โรคปากนกกระจอก การรักษา อาการของโรคปากนกกระจอก โรคผิวหนังเป็นสาเหตุของโรคปากนกกระจอก


1,601 ผู้ชม


โรคปากนกกระจอก การรักษา อาการของโรคปากนกกระจอก โรคผิวหนังเป็นสาเหตุของโรคปากนกกระจอก

 

 
โรคปากนกกระจอก หรือแผลที่มุมปาก( Angular stomatitis or angular cheilitis) 

 

โรคปากนกกระจอก หรือแผลที่มุมปาก( Angular stomatitis or angular cheilitis) เป็นโรคแผลที่มุมปากที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดจากการขาดวิ�
��ามินบี 2 ( Riboflavin) แม้แต่แพทย์ทั่วไปหลายๆ ท่าน ก็ทำการรักษาโดยให้วิตามินบี 2 ทั้งๆ ที่สาเหตุจากการขาดวิตามินดังกล่าว พบได้น้อยมาก
ลักษณะอาการที่พบ คือ จะมีการหลุดลอกของเซลล์หนังกำพร้าบริเวณมุมปาก แล้วต่อมาเกิดเป็นแผล และอาจติดเชื้อแบดทีเรียแทรกซ้อน อักเสบ ปวดเจ็บได้
สาเหตุของโรคปากนกกระจอก แบ่งได้ดังนี้
1. ปัญหาของโรคผิวหนังเอง เช่น Atopic dermatitis( ผิวหนังอักเสบแพ้ จากภูมิแพ้ ในเด็ก), Seborrheic dermatitis (โรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบอีกแบบหนึ่ง ได้เคยเขียนบทความเรื่องนี้ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ลอง search ดูนะครับ ) ซึ่งทั้งสองแบบนี้ เป็นสาเหตุของโรคปากนกกระจอกที่พบได้บ่อยที่สุด
2. ผู้ป่วยสูงอายุ ที่ไม่มีฟัน ทำให้รูปปากผิดปกติ ทำให้เกิดการอับชื้นที่มุมปาก เกิดการติดเชื้อจากเชื้อราได้
3. การขาดอาหาร ได้แก่ การขาดวิตามินบี 2 การขาดธาตุเหล็ก การขาดวิตามินซี และการขาดโปรตีน(พบได้น้อย)
4. การติดเชื้อแทรกซ้อน จากเชื้อแบคทีเรีย
5. ภาวะน้ำลายมากกว่าปกติ ( Hypersalivation)
แนวทางการป้องกันและรักษา
1. หาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดโรคปากนกกระจอก แล้วรักษาที่สาเหตุ อาการดังกล่าวจะหายได้
2. ทำความสะอาดช่องปาก เช็ดมุมปากให้แห้งตลอดเวลา
3. กรณีที่ไม่ได้ใส่ฟัน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหา
4. การใช้ยาป้ายแผลในปาก เช่น kenalog in oral base ได้ผลดีในแง่แผลที่เกิดจากภาวะอักเสบจากภูมิแพ้
ดังนั้น กรณีที่เป็นปากนกกระจอก ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นโรคขาดอาหารเสมอไป ควรมองหาสาเหตุข้างต้นด้วย เพื่อจะได้รักษาได้ตรงสาเหตุ

เรียบเรียงและค้นคว้าใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ

แหล่งที่มา : clinicneo.co.th

อัพเดทล่าสุด