อาการคนท้อง 1 สัปดาห์ อาการคนท้องเบื้องต้น อาการคนท้อง 1 อาทิตย์


2,856 ผู้ชม


อาการคนท้อง 1 สัปดาห์ อาการคนท้องเบื้องต้น อาการคนท้อง 1 อาทิตย์

 


สัญญาณบอกว่า คุณกำลังตั้งครรภ์

บางครั้งฟังดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไม่น่าจะต้องถาม ก็รอบเดือนขาด แพ้ท้องอะไรประมาณนี้ บางคนก็ว่าอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้ว เรื่องการตั้งครรภ์ บางทีก็ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ส่วนไม่ธรรมดายังไงก็ลองดูค่ะ อาการที่แสดงว่าตั้งครรภ์แน่นอน 1. ตรวจพบการเต้นของหัวใจทารก หัวใจของทารกสามารถเริ่มฟังได้ยินด้วยหูฟัง (ที่หมอคล้องคอ) เมื่อตั้งครรภ์ได้ 17 สัปดาห์ และเมื่อ 19 สัปดาห์ จะได้ยินทุกราย 2. การคลำด้วยมือ โดยหมอจะคลำหน้าท้อง จะรู้สึกได้ว่าเด็กดิ้นหรือพลิกตัว ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ 3. ตรวจพบภาพทารกโดยภาพรังสี ( x ray ) ตรวจได้หลัง 16 สัปดาห์ แต่เดี๋ยวนี้เลิกใช้แล้ว เพราะมีผลต่อทารกในครรภ์ 4. ตรวจพบภาพทารกโดย Ultrasound ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 5-6 สัปดาห์ จะเห็นถุงน้ำในโพรงมดลูก และจะเห็นตัวทารกเมื่อตั้งครรภ์ 6-7 สัปดาห์ การตรวจอัลตราซาวนด์ทางหน้าท้องจะพบได้ช้ากว่าตรวจทางช่องคลอด 1-2 สัปดาห์ อาการที่แสดงว่าน่าจะตั้งครรภ์ **หมายเหตุ ผู้หญิงแต่ละคนจะมีสัญญาณบ่งบอกที่แตกต่างกันไป คุณไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณบ่งบอกนี้ครบทุกข้อค่ะ 1. เต้านมและหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง หากคุณตั้งครรภ์ คุณจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเต้านมและหัวนม ซึ่งจะเปราะบาง อ่อนไหว และมีความรู้สึกได้ง่ายขึ้นในระยะสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ (หลังจากที่ประจำเดือนขาดประมาณ 1 สัปดาห์) หรืออาจเกิดอาการบวม--คล้ายๆ กับอาการก่อนเกิดประจำเดือนที่หน้าอกใหญ่ขึ้น 2. ประจำเดือนน้อยหรือกระปริดกระปอย หากคุณตั้งครรภ์ ประจำเดือนอาจจะมาน้อยในช่วงที่มีการฝังตัวของไข่ในมดลูก และจะเกิดขึ้นประมาณ 8-10 วัน ก่อนที่ประจำเดือนปกติจะมา คุณสามารถแยกแยะจากประจำเดือนปกติได้ หากประจำเดือนมาก่อนกำหนด หรือหากประจำเดือนกระปริดกระปอย สีชมพูอ่อน และไม่ได้มาตามขนาดปกติ (ซึ่งอาจจะมาเยอะ) 3. บริเวณรอบหัวนมคล้ำขึ้น ในการตั้งครรภ์ เมื่อถึงระยะเวลาที่รอบเดือนควรจะมา คุณจะสังเกตเห็นบริเวณรอบหัวนม(ที่เป็นวง)จะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้ทารกสามารถสังเกตเห็นหัวนมได้ง่ายขึ้นในการดูดนมมารดา และอาจจะยังสังเกตเห็นเส้นเลือดบริเวณรอบๆเต้านมชัดขึ้น ตุ่มที่บริเวณรอบหัวนมก็จะมีมากขึ้น อาจจะมากถึง 4-28 ในรอบหัวนมหนึ่งๆ 4.เหนื่อยง่ายขึ้น อาการเหนื่อยได้ง่ายนี้จะเกิดขึ้นในระยะ 8-10 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เมื่อคุณตั้งครรภ์กระบวนการเผาผลาญพลังงานจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับการปรับตัวเพื่อให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่ง โดยมากแล้วอาการนี้จะหายไปในสัปดาห์ที่ 12 ค่ะ 5. อาการแพ้ท้องและอาเจียน อาการนี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์แรกๆหลังจากตั้งครรภ์ ซึ่งจะเกิดอาการเวียนศรีษะ อาการนี้มักเป็นอาการที่เข้าใจผิดได้บ่อยๆว่าอาจจะไม่ใช่เกิดจากการตั้งครรภ์แต่เป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออะไรก็ตามแต่ อาการแพ้ท้องนี้เกิดได้ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน 6. ปัสสาวะบ่อยขึ้น ในระยะที่ประจำเดือนขาด 1 - 2 สัปดาห์คุณก็จะพบว่าคุณปัสสาวะบ่อยขึ้น บ่อยกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากทารกกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกและกดทับกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง 7. ท้องผูก คุณจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลำไส้ตั้งแต่แรกเริ่มตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์จะทำให้ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงและมีประสิทธิภาพน้อยลง 8. อุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น คุณอาจจะยังรู้สึกเป็นปกติดีตราบเท่าที่ระดับอุณหภูมิยังคงอยู่ในช่วงการประเมินการแม้จะผ่านช่วงเวลาของการมีประจำเดือนมาแล้ว และเมื่อคุณตั้งครรภ์ ไข่จะตกจากรังไข่ และใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการเดินทางไปถึงมดลูก ซึ่งจะเป็นการไปฝังตัว และในเวลานี้เองที่ร่างกายของคุณจะรู้ได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น 9. ประจำเดือนขาด และนี่อาจเป็นสัญญาณแรก โดยเฉพาะถ้าปกติประจำเดือนคุณมาสม่ำเสมอ เมื่อรวมกับสัญญาณอื่นๆแล้วคุณก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ แม้แต่ก่อนทำการตรวจด้วยซ้ำไป 10. ผลจากการทดสอบการตั้งครรภ์ แม้เพียงประจำเดือนขาดไป 1 วัน และคุณพร้อมที่จะรับรู้ความจริง ก็สามารถไปซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบเองได้ที่บ้าน การทดสอบจากปัสสาวะจะมีความแม่นยำมากขึ้นหากตรวจหลังจากปฎิสนธิได้ 10 - 14 วัน หากคุณไม่สามารถรอจนถึงกระทั่งช่วงที่ประจำเดือนขาด การตรวจเลือดจะมีความแม่นยำ ในช่วง 8 - 10 วันหลังจากปฎิสนธิ และคิดอยู่เสมอว่าไม่มีการทดสอบใดที่ได้ผลถูกต้อง 100% แม้แต่การตรวจเลือด หากคุณตรวจแล้วมีผลว่าไม่ตั้งครรภ์แต่คุณยังรู้สึกเหมือนกับว่าคุณตั้งครรภ์ ให้ตรวจอีกครั้งหลังจากนั้น 1 สัปดาห์

 


แหล่งที่มา : women.sanook.com

อัพเดทล่าสุด