อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร อาการแพ้ท้อง เริ่มเมื่อไหร่ อาการแพ้ท้องเพราะกินยากันแท้ง
ว่าที่คุณแม่เตรียมรับมือกับ อาการแพ้ท้อง
แนะกินขบเคี้ยวไม่หวาน และเน้นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต
อาการแพ้ท้องมักเกิดในระยะแรกของการตั้งครรภ์ บางท่านอาจจะเกิดอาการบางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่พอเข้าสู่ไตรมาสสองอาการแพ้ท้องก็จะหายไป แต่ทั้งนี้การแพ้ท้องของแต่คนก็จะมีระยะเวลาและอาการที่แตกต่างกันออกไป แล้วอาการแพ้ท้องนั้นเกิดจากอะไร จะมีผลต่อตัวคุณแม่หรือลูกหรือไม่ อย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันแก้ไขได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องกันค่ะ...
อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร
เชื่อกันว่าอาการแพ้ท้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เอสโตรเจน" (Estrogen) ที่เพิ่มสูงขึ้น และประสาทรับกลิ่นมีความไวมากขึ้น แม้แต่สภาพอารมณ์หรือระดับความเครียดก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้เช่นกัน ดังนั้น คุณแม่จึงควรหาเวลาผ่อนคลายความเครียดให้มากๆ ถึงแม้ว่าอาการแพ้ท้องอาจทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวล แต่หากคุณสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ อาการแพ้ท้องก็จะไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยของคุณอย่างแน่นอน แต่หากคุณไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้เลยหรือรู้สึกเบื่ออาหารทุกชนิด ควรปรึกษาสูติแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ของคุณพวกเขาสามารถช่วยคุณได้แน่นอน
อาการแพ้ท้องจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานเท่าใด
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้ท้องจะหมดไปในช่วงเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเกิดขึ้นได้อีกตลอดช่วงตั้งครรภ์ เพียงแค่ได้กลิ่นบางอย่างที่ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน และแน่นอนว่ากลิ่นที่ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน
มีวิธีการรักษาอาการแพ้ท้องให้หายขาดหรือไม่
วิธีการรักษาอาการแพ้ท้องที่ใช้ได้ผลมี ดังนี้
- รับประทานของขบเคี้ยวง่ายๆ และไม่หวานมากทันทีที่คุณตื่นนอน เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบจะช่วยได้อย่างมาก จากนั้น ให้นอนพักอีก 20-30 นาที ก่อนลุกออกจากเตียง
- ในช่วงที่เหลือระหว่างวัน พยายามรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานบ่อยๆ ทานอะไรสักหน่อย ดีกว่าไม่ได้ทานอะไรเลยหรือซื้อของขบเคี้ยวมาเก็บไว้ เช่น ขนมปังกรอบหรือโยเกิร์ตไว้รับประทานเวลาหิว
- อาหารที่มีโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรตสูงสามารถช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ เพราะฉะนั้น พยายามรับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้ร่วมกัน เช่น รับประทานไข่สุกกับขนมปังปิ้ง
- ดื่มน้ำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเปล่า น้ำผลไม้ นม ชาผลไม้ น้ำอะไรก็ตามที่คุณสามารถดื่มได้ น้ำขิงหรือชาขิงจะช่วยให้อาการคลื่นไส้อาเจียนลดลงและทำให้หายจากอาการแพ้ท้องได้ ที่สำคัญ อย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายเพื่อกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การพูดคุยกับว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ ที่มีอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกันก็สามารถช่วยผ่อนคลายได้
เมื่อไรควรรีบไปโรงพยาบาลจากอาการแพ้ท้อง
- เมื่อปัสสาวะออกน้อย (<500 ซซ./วัน หรือ 20 ซซ./ชม.) และมีสีเหลืองเข้ม
- ดื่มน้ำไม่ได้เลยทั้งวัน
- มีอาการหน้ามืดเมื่อลุกขึ้นยืน
- อาการใจสั่น เต้นแรงมาก
- อาเจียนมีเลือดปนออกมา แสดงว่ามีอาการแพ้ท้องมากเกิน เข้าเขตอันตรายแล้ว
แหล่งที่มา : thaihealth.or.th , มายเฟิร์สเบรน