อาการแพ้ท้องเบื้องต้น อาการแพ้ท้องลูกแฝด กินยาแก้อาการแพ้ท้องที่ไม่เปนอันตรายกับเด็กในครรภ์
ตอนท้อง แพ้ท้องมากไหมครับ
เช้าวันนี้ คุณเด่น เพื่อนสามี MSN มาถามแต่เช้าค่ะ ภรรยาคนสวยกำลังมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก แพรก็เลยมีโอกาสได้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก่อนจะมาเขียนบันทึกในนี้ ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า ถามได้ถูกคนมากๆ
เพราะตอนนี้แพรท้องลูกคนที่ 2 ได้ 4 เดือน 16 สัปดาห์แล้วค่ะ เพิ่งจะผ่านช่วงวิกฤติมาไม่กี่วันค่ะ นับเป็นวิกฤติชีวิตอีกครั้งหนึ่งอย่างมากเลยค่ะ เพราะแพ้ท้องมากๆ ถึงมากที่สุด (แบบไม่อยากมีลูกอีกเลย) ก็เลยสามารถแชร์ประสบการณ์สดๆ ร้อนๆให้ฟังได้สบายๆค่ะ แพรจะขอแนะนำวิธีการดูแลรักษาตัวเองแบบง่ายๆ ตอนแพ้ท้องนะคะ
อาการแพ้ท้องของแพรนะคะ
คราวนี้อาการแพ้ท้องต่างจากครั้งที่แล้วนิดหน่อยค่ะ อาการหลักๆของแพรจะง่วงนอน อ่อนเพลีย เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ขี้เกียจ ผมร่วง แปลกไหมค่ะ ปกติ คนอื่นผมจะร่วงหลังคลอด แต่แพรร่วงตั้งแต่เริ่มท้องเลยค่ะ ขนาดยังไม่ทันรู้ว่าท้องนะคะ พอผมร่วงผิดปกติก็เริ่มสงสัยแล้วค่ะ ว่าฮอร์โมนมันเปลี่ยนไปต้องมีอะไรแน่ๆ สงสัยแต่ไม่แน่ใจค่ะ (เพราะท้องแรกผมยังไม่ร่วงแบบนี้ค่ะ) ผมร่วงมากๆ ดีนะคะที่เป็นคนผมหนา เลยไม่มีผลอะไรค่ะเท่าไหร แต่ก็ตัดสินใจตัดผมสั้นค่ะ สบายหัวและไม่ต้องดูแลมากค่ะ เพราะแพ้ท้องมากไม่มีแรงอาบน้ำ สระผมเลยค่ะ
เวียนหัว ไม่มีแรงยังไม่เท่าไรนะคะ แต่ของแพรนี่เหม็นไปซะทุกอย่าง จมูกจะไวต่อกลิ่นมาก สบู่ ยาสระผม ครีมทาผิวที่หอมๆเคยใช้อยู่ตลอด เหม็นมากค่ะ ใช้ไม่ได้ ยิ่งได้กลิ่น ยิ่งเวียนหัว ยิ่งอาเจียน เหม็นอาหาร เหม็นทุกอย่างจริงๆค่ะ ขนาดยาลม ยาดม ยาหม่องแพรยังเหม็นเลย ไม่ดมก็เวียนหัว หน้ามืด (เฮ้อ..ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตเลยค่ะ) ต้องเอาวิกซ์ของลูกสาวมาดมให้ชื่นใจ นอกจากนั้นแพรยังเหม็นคุณต้น สามีของแพรด้วยค่ะ ต้องขอให้เค้าอยู่ห่างๆ หน่อย แล้วยังเหม็นตัวเองด้วยค่ะ อาการเหม็นแบบนี้เป็นตั้งแต่ท้องแรกแล้วค่ะ ตอนนั้นรู้สึกเลยว่า ที่เทวดาเค้าบอกว่า เค้าไม่อยากอยู่ใกล้มนุษย์เพราะมนุษย์ตัวเหม็น รู้สึกเลยค่ะว่ามนุษย์ตัวเหม็นยังไง ถึงมนุษย์จะอาบน้ำ ถูสบู่ฉีดน้ำหอมยังไง ก็ยังเหม็นอยู่ค่ะ
แพรอาเจียนมากๆค่ะ ถึงมากที่สุด อาเจียนจนฉี่ราดเลยค่ะ ไม่มีแรงจะคิด จะทำอะไรเลยค่ะ เวลานอนก็อาเจียน และอาเจียนไม่เลือกเวลาด้วย จะอาเจียนมากตอนเช้ากับตอนเย็นค่ะ เวลาแปรงฟันนะคะ ไม่อยากแปรงเลย เพราะแปรงฟันไปอาเจียนไป ทรมานจริงๆ ยิ่งถ้าไม่มีอาหารอยู่ในท้อง มันก็จะบีบเค้นเอาเอาน้ำกรดกับน้ำดีในกระเพาะออกมา ยิ่งทรมานหนักค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีการที่ดี คือ ต้องมีอาหารอยู่ในท้องบ้าง อย่าให้ท้องว่าง เพราะเราห้ามอาเจียนไม่ได้ เราก็ต้องปล่อยให้มันอาเจียนออกไปค่ะ ตอนอาเจียนมีอาหารออกเราก็ไม่ทรมานเท่าไหรค่ะ
อย่าลืมนะคะ ช่วงนี้คุณแม่คนใหม่ต้องปรับเรื่องอาหารการกินค่ะ กินน้อยๆ แต่กินบ่อยๆ แบ่งเป็นมื้อเล็กๆค่ะ กินอะไรก็ได้ค่ะที่อยากกินและมีประโยชน์ อาจจะยากหน่อยนะคะ เพราะช่วงนี้จะไม่อยากกินเลย เพราะยิ่งกิน ยิ่งอาเจียน แต่ถ้าไม่กินก็ยังอาเจียนอยู่ดีนั้นแหละ เพราะงั้นก็กินๆไปเถอะค่ะ หาอาหารร้อนๆ อาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม ประเภทต่างๆ ทานรองท้องก็ดีเหมือนกันนะคะ อาหารเผ็ดทานได้นะคะ ถ้าไม่รู้สึกทรมานมากขึ้นเวลาอาเจียนออกมา เพราะช่วงนี้นะคะ อาหารทุกอย่าง รวมทั้งน้ำด้วยนะคะ ที่เราทานเข้าไป มันจะออกมา 1 ส่วน 4 หรือ 2 ส่วน 4 หรือ 3 ส่วน 4 หรือทั้งหมดเลย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงในการแพ้ท้องค่ะ ทานอะไรไปก็จะอาเจียนสิ่งนั้นออกมา ถ้าทานอาหารเผ็ดนะคะ ความเผ็ดจะบวกกับความเปรี้ยวของกรดและความขมของน้ำดี คุณแม่จะได้รสชาติทรมานเพิ่มขึ้น รู้งี้ก็อย่าตามใจปากเราหรือตามใจปากคนอื่น คิดก่อนกินสักนิด จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
ท้องอืดค่ะ อืดมาก แล้วจะรู้เลยค่ะว่าทรมานแค่ไหน คุณแม่ต้องเลี่ยงอาหารมันนะคะ เลี่ยงนมทุกชนิด อย่าเพิ่งบำรุงด้วยนมค่ะ เพราะว่าจะเพิ่มความทรมานจากอาการท้องอืดให้มีมากขึ้น มันอืดซะจน สุดท้ายต้องอาเจียนเอาอาหารออกถึงจะรู้สึกดีขึ้น แบ่งอาหารทานทีละน้อยจะช่วยได้นะคะ หรือถ้าหาน้ำขิงมาทานได้ยิ่งดีค่ะ ควรจะเป็นน้ำขิงแบบต้มนะคะ ซื้อที่ร้านขายเต้าฮวยก็ได้ค่ะ จะดีกว่าน้ำขิงแบบฉีกซองแล้วชงค่ะ
ท่านอนของคุณแม่ที่จะช่วยให้อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว บรรเทาขึ้น คือ นอนหมอนสูงค่ะ แพรต้องเอาหมอนมา 2 -3 ใบหนุนหัวนอน นอนหัวสูงไว้นะคะช่วงนี้ ปรับตัวให้นอนเอนๆ และนอนตะแคงไว้นะคะ หาหมอนข้างมากอด รองขาไว้ด้วยค่ะ จะช่วยให้สบายจากอาการแพ้ท้องนี้
แพรมีวิธีการแก้ไขอาการแพ้ท้องที่ดีที่สุดค่ะ คือ ดื่มน้ำมะพร้าว กินทั้งเนื้อและน้ำค่ะ มะพร้าวสดนะคะ ไม่ใช่มะพร้าวเผานะคะ
วิธีนี้ได้มาจากคำแนะนำของหลวงพ่อวีระนนท์ วัดป่าเจริญราชค่ะ https://www.veeranon.com/
วันนั้นเข้าไปทำบุญที่วัดและตั้งใจจะขอน้ำมนต์ของหลวงพ่อไปดื่มเพื่อความเป็นสิริมงคลและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง (ปกติจะขอน้ำมนต์ไปให้น้องพริมดื่มรักษาโรค รักษาสุขภาพอยู่แล้วค่ะ) ก็เตรียมขวดน้ำไปให้หลวงพ่อท่านช่วยอธิษฐานจิตให้ แต่วันนั้นคนเยอะแพรแพ้ท้องมากเข้าไม่ไหว เลยขอให้คุณต้น (สามี) ช่วยไปขอให้ที และถามหลวงพ่อให้ด้วยถึงวิธีการดูแลตนเองด้วย
หลวงพ่อท่านเป็นพระที่เก่งทางด้านรักษาโรคด้วยสมุนไพร และเก่งทางด้านวิปัสสนากรรมฐานค่ะ ท่านก็แนะนำให้ดื่มน้ำมะพร้าว กินทั้งเนื้อและน้ำค่ะ จะช่วยรักษาอาการแพ้ท้องได้ แพรกลับมาก็ทำตามค่ะ ช่วยได้จริงๆค่ะ กินน้ำมะพร้าวแทนยาแก้แพ้ท้องได้เลยค่ะ
พอแพรทานน้ำมะพร้าว เพื่อนๆพี่ๆที่รู้ก็แสดงความห่วงใย คอยเตือนว่า น้ำมะพร้าวกินตอนท้องอ่อนๆไม่ดี มันอาจจะแท้งได้ เค้าจะแนะนำให้กินตอนท้องแก่ๆ ค่ะ แพรศรัทธาและเชื่อหลวงพ่อมากกว่าค่ะก็เลยดื่มมะพร้าวต่อไป
ตอนนี้แพรกับลูกก็สบายดีค่ะ น้องในท้อง 4 เดือนแล้วค่ะ อาการแพ้ท้องก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ จมูกไม่ไวมาก ไม่ค่อยเหม็นแล้ว อาเจียนน้อยลงค่ะ กินข้าวได้แล้ว น้ำหนักขึ้นเลยค่ะ 555
คือ จริงๆแล้ว อาการแพ้ท้องทั้งหลาย สามารถหายาแผนปัจจุบันมาทานเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าเรากินอะไรไป ลูกเราก็จะได้กินไปด้วย แล้วถ้าคิดแต่จะกินยาตลอด ไม่ห่วงลูกบ้างหรือค่ะว่าจะเมายาตั้งแต่อยู่ในท้อง ยาบางตัวก็มีผลต่อเด็กนะคะ กินน้ำมะพร้าวดีกว่าค่ะ ดีต่อสุขภาพทั้งแม่และเด็กค่ะ
คนอื่นเค้าแพ้ท้องกัน อาจจะอยากทานอาหารแปลกๆ กินมะม่วง กินของเปรี้ยว แต่ตอนแพรแพ้นะคะ แพรไม่อยากกินอะไรพวกนี้เลยค่ะ ถ้าไม่เหม็นก็อาเจียนจนไม่อยากกินอะไรเลยค่ะ คนที่กินมะม่วงนะคะ คือ สามีค่ะ แบบว่าอยากเอาใจภรรยา จะหามะม่วงเปรี้ยวมาปอกให้กิน แต่ภรรยากินไม่ได้ เพราะอาเจียนบ่อย ตัวเองก็กินแทน กินเอาๆ แพรแย่งไม่ทันเลยแบบแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ 555 พอมาอยู่ที่ทำงาน น้องพรเลขาศูนย์พัฒนาก็กินมะม่วงแทนแพรค่ะ กินแบบว่าแพรเห็นแล้วยังน้ำลายสอ อยากกินมะม่วงด้วยค่ะ เห็นไหมค่ะ มีแต่คนแพ้แทน 555
ช่วงนี้นะคะหน้าตาเราอาจจะดูไม่ดีเท่าไร (ทั้งๆที่ปกติเป็นคนหน้าตาดี... อิ อิ) ความสวยอาจจะลดลงบ้าง โดยเฉพาะแพรนะคะรู้สึกเหมือนกลับไปสู่ช่วงวัยรุ่นอีกครั้ง เพราะว่า สิวขึ้นหน้าค่ะ มาเป็นผดผื่นบ้าง หรือมาเป็นสิวอักเสบเลยค่ะ ยิ่งเห็นยิ่งเครียดค่ะ 555 มันเป็นอาการแพ้ท้องที่มีมากขึ้นเป็นปกติค่ะ อาจจะมากน้อยต่างกันบ้าง มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ค่ะ เป็นเรื่องธรรมชาติของการตั้งครรภ์ แต่ของเราอาจจะธรรมชาติลงโทษหนักหน่อยเลยแพ้เยอะ 555 ไม่ต้องเครียดนะคะ ทำใจให้สบายๆ กระจกอย่าไปส่องบ่อยค่ะ เพราะจะยิ่งเครียด ช่วงนี้แพรก็ปล่อยๆหน้าให้พักบ้างค่ะ ไม่แต่งหน้า ไม่ทาครีม ธรรมชาติจริงๆค่ะ อาจจะดูโทรมไปบ้างก็ไม่เป็นไร พวกเราคุณแม่คนใหม่สวยจากข้างในอยู่แล้วค่ะ จริงไหมค่ะ (อิ อิ)
คุณแม่กับคุณพ่อคนใหม่ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณหมอหลายท่านจะให้กำลังใจว่า ยิ่งแม่แพ้มาก ลูกยิ่งแข็งแรงค่ะ ยิ่งแพ้มาก ยิ่งแท้งยากค่ะ ฟังแบบนี้สบายใจขึ้นบ้างไหมค่ะ
แพรค้นข้อมูลบางส่วนมาเล่าให้ฟังบางส่วนค่ะ
อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร
เชื่อกันว่าอาการแพ้ท้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เอสโตรเจน" ( Estrogen) ที่เพิ่มสูงขึ้น และประสาทรับกลิ่นมีความไวมากขึ้น แม้แต่สภาพอารมณ์หรือระดับความเครียดก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้เช่นกัน ดังนั้นคุณแม่จึงควรหาเวลาผ่อนคลายความเครียดให้มากๆ ถึงแม้ว่าอาการแพ้ท้องอาจทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวล แต่หากคุณสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ อาการแพ้ท้องก็จะไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยของคุณอย่างแน่นอน แต่หากคุณไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้เลยหรือรู้สึกเบื่ออาหารทุกชนิด ควรปรึกษาสูติแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ของคุณพวกเขาสามารถช่วยคุณได้แน่นอน
อาการแพ้ท้องจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานเท่าใด
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้ท้อง จะหมดไปในช่วงเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเกิดขึ้นได้อีกตลอดช่วงตั้งครรภ์ เพียงแค่ได้กลิ่นบางอย่างที่ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน และแน่นอนว่ากลิ่นที่ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน
มีวิธีการรักษาอาการแพ้ท้องให้หายขาดหรือไม่
วิธีการรักษาอาการแพ้ท้องที่ใช้ได้ผลมี ดังนี้
- รับประทานของขบเคี้ยวง่ายๆ และไม่หวานมากทันทีที่คุณตื่นนอน เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบจะช่วยได้อย่างมาก จากนั้น ให้นอนพักอีก 20-30 นาที ก่อนลุกออกจากเตียง
- ในช่วงที่เหลือระหว่างวัน พยายามรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานบ่อยๆ ทานอะไรสักหน่อย ดีกว่าไม่ได้ทานอะไรเลยหรือซื้อของขบเคี้ยวมาเก็บไว้ เช่น ขนมปังกรอบหรือโยเกิร์ตไว้รับประทานเวลาหิว
- อาหารที่มีโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรตสูงสามารถช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ เพราะฉะนั้น พยายามรับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้ร่วมกัน เช่น รับประทานไข่สุกกับขนมปังปิ้ง
- ดื่มน้ำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเปล่า น้ำผลไม้ นม ชาผลไม้ น้ำอะไรก็ตามที่คุณสามารถดื่มได้ น้ำขิงหรือชาขิงจะช่วยให้อาการคลื่นไส้อาเจียนลดลงและทำให้หายจากอาการแพ้ท้องได้ ที่สำคัญ อย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายเพื่อกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การพูดคุยกับว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ ที่มีอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกันก็สามารถช่วยผ่อนคลายได้
แหล่งที่มา : gotoknow.org