อาหารเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ยาคุมเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง ยาเร่งฮอร์โมนเพศหญิง
การใช้ฮอร์โมนทดแทน
วัตถุดิบหลักที่ร่างกายนำมาใช้ในการสร้างฮอร์โมนเพศทั้งฮอร์โมนเพศหญิง และเพศชายก็คือ คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นของร่างกาย ในผู้หญิงที่ผ่าตัดรังไข่ และย่างเข้าสู่วัยทองหรือวัยหลังหมดประจำเดือน คอเลสเตอรอลจะไม่ถูกนำใช้ในการสร้างฮอร์โมรเอสโตรเจน จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงกลุ่มนี้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น เฉลี่ยปีละ 10 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนนอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อสรีระ ทางการสืบพันธุ์ของผู้หญิงหลายอย่างแล้ว ยังมีผลต่อการสะสมน้ำและเกลือแร่ในร่างกายด้วย โดยเกลือแร่ที่มีแคลเซี่ยม และฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกและน้ำจะถูกขับออกจากร่างกายได้มากกว่า ดังนั้นการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นสาเหตุหลักของโรคกระดูกพรุน
ปี ค.ศ.2002 มีการค้นพบฮอร์โมนที่สามารถใช้ทดแทนฮอร์โมนเอสโตนเจนได้อย่างปลอดภัยกว่าซึ่งเรียกกันว่าดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน (Dehydroepiandrosterone) หรือ DHEAซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ร่างกายจะผลิตขึ้นได้เองในต่อมหมวกไต
ฮอร์โมน DHEA เมื่ออยู่ในร่างกายจะสามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศชาย และฮอร์โมนเพศหญิงได้ และจะเป็นฮอร์โมนเพศที่สร้างขึ้นทดแทนฮอร์โมนเพศในระบบหมุนเวียนเลือดที่ขาดหายไปทั้งในผู้หญิงและผู้ชายวัยทอง หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการเสริมฮอร์โมน ซึ่งจะสามารถช่วยให้ฟื้นคืนความตื่นตัวทางเพศได้อีกด้วย
ส่วนการกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนชนิดที่แพร่หลายที่สุด ซึ่งเป็นยาเม็ดรวมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในรูปสารสังเคราะห์โดยจะมีผลป้องกันการตกไข่ และโปรเจสเตอโรนยังเปลี่ยนเยื่อบุชั้นในของมดลูก ทำให้มูกที่ปากมดลูกหนืดขึ้น โอกาสที่อสุจิจะผ่านเข้าไปได้จึงยากขึ้น ยาเม็ดรวมนี้ประกอบด้วยฮอร์โมนทั้งสองชนิดในระดับต่างๆกัน ดังนั้นจึงควรกินยาตามลำดับวันที่มีระดับฮอร์โมนที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งกินชนิดในรอบ 21 วัน และ 28 วัน โดยชนิด 28 วัน จะมียาอยู่ 7 เม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน แต่ใช้เพื่อให้กินยาทุกวัน จะได้ไม่ลืมกินยานั่นเอง ข้อดีของการกินยานี้คือใช้สะดวก เชื่อถือได้ และให้ผลต่อเนื่อง อาจทำให้มีรอบเดือนน้อยลงและช่วยลดอาการข้างเคียงที่เกิดในช่วงก่อนมีรอบเดือนได้ ส่วนข้อเสียคืออาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ อารมณ์เปลี่ยนแปลง และมีอาการปวดหัวข้างเดียวหรือคลื่นไส้อาเจียนได้ สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว จะช่วยป้องกันการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้วที่เยื่อบุมดลูก แต่ไม่ได้ป้องกันการตกไข่ ข้อดีคือเหมาะกับผู้หญิงที่มีอาการข้างเคียงจากการใช้ยาเม็ดฮอร์โมนรวม หรืออยู่ระหว่างให้นมลูก แต่การกินยาชนิดนี้ต้องกินในเวลาเดียวกันและติดต่อกันทุกวันโดยไม่มีช่วงหยุดยา
การกินฮอร์โมนเพศหญิงชนิดที่เรียกว่าโปรเจสเตอโรน หรือยาเลื่อนประจำเดือน ซึ่งชนิดที่นิยมคือ Primalut-N และ Provera จะมีผลให้ประจำเดือนที่มาเมื่อถึงกำหนดเลื่อนออกไป โดยเริ่มกินก่อนวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือน 3 วัน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง และสามารถกินต่อเนื่องได้นานถึง 10 วัน ระหว่างกินยาอยู่ประจำเดือนจะไม่มา แต่เมื่อหยุดยาแล้วไม่นานประจำเดือนจะมาเอง ระหว่างที่กินฮอร์โมนนี้ บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ้าง แต่ก็ไม่จัดว่าผิดปกติ
ส่วนผู้ที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดหรือบำบัดด้วยการเสริมฮอร์โมน ควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินบี 6 บี 12 กรดโฟลิก และสังกะสี จะช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ดีขึ้น
แหล่งที่มา : thaigoodview.com