โรคหัวใจ ชนิดของโรคหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
โรคหัวใจมีกี่ชนิด? | ||
โดย : นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ |
สำหรับโรคหัวใจที่พบได้บ่อยและมีความสำคัญในประเทศไทย ได้แก่
- โรคหัวใจแต่กำเนิด
- โรคหัวใจรูห์มาติก
- โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหัวใจจากภาวะที่ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป
โรคหัวใจแต่กำเนิด
มีความผิดปกติของส่วนที่จะเจริญเติบโตมาเป็นหัวใจตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา 3 เดือนแรก ทำให้เกิดความพิการขึ้นได้เช่น ผนังที่กั้นหัวใจซีกซ้าย และซีกขวามีรูทะลุถึงกัน ลิ้นหัวใจอาจตีบหรือรั่ว อาจมีความผิดปกติของหลอดเลือดที่เกี่ยวข้องกับหัวใจตั้งแต่แรกคลอด
รูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องล่าง (ventricular septal defect; VSD)
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในบรรดาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โดยพบได้ร้อยละ 20-30 ผลจากการที่มีรูรั่วผนังกั้นห้องหัวใจห้องล่าง ทำให้เลือดแดงจากหัวใจห้องล่างซ้ายผ่านรูรั่วไปยังห้องล่างขวา และออกสู่หลอดเลือดแดงของปอด ทำให้ปริมาณเลือดที่ไปปอดมากขึ้น ปริมาณเลือดที่กลับเข้าสู่หัวใจห้องบนซ้าย และล่างซ้ายจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่งผลให้หัวใจห้องซ้ายทำงานมากขึ้น จนอาจเกิดภาวะหัวใจวายได้
รูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องบน (atrial septal defect; ASD)
เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดที่พบบ่อยรองลงมามักพบในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ผลจากการที่มีรูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องบน ทำให้เลือดไหลผ่านจากหัวใจห้องบนซ้ายผ่านรูรั่วไปห้องบนขวา ตรวจพบเสียงฟู่หัวใจ และผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจห้องขวาขยายใหญ่ เมื่ออายุมากขึ้น ส่วนใหญ่มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญในช่วงวัยเรียน
การคงอยู่ของหลอดเลือดแดงเชื่อมระหว่างหลอดเลือดแดงใหญ่ทั้งสอง (patent ductus arteriosus; PDA)
ในภาวะปกติเมื่อทารกอยู่ในครรภ์ หลอดเลือดนี้จะมีขนาดใหญ่ เป็นทางลัดผ่านของเลือดจากหัวใจห้องขวาล่าง ไปยังหลอดเลือดแดงใหญ่ของร่างกาย ซึ่งไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างของลำตัว เมื่อทารกคลอดออกมา หลอดเลือดนี้จะหดตัวเล็กลงจนปิดไป ภายในอายุ 10 วัน ในรายที่มีความผิดปกติ ทำให้หลอดเลือดนี้คงอยู่ เลือดแดงส่วนหนึ่งจากหลอดเลือดแดงใหญ่ของร่างกาย จะไหลผ่านไปยังหลอดเลือดแดงของปอด ปริมาณเลือดไปปอดเพิ่มขึ้น และไหลกลับเข้าสู่หัวใจห้องซ้ายเพิ่มขึ้น คล้ายในรูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องล่าง
หลอดเลือดแดงใหญ่ของร่างกายส่วนไปเลี้ยงลำตัวส่วนล่างตีบ (coarctation of aorta; CoA)
ผลจากการตีบของหลอดเลือดแดงใหญ่ของร่างกาย ทำให้หัวใจห้องซ้ายมีความดันสูงขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวขึ้น และกระตุ้นให้ความดันโลหิตของร่างกายส่วนบนสูงขึ้น เลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างของลำตัวลดลง เกิดความแตกต่างของความดันโลหิตระหว่างแขน และขา ชีพจรส่วนขาเบาลง บางรายอาจไม่มีอาการ แต่ถูกตรวจพบโดยบังเอิญในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ เช่น ฟังได้เสียงฟู่ของหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง คลำชีพจรส่วนขาเบาผิดปกติ
โรคหัวใจรูห์มาติค
เป็นความผิดปกติของหัวใจที่เกิดภายหลังที่ผู้ป่วยไม่สบายจากไข้รูห์มาติค โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนของหัวใจที่เกิดบ่อยคือลิ้นหัวใจ
โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงอยู่นานๆ และไม่ได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอดีพอ หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น
กล้ามเนื้อของหัวใจจะหนาขึ้น หัวใจจะโตขึ้น จนอาจทำให้เกิดหัวใจวาย ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยหอบง่าย เมื่อ
ทำงานหนัก บวมบริเวณเท้า และจะนอนราบไม่ได้
โรคหลอดเลือดหัวใจ
เกิดขึ้นเพราะมีความผิดปกติเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่มาเลี้ยงหัวใจ มีไขมันมาเกาะจนทำให้เกิดการมีการตีบตัน
เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่พอเพียง
แหล่งที่มา : 108health.com