อาการไข้เลือดออกเด็กเล็ก อาการไข้เลือดออก+แพทย์ อาการไข้เลือดออกเป็นยังไง


1,039 ผู้ชม


อาการไข้เลือดออกเด็กเล็ก อาการไข้เลือดออก+แพทย์ อาการไข้เลือดออกเป็นยังไง

 

 


โรคไข้เลือดออก


โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 2 - 10 ปี โรคนี้มักระบาดในฤดูฝน ความรุนแรงของโรค และอาจทำให้ตายได้ คือ ระยะช็อค และเลือดออก ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ระยะไข้ลด ดังนั้น ผู้ปกครองหรือพ่อแม่ต้องเอาใจใส่ และมีความรู้ในการดูแลบุตรหลานของท่านอย่างดี 
สาเหตุ 
เกิดจากเชื้อไวรัส 2 ชนิด คือ เด็งกี่ กับ ชิกุนคุนยา โดยมียุงลาย เป็นพาหะนำเชื้อไข้เลือดออก และออกหากินในเวลากลางวัน ยุงลายชนิดนี้ ชอบเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำนิ่งๆ ที่อยู่ใต้ตุ่มน้ำ กระป๋อง กะลา และหลุมที่มีน้ำขัง หรือจานรองขาตู้กับข้าว ฯลฯ เราพบว่า ไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรง หรือช็อคจะเกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกี่ 
อาการและอาการแสดง 
ระยะที่ 1: ระยะไข้สูง 
ไข้สูงตลอดเวลา (39 - 40 องศาเซลเซียส)
หน้าแดง ตาแดง ไอ เจ็บคอ
ปวดศีรษะ กระหายน้ำ
ซึม เบื่ออาหาร และอาจปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือชายโครงขวา มีผื่นแดงขึ้น (ไม่คัน) ในวันที่ 3 ของไข้ ตามแขนขา ลำตัว รักแร้ เพดานปาก กระพุ้งแก้มและลิ้นไก่ ผื่นนี้อาจมีจุดเลือดออกเป็นจุดแดงเล็กๆ
**ระยะที่ 1 ใช้เวลา 4 - 7 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรง ไข้ก็จะค่อยๆ ลดลง และเด็กจะแจ่มใสขึ้น 
ระยะที่ 2 : ระยะช็อคและมีเลือดออก 
จะเกิดขึ้นในช่วงไข้ลด ประมาณวันที่ 3 - 7 ของโรค
พบอาการปวดท้องมากขึ้น กดเจ็บเล็กน้อยตรงใต้ชายโครงขวา
ตัวเย็น ซึม เหงื่อออกตามตัว
ปัสสาวะน้อย
ผู้ป่วยกระวนกระวาย และอาจมีจุดแดงๆ เหมือนมีเลือดออกตามผิวหนัง มีเลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรือสีกาแฟ ถ่ายอุจจาระสีดำ
**ระยะนี้ ใช้เวลา 24 - 72 ชั่วโมง ถ้าแพทย์สามารถแก้ไขได้ทัน ผู้ป่วยจะดีขึ้น และเข้าสู่ระยะที่ 3 
ระยะที่ 3 : ระยะฟื้นตัว 
เด็กจะเริ่มอยากอาหาร ร่างกายจะฟื้นตัวได้เร็วจนเข้าสู่ภาวะปกติ ตลอดระยะเวลาของโรค มักไม่เกิน 9 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรงจะใช้เวลาเพียง 3 - 4 วัน ผู้ป่วยอาการจะดีขึ้นได้เอง 
การป้องกัน 
1. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น - ปิดฝาตุ่ม - ใส่ยาฆ่าแมลงในน้ำหล่อขาตู้กับข้าว - ทำลายกระป๋อง กะลา หรือยางรถที่มีน้ำขังอยู่ 
2 เด็กที่นอนกลางวันควรนอนกางมุ้ง หรือมีมุ้งครอบ 
การดูแล 
1 ระยะไข้สูง ควรเช็ดตัวลดไข้, ให้ดื่มน้ำมากๆ
2 ห้ามไม่ให้ยาลดไข้แอสไพริน เพราะจะทำให้เลือดออกมากขึ้น ควรให้พาราเซตามอลเท่านั้น
3 ดูแลให้อาหาร ควรเป็นอาหารอ่อน พวกข้าวต้ม นม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้
4 ให้ดื่มน้ำมากๆ
5 เฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด 
ถ้าพบอาการต่อไปนี้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที 
- ปวดท้องกระสับกระส่าย ซึมมาก - ปวดท้องบริเวณยอดอก หรือลิ้นปี่ - อาเจียนมากขึ้น รับประทานอาหาร, น้ำไม่ได้ หรือได้น้อยมาก - มีเลือดออก เช่น เลือดกำเดา อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือถ่ายดำ 

ขอย้ำ

 

**ผู้ป่วยไข้เลือดออก จะมีอาการรุนแรงที่สุด ในวันที่ไข้เริ่มลดลง ต่างจากโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นในวันที่ไข้ลดลง**


**ขณะนี้ยังไม่วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก**

แหล่งที่มา : thaiparents.com

อัพเดทล่าสุด