อาการไข้เลือดออกเด็ก เด็กเล็กที่มีอาการไข้เลือดออกเป็นอย่างไร อาการไข้เลือดออกในเด็กเล็กมีอาการใดที่บ่งชี้ว่าเป็นไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก อัตรายสำหรับเด็กเล็ก ถึง 15 ขวบ
โรคติดเชื้อที่สำคัญโรคหนึ่งในช่วงฤดูฝนที่พบได้บ่อยคือ โรคไข้เลือดออก โรคนี้นับเป็นปัญหาสาธารณสุขของไทย เนื่องจากมีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคนี้ทุกปี บางปีก็พบการระบาดใหญ่ และโรคมีความรุนแรงทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคนี้เป็นจำนวนมาก เช่น ในปี พ.ศ.2530 มีรายงานผู้ป่วยถึง 92,005 ราย มีผู้เสียชีวิต 414 ราย ประชาชนจึงควรรู้จักโรคนี้ไว้บ้างเพื่อที่จะสามารถป้องกันและให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ไวรัสที่เป็นสาเหตุสำคัญและพบได้บ่อยคือ ไวรัสเดงกี่(Dengue Virus) ผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรงมักติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ไวรัสอีกชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุคือ ไวรัสชิกุนกุนยา(Chikungunya Virus) ซึ่งพบน้อยกว่าและมีอาการไม่รุนแรง ไวรัสทั้งสองชนิดติดต่อมาสู่คนได้ต้องอาศัยยุงเป็นพาหะ ยุงที่เป็นพาหะสำคัญคือยุงลาย ซึ่งชอบหากินในเวลากลางวันโดยการกัดและดูดเลือด ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เกิดจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อดังกล่าวกัด โรคไข้เลือดออกมักพบเป็นในเด็กอายุตั้งแต่2ปีถึง14ปี ช่วงอายุอื่นอาจพบได้บ้างแต่ค่อนข้างน้อย โรคนี้มักจะระบาดมากในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่มีฝนตกชุก มีแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงเพิ่มขึ้น นอกจากช่วงเวลาดังกล่าวแล้วโรคนี้ยังพบได้ประปรายทุกเดือน
ลักษณะอาการของโรค
สามารถแบ่งระยะของโรคไข้เลือดออกได้เป็น3 ระยะคือ
1. ระยะไข้สูง อาการของโรคเริ่มจากเด็กจะมีไข้สูงประมาณ 39-40 องศาเซลเซียส เมื่อให้กินยาลดไข้ ไข้มักจะไม่ลดลง เด็กมักมีหน้าแดงๆ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก บางรายอาจมีอาการอาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ มีจุดเลือดออกเล็กๆตามผิวหนัง อาการไข้ส่วนใหญ่มักเป็นอยู่ประมาณ3-5 วัน จากนั้นไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว
2. ระยะช็อกหรือระยะเลือดออก หลังจากไข้ลดจะมีอาการอาเจียน กินอาหารและดื่มน้ำไม่ได้ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวาเนื่องจากตับโตขึ้น ซึมลง กระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเบาเร็ว ปัสสาวะน้อยลง บางรายอาจมีอาการเลือดออกผิดปกติ เช่น อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำหรือถ่ายเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง รายที่อาการรุนแรงมาก อาจคลำชีพจรและวัดความดันโลหิตไม่ได้ ถ้าได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที เด็กอาจเสียชีวิตได้ ระยะนี้จะกินเวลา24-28ชั่วโมง นับจากไข้เริ่มลดลงมาปกติ ถ้าสามารถประคับประคองให้เด็กผ่านระยะนี้ไปได้ เด็กจะพ้นอันตรายและเข้าสู่ระยะที่3
3. ระยะฟื้นตัว ระยะนี้อาการของเด็กโดยทั่วไปจะดีขึ้น สังเกตได้จากเด็กจะเริ่มทานอาหารได้ ไม่อาเจียน อาการปวดท้องเริ่มลดลงเนื่องจากตับที่โตค่อยๆ เล็กลง เด็กจะดูสดชื่นขึ้น และจะหายปกติในที่สุด
เด็กที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกไม่จำเป็นต้องมีอาการรุนแรงเสมอไป มีเพียงส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงดังกล่าวข้างต้น ซึ่งต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่แล้วมักมีอาการไม่รุนแรง เด็กพวกนี้หลังจากมีอาการไข้สูงอยู่3-5 วัน พอไข้ลดลงอาการทั่วไปก็จะดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติใน1-2 วัน
การรักษาไข้เลือดออก
-ไม่มียาเฉพาะ รักษาตามอาการ พยายามให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ หรือน้ำเกลือแร่ ถ้ามีความสงสัย ว่าไข้ยังสูง มีตัวแดง เกิดในหน้าฝน ต้องรีบนำไปเทสต์ทันที
-ห้ามให้เด็กรับประทานยา แอสไพริน หรือยาแก้อักเสบอื่น ๆ เพราะอาจทำให้เลือดออกในกระเพาะได้ ถ้าไข้ไม่ลง ให้เช็ดตัว และให้พาราเซตามอล ในกรณีที่ไข้ไม่ยอมลง ให้หมั่นเช็ดตัว อย่าให้พาราเซตามอลเกินขนาด
การป้องกันไข้เลือดออก
1. ระวังไม่ให้ถูกยุงกัด โดยให้เด็กนอนในห้องที่มีมุ้งลวด หรือมีมุ้งครอบตัวเด็ก
2. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ควรปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่หรืออาจใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะใส่น้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำก็ได้
3. เด็กที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกในระยะ5 วันแรกของโรค(ซึ่งเป็นระยะที่มีเชื้อไวรัสอยู่ในกระแสเลือด) ไม่ควรให้ถูกยุงกัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
4. วัคซีนป้องกันโรคขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัยไม่มีใช้ในปัจจุบัน
แหล่งที่มา : tinyzone.tv