น้ำผึ้งแก้ไอ วิธีรักษาแผลสด การรักษาแผลสด
น้ำผึ้งแก้ไอ รักษาแผลสด
ถาม : ธวัชวงศ์/เชียงใหม่
ผมสงสัยสรรพคุณและวิธีการ นำน้ำผึ้งมาใช้แก้ไอ เพราะเพื่อนแนะนำให้บีบน้ำมะนาวลงไปแล้วจิบแก้ไอได้เลย ๒ สัปดาห์ที่แล้ว ดูโทรทัศน์คอลัมน์สุขภาพพูดถึงการใช้น้ำผึ้งรักษาแผล อยากทราบว่านำมาใช้อย่างไรถึงจะได้ผลและปลอดภัย
ตอบ : นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ
น้ำ ผึ้งมีขายในท้องตลาดหลายยี่ห้อ เช่น น้ำผึ้งจากเกสรลำไย เกสรลิ้นจี่ ดอกทานตะวัน ดอกสาบเสือ เป็นต้น ในแต่ละชนิดสีสันแตกต่างกันไป ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งที่ผสมน้ำตาลทราย เพราะน้ำผึ้งปลอมใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ไม่ได้
๑. น้ำผึ้งแก้ไอ
ผสม น้ำผึ้ง ๓-๔ ส่วน กับน้ำมะนาว ๑ ส่วน ควรเคี่ยวน้ำผึ้งบนเตาไฟให้เดือดก่อน เมื่อปล่อยให้เย็นแล้วค่อยเติมน้ำมะนาวลงไป สามารถเก็บใส่ขวด แบ่งจิบแก้ไอได้บ่อยๆ เหมาะสำหรับคนทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก และผู้ที่มีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย นอกจากใช้แก้ไอแล้ว ยังให้พลังงานแก่ร่างกายแทนข้าวได้อีกด้วย
๒. รักษาแผล ทั้งแผลสด และแผลเปื่อย (เรื้อรัง)
ทำ แผลให้สะอาด เช่น ถ้าเป็นแผลสด หากมีดินทรายเปรอะเปื้อน แรกสุดให้ฟอกล้างด้วยน้ำกับสบู่ เอาเศษดินทรายออกเสียก่อน ใช้สำลีหรือผ้าก๊อซเช็ดแผลให้แห้ง แล้ว ใช้น้ำผึ้งทาลงบนเนื้อแผล ปิดด้วยผ้าก๊อซ วันต่อไปเปิดทำแผลรอบใหม่ ให้ใช้น้ำเกลือหรือน้ำสุกชะเนื้อแผล (ไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ โพวิโดนไอโอดีน ชะถูกเนื้อแผล แต่อนุโลมให้ชะบนผิวหนังรอบๆ แผลได้ ทั้งนี้ เพราะน้ำยาเหล่านี้จะทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อในแผล อาจทำให้แผลหายช้าได้) แล้วใช้น้ำผึ้งทาบนเนื้อแผล แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซ ทำแผล วันละ ๑-๒ ครั้ง จะสังเกตว่าเนื้อแผลแดง ไม่มีหนองหรือการติดเชื้อ และเซลล์ผิวหนังจะงอกจากขอบแผล เข้ามาปกคลุมเนื้อแผลในเวลาไม่กี่วัน สำหรับแผลเปื่อย หรือมีคราบหนอง เช่น แผลเบาหวาน แผลจากแรงกดทับ แผลเรื้อรังอื่นๆ การทำแผลควรหาทางเอาคราบหนองออกเสียก่อน เช่น ใช้ไม้พันสำลี หรือ ผ้าก๊อซ ชุบน้ำเกลือหรือน้ำสุก ขูดหรือเขี่ยเอาคราบหนองออก แล้วทาแผลด้วยน้ำผึ้งให้ชุ่ม แล้วใช้ผ้าก๊อซปิด ในระยะแรกควรทำแผลวันละ ๒ ครั้ง เมื่อเนื้อแผลเริ่มแดงและแห้งดีจึงค่อยลดเหลือ ๑ ครั้ง เมื่อแผลสะอาด (ไม่มีคราบหนอง เนื้อแผลแดง หรือมีเลือดซิบ) ก็จะมีเซลล์ผิวหนังงอกจากขอบแผล ค่อยๆ เข้ามาปกคลุมเนื้อแผล เหตุผลที่น้ำผึ้งมีสรรพคุณสมานแผลได้ดี ก็เนื่องมาจากความเข้มข้นของน้ำผึ้งจะทำให้เชื้อโรคฝ่อตาย ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า สิ่งที่มีความเข้มข้นกว่า (เช่น น้ำผึ้ง) จะดูดสารน้ำจากสิ่งที่เข้มข้นน้อยกว่า (เช่น เชื้อโรค) ดังที่ภาษาหมอเรียกว่า "osmotic pressure"
เรื่องนี้แพทย์แห่งคณะ แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เคยทำวิจัยพิสูจน์ว่าสามารถใช้น้ำผึ้งรักษาแผลผ่าตัดหน้าท้องได้ผลดีเป็น อย่างยิ่ง หากไม่สามารถหาน้ำผึ้งหรือต้องการประหยัด ก็สามารถใช้น้ำเชื่อมเข้มข้นแทนได้ ซึ่งก็เคยมีงานวิจัยยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วเช่นกัน ทั้งนี้โดยใช้น้ำตาลทราย ๑ กิโลกรัม ผสมน้ำ ๑ ลิตร เคี่ยวบนเตาไฟ จนเป็นน้ำเชื่อมเข้มข้น ใส่ขวดเก็บในตู้เย็น เมื่อต้องการก็นำออกมาใช้เป็นครั้งคราว ก็นับว่าสะดวกและราคาถูกดี
แหล่งที่มา : blog.eduzones.com , doctor.or.th