อาการปวดหัวไมเกรน เป็นไมเกรน ทําไงดี ไมเกรน+วิธีรักษา


950 ผู้ชม


อาการปวดหัวไมเกรน เป็นไมเกรน ทําไงดี ไมเกรน+วิธีรักษา

อาการปวดหัวไมเกรน 

ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์ เรียบเรียงโดย ปุญโญ มีบรรจง

กรณีของผู้ที่เป็นไมเกรน นั้น ? หรือ ? ปวดหัวข้างเดียว แพทย์แผนตะวันตก ? ส่วนใหญ่นั้นจะระบุว่าเกิดจากสิ่งเร้าต่าง ? ๆ ? ทั้งภายนอกและภายในจำนวนมาก ? ซึ่งเป็นสาเหตุ ? เช่น ? อาหารบางชนิด ? ความร้อน ? ความเย็น ?? ช็อคโกแล็ต, ผงชูรส, เสียง ?? แสง ?? กลิ่น ? ฯลฯ ? แต่ไม่ว่าจะปวดหัวข้างเดียว ? หรือปวดแบบไหนก็ตาม ? ในการรักษาแนวธรรมชาติบำบัดนั้น ? สรุปได้ว่า ? 
เกิดจากสาเหตุหลายประการ

1. สมองถูกหล่อเลี้ยงด้วยของเสีย ?? ที่ร่างกายบริโภคเข้าไป ?

ซึ่งการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน ? กินอาหารที่เป็นโทษต่อร่างกาย ? เช่นอาหารย่อยยาก ? ไม่กินผัก ? หรือ ? กินน้อย ? อาหารแต่งสี ? แต่งกลิ่น ? แต่งรส ? ด้วยสารเคมี ?

อาหารเหล่านี้เมื่อทานเข้าไป ? เมื่อเข้าไปบูดเน่าในร่างกาย ? และถูกดูดซึมไป ? หล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ? ๆ ? โดยเฉพาะเซลล์ประสาทซึ่งมีอยู่เป็นจำนวน ?60 ล้าน ? ๆ ? เซลล์ซึ่งการหล่อเลี้ยงนี้เมื่อมีปริมาณมากขึ้นจนถึงปริมาณที่ร่างกายไม่สามารถ ? ทนได้ ? ก็จะแสดง "อาการปวด" ขึ้น ?

เพราะ "อาการปวด" นั้นเป็นสัญญาณขอ "ความช่วยเหลือ" ของร่างกายผ่าน ? การทำงานของเซลล์ประสาท ?

ซึ่งในทางตรงกันข้ามถ้าหาก " สมอง" ถูกหล่อเลี้ยงด้วยสารอาหารที่ดีมี ? ประโยชน์ ? เซลล์ประสาท ในสมองและเซลล์ทั่วร่างกายก็จะมีความ แข็งแรงไม่ว่าจะมีสิ่งเร้า ? มากระตุ้นเท่าไรก็จะทนได้ที่ระดับหนึ่ง ?

ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่า ?6 ? ปัจจัย ? หลักได้แก่ ? อาหาร ? อากาศ ? อารมณ์ ? อุจจาระ ? การนอนและการออกกำลัง 
ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นล้วนมีผลต่อการทำให้เกิดของเสียไปหล่อเลี้ยง ? เซลล์ได้ทั้งสิ้น
การรักษาด้วยสารอาหารอย่างเดียวคงไม่ได้ผลนัก ? จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ? ที่ต้องกำจัดต้นเหตุของโรคให้หมดทุกปัจจัย

2. สมองมีสารอาหารที่ดีไปเลี้ยงไม่ทันกับที่ใช้ไป กลุ่มผู้ที่มีสาเหตุของอาการป่วยกลุ่มนี้นั้น ? เรียกได้เป็นพวกที่ใช้สมอง ? ฟุ่มเฟือยคิดมาก ? แม้ปัญหาบางอย่างจะเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็ก ? ๆ ? แต่สำหรับ ? คนกลุ่มนี้กระจายความคิดไปทุกทิศทาง ? หรือเรียกว่าคิดมาก ? และมักเป็น ? ความคิด ? ในเชิงลบ ? ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยยอมรับ ? เรียกได้ว่าเป็นการคิดมาก ? โดยไม่รู้ตัว ? เพราะขณะที่กำลังใช้ความคิดเซลล์ประสาทในสมองจะถูกใช้งาน ? อย่าง ? ต่อเนื่องและไม่ได้พักและถ้าขบวนการเผาผลาญอาหารที่จะมาส่ง ? ให้เซลล์ประสาท ? เกิดไม่ทัน ? เซลล์ประสาทก็จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ? คือ ? อาการปวด ? และหากพบว่าสมองถูกหล่อเลี้ยงด้วยของเสีย ?? ข้อ ??? ร่วมด้วย ? ก็ยิ่งทำให้นำ ? ไปสู่การ ? ปวดที่ทรมานยิ่งขึ้นวิธีแก้นั่นก็คือ ? การหยุดคิด ? หยุดเครียด ? ให้สมอง ? ได้พักผ่อนบ้าง ?

เมื่อปฏิบัติทุกข้อตามที่ได้แนะนำแล้วนั้น ? อาการไมเกรนดังกล่าวจะดีขึ้น ? หรือหายไปเลย ? และถ้าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาก็ใช้วิธีการฝังเข็ม ? ร่วมด้วย ?

แต่ที่ผู้ป่วยบางท่านเมื่อไปรักษาด้วยการฝังเข็มแล้วไม่ได้ผลนั้น ? สาเหตุเป็นเพราะขณะที่ไปฝังเข็มนั้นร่างกายยังถูกหล่อเลี้ยงด้วยของเสียอยู่ ? เมื่อฝังเข็มร่างกายจะดูดซึมอาหารได้มากขึ้น ? แต่อาหารที่มีอยู่ในร่างกายเป็น ? อาหารขยะ ? 
ดังนั้นการเอาขยะไปหล่อเลี้ยงเซลล์สมองจึงรักษาไม่ได้ผล ? 
แต่ในทางที่ถูกต้องแล้วสามารถนำการฝังเข็มมาใช้ประโยชน์ในการรักษาได้แต่ต้อง ? ให้ร่างกายขับของเสียออกให้หมดก่อนแล้วให้สารอาหารที่ดีเข้าไปแทนแล้ว ? ค่อยฝังเข็ม "?กลไกการฝังเข็มจะทำให้ต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน" 
มาระงับ "อาการปวด"
ซึ่งจะทำให้การดูดซึมอาหารเป็นไปได้มากขึ้นเพราะในเมื่อร่างกายมีสารอาหารที่ดีด้วยแล้วการรักษาด้วยการฝังเข็มและโภชนบำบัดไปด้วยจะได้ผลดีกว่าการฝังเข็มอย่างเดียวแน่นอน

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยไมเกรน
- ดื่มน้ำผักปั่นวันละ 15 - 20 แก้ว 
- ควบคุมอาหารอย่างเคร่งตามสูตรชมรมบ้านสุขภาพและงดการบริโภคอาหารขยะ
- ดื่มนมธัญพืชวันละ 2 - 3 แก้ว
- ทานซุปผักแทนอาหารมื้อปกติ หรืออย่างน้อย อาทิตย์ละ 2-3 วัน 
- อาหารอื่นทานได้แต่ควรเป็นอาหารที่ปลอดสารพิษ

ทำสมาธิให้ได้ตลอดเวลา หลังจากทำสมาธิจนจิตนิ่งดีแล้ว ร่างกายจะหลั่ง ฮอร์โมนเอนโดฟิน ? ซึ่งเป็นยาแก้ปวดที่ดีที่สุด ?

ที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองการทำสมาธิไม่ได้หมายถึง?
" นั่งนิ่งหลับตาเท่านั้น? แต่หมายถึงว่าในทุกขณะจิตไม่ว่าจะ ทาน เดิน นั่ง นอน หรือทำอะไรก็ตามให้เฝ้าระวังจิตเมื่อรู้ทันจิตก็จะไม่คิดฟุ่มเฟือยเป็นการฝึกการใช้สมองอย่างถูกวิธี ? และยิ่งในขณะที่ปวดควรจะรวบรวมจิตใจปฏิบัติให้ได้
ควบคุมอารมณ์ไม่เครียด ไม่ให้มีอารมณ์ในเชิงลบ 
นอนไม่เกิน 21.00 น.อุจจาระทุกวันก่อน 7.00 น. เช้าออกกำลังกาย ตอนเช้าทุกวัน


แหล่งที่มา : siamhealthy.net

อัพเดทล่าสุด