยชัดเจน แต่มักมีประวัติขาดประจำเดือนมาก่อน แล้วมีอาการปวดท้อง มีเลือดออกทางช่องคลอด อาการปวดเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ร้าวไปหัวไหล่และอาการอ่อนเพลีย อาการมักรุนแรงที่ข้างใดข้างหนึ่งของท้องมากกว่าอีกข้างมีอาการอ่อนเพลีย เพราะเสียเลือด แต่อาการเหล่านี้ก็มีได้กับคนที่มีถุงน้ำในรังไข่ คนแท้งบุตรที่ตั้งครรภ์ในมดลูก แต่ถ้าเป็นมาก ๆ คนไข้จะมีอาการเสียเลือด คือใจสั่น เป็นลมเวลายืน ซีด เพราะการเสียเลือดเข้าไปในท้อง การวินิจฉัยการตั้งครรภ์นอกมดลูก สิ่งแรกคือการซักประวัติและการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์อาจตรวจคลำได้ก้อนที่มีอาการเจ็บในท้องน้อย การตรวจเลือดหาฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ การทำอัลตราซาวด์ การขูดมดลูก และการผ่าตัดส่องกล้องตรวจในช่องท้องก็ช่วยในการวินิจฉัย ถ้ามีอาการมาก ๆ ชัดเจน การตรวจพบก็เร็วขึ้น ถ้ามีอาการน้อย ๆ อาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์กว่าจะวินิจฉัยได้ การตรวจเลือดหาระดับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ ในกรณีที่มีอาการน้อย ๆ จะช่วยการวินิจฉัยที่ถูกต้องได้ดี และรวดเร็ว โดยใช้หลักการว่า ฮอร์โมนการตั้งครรภ์(bHCG) จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกระแสเลือดจากการตั้งครรภ์ ถ้ามีการเพิ่มขึ้นไม่เป็นตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก การทำ Ultrasound ขณะตั้งครรภ์โดยไม่เห็นถุงตัวอ่อนในมดลูก การขูดมดลูกโดยได้เนื้อออกมาไม่มีลักษณะของเนื้อเยื่อจากการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นของตัวอ่อนออกมาให้เห็น เหล่านี้ก็อาจจะเป็นตั้งครรภ์นอกมดลูก การทำผ่าตัดส่องกล้องในท้อง คือสอดกล้องเล็ก ๆ ผ่านผนังหน้าท้องตรงสะดือ เข้าไปดูในท้องก็จะเห็นได้ชัดเจน ถ้าเป็นท้องนอกมดลูกและมีเลือดออก วิธีนี้จะเป็นวิธีที่รักษาได้ในเวลาเดียวกันได้เลย อันตรายของการตั้งครรภ์นอกมดลูก ครรภ์นอกมดลูกในบางคนที่เป็นแล้วสลายตัวไปเองโดยไม่ทำให้เกิดอาการอะไรรุนแรง ก็จะหายไปเองได้โดยการสังเกตอาการไม่ต้องให้การรักษาอะไร แต่แพทย์จะกลัวเรื่องการมีอันตรายจากเลือดออกในท้องมากกว่า เพราะถ้าปล่อยให้เลือดออกในท้อง กว่าจะทราบว่าถึงขั้นอันตรายก็เป็นมากแล้ว และโดยทั่วไปเลือดที่ไหลออกมาจะระคายเคืองเยื่อบุช่องท้องหรืออวัยวะภายในช่องท้องทำให้มีอาการปวดมากจนคนไข้จะทนไม่ได้ การมีเลือดออกมาก ๆ ถ้าไม่เอาออก ก็ทำให้เกิดพังผืดในภายหลังได้ และรอยแผลของท่อนำไข่ตรงท้องนอกมดลูกครั้งก่อนก็เป็นสาเหตุให้เกิดตั้งครรภ์นอกมดลูกในครรภ์ครั้งต่อไปได้ มีวิธีการรักษาครรภ์นอกมดลูกอย่างไรบ้าง
การรักษามีตั้งแต่ การเฝ้าสังเกตอาการ การให้ยาเข้าไปทำลาย การผ่าตัดส่องกล้องช่องท้อง และการผ่าตัดช่องท้อง การที่แพทย์จะเลือกวิธีใดก็แตกต่างกันเป็นราย ๆ ไป รายที่มีอาการน้อยมากอาจเพียงแต่คอยเฝ้าดูอาการว่าจะหายเอง ในขณะที่ผู้ป่วยที่เสียเลือดจนช็อคก็ต้องรีบผ่าตัด ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้วิธีผ่าตัดในการรักษา ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือ 1. การผ่าตัดส่องกล้องในช่องท้อง และการเปิดแผลใหญ่ที่หน้าท้อง เพื่อเอาส่วนที่ท้องนอกมดลูกออกและหยุดเลือด 2. การผ่าตัดส่องกล้อง จะเป็นวิธีที่นิยมมากกว่าเพราะแผลเล็กหายเร็วปลอดภัย โรคแทรกซ้อนน้อย การรักษาอาจเป็นแค่เอาส่วนของครรภ์นอกมดลูกออกทางปลายท่อหรือผ่าท่อแล้วเอาส่วนของครรภ์นอกมดลูกออก หรือตัดท่อนำไข่ข้างนั้นเลย ขึ้นอยู่กับว่าเป็นน้อยหรือมากตามลำดับ ในปัจจุบันที่เรามีการไปหาแพทย์ ตรวจกันเร็วขึ้นเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ทำให้เราสามารถวินิจฉัยตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ก่อนจะมีอาการแทรกฃ้อน ทำให้สามารถให้ยาเข้าไปทำลายตัวอ่อนและรกอ่อน ๆ ได้ ยานั้นคือ methotrexate ที่เรานำไปใช้รักษามะเร็งหรือภูมิแพ้บางอย่างเช่น SLE ยานี้จะไปทำลาย เฃลล์ตัวอ่อนให้สลาย วิธีนี้ได้ผลดี ปลอดภัย แต่ต้องวินิจฉัยได้เร็ว และต้องติดตามดูแล จนแน่ใจว่าหายแล้ว เราอาจเคยได้ยินข่าวว่ามีการผ่าตัดเอาลูกที่ตั้งครภภ์นอกมดลูกที่ปล่อยจนโตแล้วออกมาได้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นข้อยกเว้นเพราะโอกาสเกิดน้อยมาก สรุป - การตั้งครรภ์นอกมดลูก คือ การที่ตัวอ่อนไปฝังตัวที่อื่นนอกจากโพรงมดลูก เกือบทั้งหมดเกิดที่ท่อนำไข่ - สาเหตุของการตั้งครรภ์นอกมดลูกคือโรคที่ท่อนำไข่ทำให้ขัดขวางการเดินทางของตัวอ่อนเข้าไปในมดลูก - อันตรายของครรภ์นอกมดลูกคือการเสียเลือด - การวินิจฉัยได้จากการซักประวัติ ตรวจร่างกายการตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจเลือด ขุดมดลูกและ/หรือการผ่าตัดส่องกล้องตรวจช่องท้อง - การรักษามีหลายวิธีตั้งแต่ติดตามดูอาการ ให้ยา หรือผ่าตัดขึ้นอยู่กับระยะของโรคและความรวดเร็วของการวินิจฉัย |
|
|
แหล่งที่มา : vibhavadi.com