มะเร็งตับ อาการมะเร็งตับ มะเร็งตับระยะสุดท้าย


1,703 ผู้ชม


มะเร็งตับ อาการมะเร็งตับ มะเร็งตับระยะสุดท้าย

มะเร็งตับ

      
    รอบรู้เรื่องมะเร็งในวันนี้จะกล่าวถึงโรคมะเร็งที่รุนแรงชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของมะเร็งในผู้ชายไทยด้วยค่ะ นั่นก็คือมะเร็งตับ ...
 

มะเร็งตับ

มะเร็งตับ พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง 2 เท่าขึ้นไปค่ะ โรคมะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ โรคมะเร็งของเซลล์ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งโรคมะเร็งท่อน้ำดี พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือค่ะ การรักษาโรคมะเร็งตับยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร มีอัตราการรอดชีวิตต่ำมาก

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ มีดังนี้ค่ะ

  1. การเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังหรือตับแข็งจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี โรคตับจากพิษสุรา เป็นต้น
  2. สารพิษอัลฟลาทอกซิน ซึ่งเกิดจากเชื้อราบางชนิด พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการทำให้เกิดโรคมะเร็งตับในประเทศจีนและอาฟริกา

ส่วนมะเร็งท่อน้ำดี ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดมะเร็งท่อน้ำดี คือการมีพยาธิใบไม้ในตับโดยเฉพาะในภาคอิสานค่ะ จากพฤติกรรมการกินอาหารดิบ ๆ ทำให้ประชากรมีพยาธิใบไม้ในตับมาก จึงมีอัตราการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีสูงกว่าภาคอื่น ๆ

อาการของมะเร็งตับ ในระยะเริ่มต้นมักจะไม่มีอาการค่ะ ส่วนใหญ่มาด้วยอาการ แน่นท้อง ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา อ่อนเพลีย น้ำหนักลด อาจคลำได้ก้อนในท้องบริเวณชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ หรือท้องโตเนื่องจากมีน้ำในท้อง, ขาบวม, มีไข้, ตัวเหลือง, ตาเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคมะเร็งท่อน้ำดีค่ะ

การวินิจฉัยมะเร็งตับจะวินิจฉัยด้วยวิธี

  1. การตรวจเลือดหาระดับแอลฟาฟีโตโปรตีน การตรวจตับโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก
  2. การเจาะเอาเนื้อตับมาตรวจเพื่อวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดค่ะ

สำหรับมะเร็งท่อน้ำดีจะวินิจฉัยด้วย การตรวจตับโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก การตรวจโดยการส่องกล้องและฉีดสีดูท่อน้ำดี และเอาชิ้นเนื้อจากท่อน้ำดีมาตรวจค่ะ

การรักษามะเร็งตับ โดยการผ่าตัดในกรณีที่โรคสามารถรักษาให้หายโดยการผ่าตัดได้ ในกรณีที่ไม่สามารถจะผ่าตัดได้ ก็รักษาโดยการฉีดยาเข้าก้อนมะเร็งโดยตรงในมะเร็งที่มีขนาดเล็กหรือการฉีดยาเคมีบำบัดและสารอุดตันเข้าเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็งตับในกรณีที่มะเร็งมีขนาดใหญ่ ส่วนการใช้ยาเคมีบำบัดนั้นใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีอื่นข้างต้นได้ค่ะ

ส่วนมะเร็งท่อน้ำดี แพทย์จะให้การรักษา โดยการผ่าตัดในกรณีที่โรคสามารถรักษาให้หายโดยการผ่าตัดได้ค่ะ นอกจากนี้คือการวางท่อระบายน้ำดีโดยการส่องกล้อง หรือโดยทางเอกซ์เรย์เพื่อบรรเทาอาการเหลืองหรือไข้เนื่องจากการติดเชื้อในทางเดินน้ำดีในกรณีที่ผ่าตัดไม่ได้ค่ะ

การป้องกันมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี มีวิธีดังนี้

  1. ให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบ ชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน
  2. ป้องกันการติดพยาธิใบไม้ในตับโดยปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ และรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ
  3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ได้แก่ อาหารที่มีราขึ้นชึ่งอาจจะลดความเสี่ยงลงได้ค่ะ
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มสุราจำนวนมากเป็นประจำและงดการสูบบุหรี่
  5. ผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรังควรได้รับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอเพื่อสามารถจะรักษาโรคได้ในระยะต้นที่ยังไม่แสดงอาการ


แหล่งที่มา : 108health.com

อัพเดทล่าสุด