การเลือกรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง จะได้ลืมป่วย


840 ผู้ชม


การเลือกรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง จะได้ลืมป่วย

 

 

“ทานเป็น...ลืมป่วย”

       เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหนผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กๆ มักมีหน้ากากปิดจมูกป้องกันโรคไข้หวัด 2009 กันทั่วหน้า ซึ่งพ่อแม่หลายคนต่างวิตกไปตามๆ กัน ในเรื่องของภูมิคุ้มกันและภูมิต้านทานในร่างกายของพวกเขาว่าจะเสี่ยงต่อโรคนี้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่ผู้ใหญ่เองก็อาจกังวลกับโรคต่างๆ นานาที่อาจเข้ามาทักทายได้ตลอดเวลาเช่นกัน

       ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่นอกเหนือไปจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้น นับว่าเป็นเกราะป้องกันโรคอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก รวมไปถึงปู่ ย่า ตา ยาย และทุกคนในบ้าน ซึ่งไม่ควรละเลยในเรื่องอาหารการกินแม้แต่วันเดียว

       อย่างไรก็ดี ก่อนจะเลือกซื้ออาหารเสริมหรืออาหารบำรุงสุขภาพ เราลองมาดูเคล็ดลับเรื่องอาหารกับสุขภาพกันก่อน โดยเฉพาะคุณแม่บ้านที่ต้องทำอาหารเพื่อสมาชิกในครอบครัวว่า ทุกคนควรทานอาหารอย่างไรถึงจะเรียกว่า‘ทานเป็น ลืมป่วย’ กันค่ะ 

       ทานอาหารครบ 5 หมู่

       นอกจากการควบคุมน้ำหนักแล้ว การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจเป็นข้อแรกที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละหมู่นั้นให้คุณค่าทางอาหารที่ต่างกันไป ซึ่งความหลากหลายนี่เองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

       ส่วนการทานอาหารให้หลากหลายนั้น หมายถึงการทานอาหาร 20 - 30 ชนิดต่อวัน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่ทำได้ง่ายๆ เช่นถ้ามื้อเช้า กินข้าวต้มปลา ในข้าวต้มปลา มีข้าว มีน้ำ มีปลา มีผักชี ต้นหอม ใส่น้ำตาล น้ำปลา ดื่มน้ำส้มอีกแก้ว มื้อเช้าก็ทานอาหาร 8 อย่างแล้ว

       ส่วนมื้อกลางวัน ถ้าทานผัดไทยสักจาน ก็มีเส้นหมี่ กุ้ง เต้าหู้เหลือง ถั่วลิสง น้ำมัน ผัก ถั่วงอก ก็เป็นอาหาร 7 อย่างแล้ว ขณะที่มื้อเย็น ทานข้าวกับน้ำพริกปลาทู ก็มีกะปิ น้ำปลา มะนาว พริก ปลาทู ผักสด มีผลไม้ด้วย นับไปนับมาก็ 20 กว่าอย่างแล้ว ซึ่งการทานลักษณะนี้เรียกว่า "ทานหลากหลาย" ที่จะส่งผลให้สารอาหาร จากอาหารที่หลากหลายมีปริมาณที่สมดุล กับร่างกายที่ต้องการแล้ว

       ส่วนคำว่า "หมั่นดูแลน้ำหนักตัว" นั้นหมายถึงอย่าให้ตัวเองอ้วนไปหรือผอมไป คอยหมั่นสังเกต ได้จาก ดัชนีมวลกาย โดยเอาน้ำหนักตัวเป็นตัวตั้ง หารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง ถ้าค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 18.5 - 25 แสดงว่าร่างกายได้สัดส่วนดีแล้ว

       ทานข้าวเป็นหลักสลับแป้งบางมื้อ

       แม้ข้าวเป็นอาหารหลักของครอบครัวคนไทยมานาน แลคุณค่าทางอาหารโดยเฉพาะข้าวซ้อมมือนั้นมีคุณค่าต่อร่างกายมากก็ตาม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทานข้าวทุกมื้อ เช่น อาหาร 3 มื้อหลัก เช้า กลางวัน เย็น มื้อหนึ่งกินสักประมาณ 2 - 4 ทัพพี ทานข้าวพออิ่ม หรือถ้าเบื่อข้าว ก็ทานก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ทดแทนเป็นบางมื้อก็ได้

       ส่วนความเชื่อที่ว่า ถ้างดข้าวแล้วจะช่วยลดความอ้วนได้นั้น ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะทั้งข้าว และแป้ง ให้คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมาก

       ผัก - ผลไม้ อย่าให้ขาด

       ผักพื้นบ้านของไทยมีเยอะแยะ ทั้งกระถิน ดอกแค สะตอ คะน้า ผักกาด แตงกวา มะเขือเทศ หรือผลไม้ ตามฤดูกาลควรทานเป็นประจำ เพราะไร้คอเลสเตอรอล และควรเป็นผักที่ไร้สารพิษด้วย

       ซึ่งในหนึ่งวัน คุณแม่บ้านควรทำอาหารที่มีผัก - ผลไม้ในทุกวัน โดยทุกคนควรทานให้ได้รวมกัน วันละครึ่งกิโลกรัม หรือ 5 ขีด อาจจะดูเยอะ แต่จริงๆแล้ว จริงๆ แล้วไม่มากเลย เช่น กล้วยลูกหนึ่งก็ 70 กรัมแล้ว ส้ม 1 ลูกก็ 100 กรัมแล้ว ฝรั่งครึ่งผลอีก 100 กรัม มะละกอ สุก 3 - 4 ชิ้น ก็ 100 กรัม ไหนจะพืชผักที่ทานแต่ละมื้อไปก่อนหน้าก็จะมากกว่า 100 กรัม เชื่อว่าเป็นเรื่องง่ายมากถ้าจะทำกันจริงๆ

       ทานปลา - เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

       เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ หากครอบครัวไหนนิยมทานปลาหรือเนื้อสัตว์ที่ไม่เป็นไขมันวันละมื้อ ซึ่งปลาก็ไม่ต้องทานมากจนเกินไป ถ้าคิดง่ายๆ เปรียบเทียบกับปลาทู ทานสักครึ่งตัวก็พอแล้วถ้าในวันนั้นไม่สามารถหาปลากินได้ให้ทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์ ที่มาจากถั่ว ถั่งเหลือง ถั่วเขียว หรือเต้าหูเหลืองแทนก็ได้

       ทั้งนี้เนื้อสัตว์ใหญ่นั้น ควรให้ทานทุกวันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ไม่อยากแนะนำให้ทานเนื้อสัตว์ใหญ่มากๆ เพราะเดี๋ยวจะเผลอไปทานเนื้อสัตว์ติดมัน ส่วนไข่นั้น ถ้าผู้ใหญ่ก็ทานสัปดาห์ละ 2 - 3 ฟอง เด็กๆ ในวัยเจริญเติบโตทานได้ทุกวัน  

       ดื่มนมกันเถอะ

       เด็กจะเติบโตสูงใหญ่ ผู้ใหญ่จะแข็งแรง หากพวกเขาดื่มนมเป็นประจำ เพราะนมเป็นแหล่งอาหารที่ดี มีทั้งโปรตีน พลังงาน วิตามินบี 2 แคลเซียม และแร่ธาตุอื่น

       ในต่างประเทศนั้น มีกระแสการต่อต้านการดื่มนม เพราะคนในสังคมเริ่มที่จะมีการบริโภคเกินความจำเป็น เช่น คนอเมริกันดื่มนมวันละ 1.50 ลิตร เกินความต้องการของร่างกาย คนเราต้องอยู่เป็น ทานเป็น ดังนั้นควรดื่มนม เหมาะสมตามวัยดังนี้

       เด็กๆ ควรดื่มวันละ 2 - 3 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 - 2 แก้ว ถ้าไม่ดื่มเสียเลย ในอนาคต เราอาจจะ มีปัญหาเรื่องความแข็งแรงของกระดูกได้

       ทานไขมันแต่พอควร

       สำหรับผู้ใหญ่ในบ้านควรจำกัดไขมันในร่างกายให้น้อยลง และพยายามหลีกเลี่ยงของทอด ของผัด แกงใส่กะทิ และหันมาทานผักนึ่ง ผักลวกคู่น้ำพริกแทน ส่วนนมก็เลือกดื่มนมพร่องมันเนย เพราะร่างกายหยุดเจริญเติบโตแล้ว

       หากทานไขมันมากเกินไป อาจทำให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูง และวันหนึ่งอาจเป็นโรคหลอดเลือดตีบได้ ทั้งนี้ร่างกาย ต้องการไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงานในร่างกายเท่านั้น

       หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด หวานจัด

       การทานอาหารรสเค็มจัดจนเกินไปจะส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ ส่วนคนที่ทานอาหารหวานจัด มีน้ำตาลมากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีปัญหา เรื่องโรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง นอกจากนี้ถ้าทานรสหวานๆ ตลอดเวลา ก็ทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน

       อาหารสะอาดปราศจากปนเปื้อน

       ใช้ความสังเกตดูด้วยตา ดม และมอง ว่าอาหารมีอะไรปกคลุมป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ อาหารสกปรกหรือไม่ ดูให้ดีว่าอาหารสะอาด เพราะอาหารจะปนเปื้อนสารเคมีหรือสารผสมอะไร ถ้ามองด้วยตาเปล่า ก็ไม่รู้อยู่แล้ว การใช้ความสังเกต ก็ถือว่าเป็นการป้องกันที่ดีอย่างหนึ่งแล้ว

       งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

       ข้อนี้คงต้องเตือนบรรดาหัวหน้าครอบครัวโดยเฉพาะ ซึ่งหากชวนกันดื่มมากเกินไปอาจส่งผลตายผ่อนส่งได้

       เคล็ดลับเพียงเท่านี้ หากทุกคนในบ้านรักสุขภาพ และปฏิบัติตามก็จะทำให้ครอบครัวลืมป่วยแน่นอน

แหล่งที่มา : thaihealth.or.th , thaifitway.com

อัพเดทล่าสุด